ยูจอง Brave Girls เปิดใจเกี่ยวกับความลำบากในอดีตและเผยว่าเธอได้รับเงินก้อนแรกแล้วหลังเดบิวต์ 6 ปี

ในวันที่ 11 สิงหาคม 2021 ในรายการ ‘The Demonstration Museum ของ KBS Joy ยูจอง Brave Girls เข้ามาเป็นแขกรับเชิญ

ในรายการยูจองเปิดเผยความยากลำบากทางการเงินของเธอในอดีตขณะที่โปรโมทกับวง เธอเล่าว่า “ฉันรู้สึกขอโทษเสมอต่อบริษัท ท่ามกลางความล้มเหลวจากอัลบั้มของเราบริษัทก็ยังคงปล่อยอัลบั้มให้เรา แต่อีกทางหนึ่งเรากฌไม่ได้รับแม้แต่ 1% ของกำไร ขณะที่เราได้รับเงินลงทุนไม่มีอะไรที่เราทำสำเร็จ มีคนมากมายที่ไม่รู้ว่าเราคัมแบ็ค มีคำพูดคำนึงที่เราใช้บ่อยๆว่า ‘ไม่ว่าเราจะทำอะไร เราก็ไม่ประสบความสำเร็จ'”

เธอกล่าวต่อ “เราไม่ได้รายได้เพียงพอจากการแสดงที่หน่วยทหาร แต่เราชอบยืนอยู่บนเวทีจริงๆ เราทุกคนรู้ดีว่าถ้าพวกเราคนใดคนหนึ่งยอมแพ้มันก็จะเป็นแบบนั้นจริงๆแต่พวกเรา 4 คนยังคงสู้ต่อและพูดว่า ‘มาทำการแสดงด้วยกันอย่างน้อยสักหนึ่งครั้ง ปล่อยอีกสักอัลบั้ม'”

ยจากนั้นยูจองเปิดเผยว่าสุดท้ายแล้วสมาชิก Brave Girls ก็ได้รับเงินก้อนแรกของพวกเธอหลังจากเดบิวต์มายาวนาน 6 ปี เธอเผยว่า “ปัจจุบันพวกเราได้รับเงินแล้วค่ะ”

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

หากไม่ต้องการพลาดข่าวสารอย่างรวดเร็วจากเรา เลือกแถบกำลังติดตาม ->อย่าลืมติ๊ก ✔ เลือกเห็นโพสต์ก่อนของเพจ Facebook ของเรานะคะ

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

มินอาอดีตสมาชิก AOA เปิดใจเกี่ยวกับความลำบากในชีวิตและสุขภาพ

มินอาอดีตสมาชิก AOA เปิดใจเกี่ยวกับความลำบากในชีวิตและสุขภาพ และอื่นๆ

วันที่ 30 เมษายน 2021 มินอาได้ระบายความไม่พอใจในจดหมายยาวๆบนอินสตาแกรมซึ่งในจดหมายมีใจความดังนี้:

“ฉันรู้หลายอย่าง… คุณบอกให้พอ คุณป่วยและเบื่อกับสิ่งนี้ คุณเริ่มคิดว่าชินจีมินเป็นเหยื่อ ฉันรู้ดีว่ายิ่งฉันทำแบบนี้มากเท่าไหร่คนมากมายก็จะวิจารณ์ฉันและมองฉันในแง่ลบ แต่ฉันไม่ได้บ้าฉันเคยเป็นคนร่าเริงที่ชอบหัวเราะมากๆ ในความเป็นจริงฉันเป็นโรคซึมเศร้าอย่างรุนแรง มันไม่ใช่ไบโพลาร์หรือโรคจิต ฉันเป็นโรควิตกกังวล, กลัวสังคม, โรคแพนิค และโรคซึมเศร้า ตั้งแต่ฉันยังเด็กฉันบอกกับตัวเองว่าฉันต้องเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัว ฉันตัดสินใจจะรับบทเป็นคุณพ่อดังนั้นฉันจึงทำงานพาร์ทไทม์หลายอย่าง เพราะฉันต้องออกจากโรงเรียนฉันมีประสบการณ์มากมายบางอย่างมันก็ทำให้ฉันเจ็บปวด แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็โฟกัสให้กับการหาเงินฉันโฟกัสกับการเข้มแข็ง ทำไมฉันถึงไม่เสียใจไม่เจ็บปวดฉันเป็นเหมือนพ่อฉันใจเย็นและกล้าหาญ

ตั้งแต่ฉันอายุ 17 จน 27 ฉันถูกจีมินรังแก ฉันไม่รู้ว่าทำไมแต่เธอทำให้ฉัยเจ็บปวดด้วยคำพูดและการกระทำ เมื่อฉันเติบโตในช่วง 20 กลางๆ ฉันเชื่อว่าฉันพยายามทำให้ดีที่สุดและทำงานหนักเพื่อคนอื่นๆ ถ้าเธอไม่มีเหตุผลที่จะเกลียดฉันงั้นพี่น่าจะเรียนรู้ที่จะชอบฉันเหมือนกัน เมื่อมองย้อนกลับไปฉันไม่เข้าใจว่าทำไมฉันถึงตัดสินใจที่จะอดทนกับทุกสิ่งและผลักดันให้ตัวเองยอมรับและต้องกินยา ฉันเหมือนเป็นคนโง่

ตอนที่ฉันอายุ 26 ฉันเหมือนอยู่บนปลายเชือก ก่อนที่จะหมดสัญญาฉันพยายามจบชีวิตตัวเองสองครั้งด้วยการกินยานอนหลับแต่ผ่านไปไม่กี่วันฉันก็รอด ถ้าคุณไม่เคยผ่านเรื่องนี้คุณไม่เคยรู้มาก่อนว่าฉันได้ยินอะไรมาบ้างถูกดุอย่างไม่มีเหตุผล ใช้ชีวิตเป็น 10 ปีแบบที่ไม่สามารถลืมได้

แล้วคุณรู้มั้ยอะไรที่มันแย่กว่านั้น? ฉันไม่เคยคิดจะรวบรวมหลักฐานเช่นเวชระเบียนจากการไปพบจิตแพทย์ สมาชิกที่ใช้เวลากับฉันอาจจะจำได้แต่พวกเขาก็ไม่ได้ผ่านอย่างที่ฉันเจอมา พวกเขาไม่ใช่ฉันพวกเขาอาจจะอยู่ข้างๆฉันและวิจารณ์จีมินแบบฉันก็ได้… ดังนั้นฉันอาจจะพาพวกเขามาอยู่ข้างๆฉันจริงๆแต่ก็ไม่มีคนเหล่านั้นพูดแทนฉันเลยไม่มีใครเคยทำ อาจจะยกเว้นเพื่อนคนหนึ่งเหยื่ออีกคนที่โดนรังแกเหมือนฉัน ฉันคิดว่ามีอีกคนหนึ่งที่อาจเห็นด้วยและเป็นพยานของฉัน… นั่นคือทั้งหมดที่ฉันมี ฉันไม่เคยได้รับคำขอโทษอย่างจริงใจ ฉันอาจพูดว่า ‘ขอโทษ’ แต่เธอบกว่าเธอจำอะไรไม่ได้เลย เธอบังคับให้คำขอโทษออกจากปากของเธอและออกจากบ้านของฉันไปด้วยท่าทางที่หงุดหงิด ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมเธอถึงทำตัวแบบนั้น ทันทีที่เธอมาบ้านของฉันเธอถูกยั่วยุทุกอย่างและเริ่มมองหามีด ฉันไม่รู้ว่าหัวหน้าทีมชายและผู้จัดการจะมาด้วยตอนที่ฉันนั่งคุยกับพวกเขา

อย่างไรก็ตามนี่คือสิ่งที่ฉันพยายามจะบอกทุกคน คุณก็เอาแต่ถามว่า ‘ไม่พอใจอีกหรอที่ฉันทำให้เธออกจากวงการบันเทิง?’ ไม่ ฉันยังคงฝันร้ายถึงคนๆนั้น ฉันต้องกินยามากขึ้นเรื่อยๆเพราะเธอ ฉันเอาแต่ทำร้ายตัวเองและตาย เมื่อฉันถามตัวเองว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนั้น ฉันคิดได้ว่าเธอคือเหตุผล ทำไมฉันถึงอัปโหลดภาพเปื้อนเลือดล่ะ? ฉันอยากให้เพื่อนของเธอเห็น พวกเขาอาจจะบอกให้เธอรู้ ฉันพยายามติดต่อกับเธอแต่เธอไม่รับสายฉัน ฉันไม่รู้ว่าเธอเปลี่ยนเบอร์หรือเปล่า

ทำร้ายตัวเองหรอ? ฉันทำอย่างน้อยทุกๆสามวัน มันไม่ใช่ร่างกายเธอแต่เป็นฉัน ครอบครัวฉันก็ทุกข์ไปด้วย คนรอบข้างฉันก็เป็นห่วง พวกเขาอยากรู้ว่าทำไมฉันเอาแต่ทำแบบนี้…ฉันทำเพราะฉันคิดว่าทุกอย่างมันไม่แฟร์แต่ก็ไม่มีทางให้แก้ไข ฉันร้องไห้กับความว่างเปล่าและทุกๆสิ่ง การใช้ชีวิตอย่างนี้….การที่เห็นตัวเองใช่ชีวิตอยู่แบบนี้ บางครั้งฉันรู้สึกเหมือนมันอาจดีกว่าที่ฉันจะหยุดชีวิต บอกตามตรงฉันไม่กลัวอะไรอีกต่อไปแล้ว

แม้ว่าจริงๆแล้วฉันอยากนั่งคุยกับเธอแบบตัวต่อตัวและพูดออกมาเลย ทะเลาะกันแค่ขอโทษ…หรืออะไรสักอย่าง 10 ปีมันนานมาก คุณทุกคนอาจไม่เข้าใจแต่ฉันเป็นเหยื่อที่เกี่ยวข้องและฉันจำทุกอย่างได้ฉันจะจดจำมันตลอดไป ฉันยอมแพ้ให้กับอาชีพที่เคยเป็นและเป้าหมายของฉัน ฉันต้องเดินออกจากความฝั่นของตัวเอง คุณจะไม่เข้าใจเลยเว้นแต่คุณจะเจอสิ่งที่ฉันเจอมา คุณไม่มีทางรู้ว่าฉันรู้สึกอย่างไรในตอนนั้นและทำไมฉันถึงใช้ชีวิตแบบนี้”

 

ดูโพสต์นี้บน Instagram

 

โพสต์ที่แชร์โดย 권민아 (@kvwowv)

Mina (AOA) | Soompi

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

หากไม่ต้องการพลาดข่าวสารอย่างรวดเร็วจากเรา เลือกแถบกำลังติดตาม ->อย่าลืมติ๊ก ✔ เลือกเห็นโพสต์ก่อนของเพจ Facebook ของเรานะคะ

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

ผู้เข้าแข่งขัน “Idol School” พูดถึงความลำบากขั้นรุนแรงที่ต้องเผชิญในระหว่างถ่ายทำ

News Desk ของ MBC เปิดเผยสภาวะที่เด็กฝึกของรายการ Idol School ต้องเผชิญ

Idol School ต้องเผชิญหน้ากับข้อกล่าวหาเรื่องผลคะแนนและความไม่เป็นธรรมและล่าสุดในวันที่ 4 ตุลาคม 2019 รายการ News Desk เผยว่าเด็กฝึกต้องเผชิญกับสภาวะที่รุงแรงเมื่อพวกเธอต้องอยู่หอพักในระหว่างถ่ายทำรายการและผู้เข้าแข่งขันคนหนึ่งกล่าวว่าเธอไม่ได้รับเสื้อกันหนาวที่เพียงพอโดยกล่าวว่า “เราต้องผ่านหน้าหนาวด้วยเสื้อผ้าหน้าร้อน เราพูดกันว่า ‘นี่มันรู้สึกเหมือนอยู่กองทัพ’ เวลา 6 เดือนเรารู้เหมือนเรากำลังจะตายที่สวมชุดหน้าร้อน เราสั่นเสมอเพราะเราหนาวมาก”

ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆอ้างว่าเด็กฝึกไม่ได้รับอนุญาตให้ไปโรงเรียน เธอกล่าวว่า “พวกเขาอนุญาตให้เราไปโรงเรียนแค่หนึ่งหรือสองครั้งต่อเดือน” เด็กฝึกคนเดียวกันอ้างว่าเด็กฝึกทุกคนมักจะหิวในรายการและกล่าวว่า “เราซ่อนอาหารไว้ในหมวกและชุดชั้นในและเราเอาทั้งหมดออกมาจากชุดชั้นในและกินมันด้วยกันเหมือนคนไร้บ้าน”

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

หากไม่ต้องการพลาดข่าวสารอย่างรวดเร็วจากเรา เลือกแถบกำลังติดตาม ->อย่าลืมติ๊ก ✔ เลือกเห็นโพสต์ก่อนของเพจ Facebook ของเรานะคะ

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

Happy Unni ร้านค้าแฟชั่น

เวย์อดีตสมาชิก Crayon Pop เผยการเป็นไอดอลต้องแลกด้วยรอยฟกช้ำและการอดนอน

เวย์อดีตสมาชิกวง Crayon Pop ได้เปิดใจเผยความลำบากมากมายที่เธอต้องเผชิญในเส้นทางไอดอล

ล่าสุดไอดอลสาวเวย์ได้ให้สัมภาษณ์ใน Youtube ช่อง Asian Boss เธอเปิดใจเล่าถึงประสบการณ์ความยากลำบากบนเส้นทางสายไอดอลให้แฟนๆได้รู้

เวย์เผยว่าเธอต้องซ้อมเต้นทั้งวันและมีรอยฟกช้ำและบวมบ่อยๆที่ขา และสมาชิกต้องสวมถุงทรายหนัก 5 กิโลกรัมไว้ที่ขาทั้งสองข้างในขณะฝึกซ้อม สมาชิกไม่สามารถนอนหลับได้และถูกบังคับให้มาที่สำนักงานใหญ่ของต้นสังกัดในเวลาตีสี่ และบ่อยครั้งที่ต้องกลับบ้านในเวลาเที่ยงคืน การอดนอนถือเป็นเรื่องปกติของไอดอล นอกจากนี้เธอยังจำเป็นต้องอดอาหารเพื่อควบคุมน้ำหนักอีกด้วย

ไม่เพียงเท่านี้เวย์ยังเผยว่าสมาชิกต้องอยู่ภายใต้การดูแลอย่างเข้มงวด ซึ่งพ่อของเธอไม่ได้รับอนุญาตให้มาพบกับเธอแม้ว่าวันนั้นจะเป็นวันเกิดของเธอก็ตาม

ชมคลิปของเวย์ด้านล่างเลย

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

หากไม่ต้องการพลาดข่าวสารอย่างรวดเร็วจากเรา เลือกแถบกำลังติดตาม ->อย่าลืมติ๊ก ✔ เลือกเห็นโพสต์ก่อนของเพจ Facebook ของเรานะคะ

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

Happy Unni ร้านค้าแฟชั่น

ชาอึนอูพูดถึงการฝ่าฟันความลำบากของวง Astro ในปี 2018

ไอดอลหนุ่มชาอึนอูเผยความคิดในการฝ่าฟันความลำบากของวง Astro จากปัญหาของต้นสังกัดในปี 2018 รวมถึงที่มาของน้ำตาในการขึ้นแสดงบนเวทีคอนเสิร์ตฉลองสิ้นปี

วันที่ 16 มกราคม 2019 Astro ได้จัดงานคัมแบ็คโชว์เคสของพวกเขาที่ COEX Artium ในกรุงโซล ท่ามกลางสื่อมวลชนและผู้เกี่ยวข้องที่เข้าร่วมงานมากมาย

ในโชว์เคสสมาชิก Astro แสดงเพลงไตเติ้ล All Night รวมทั้ง Bloom จากอัลบั้มเต็มแรกของพวกเขา All Light พร้อมทั้งให้สัมภาษณ์ในงาน

ชาอึนอูที่โปรโมทต่อเนื่องในฐานะนักแสดงและนายแบบโฆษณาในปี 2018 กล่าวว่า “ในฐานะที่นี่เป็นครั้งแรกจากที่ผ่านมานานที่ผมได้คัมแบ็คพร้อมกับวง ผมจะเข้าร่วมด้วยความพยายามที่ดีที่สุดในฐานะสมาชิก Astro ครับ ผมรู้สึกว่าควรจะทำให้ดีที่สุดในทุกงานที่ได้รับ ผมวางแผนทำงานหนักโดยหวังว่าจะมีคนเห็นถึงเสน่ห์ ความตลก ความเซ็กซี่และทีมเวิร์คที่ดีของเราขนาดไหนมากขึ้นครับ ผมพร้อมที่จะวิ่งไปข้างหน้าแล้ว”

ชาอึนอูยังพูดถึงการที่เขาเช็ดน้ำตาในระหว่างการแสดงของ Astro บนเวทีคอนเสิร์ตงานฉลองสิ้นปี 2018 ในช่วงเวลาที่ยากลำบากจากปัญหาต้นสังกัดที่วงต้องเผชิญในปี 2018 ว่า “บอกตามตรงว่ามันยากมากครับ ในช่วงคอนเสิร์ตสิ้นปีผมเผชิญกับความทุกข์ และพวกเราทุกคนต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่คุณสามารถเพียงแค่เติบโตขึ้นหลังจากประสบการณ์ความเจ็บปวด ตอนนี้พวกเราไม่เป็นไรแล้ว ผมเชื่อว่าเหตุการณ์แบบนั้นจะเป็นปุ๋ยที่ดีในการเติบโตของเรา”

ไอดอลหนุ่มกล่าวต่อ “เราจะเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นหลังจากทนกับปัญหาและอุปสรรคด้วยกัน และพวกเราได้รับความเข้มแข็งเพื่อปกป้องรากฐานของเราครับ”

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

Happy Unni ร้านค้าแฟชั่น

นัมจูฮยอกเปิดใจถึงความลำบากด้านการเงินของครอบครัวในอดีต

นัมจูฮยอกเปิดใจถึงความลำบากด้านการเงินของครอบครัว

ในวันที่ 19 กันยายน 2018 มีการออกอากาศรายการ Radio Star ของ MBC และนัมจูฮยอกเผยว่าเขาเติบโตมาในครอบครัวที่ยากจน เขากล่าวว่า “ในอดีตครอบครัวของผมมีช่วงเวลาที่ยากลำบากและมันลำบากมากจริงๆครับ ตอนผมอยู่ป.3 ผมกินแต่บะหมี่ถ้วยเป็นปีๆ บ้านของเราไม่มีแม่แต่ห้องน้ำครับ”

อย่างไรก็ตามนัมจูฮยอกเล่าว่าตอนนี้เขาสามารถดูแลครอบครัวและแม้กระทั่งบริจาคให้กับโรงเรียนของเขา

เมื่อได้ยินดังนี้โจอินซองเล่าว่า “จูฮยอกเคยร้องไห้ขณะที่คุยกับพี่ชาแทฮยอนด้วยครับ” นัมจูฮยอกอธิบายว่า “ผมไม่รู้ว่าทำไมแต่จู่ๆผมก็ร้องไห้ สถานการณ์ของผมมันไม่ค่อยดีตอนอายุ 21 แม้ว่าผมจะเป็นนายแบบ แต่มันก็ดีขึ้นหลังจากละคร ‘School 2015′” และกล่าวว่า “คุณแม่ของผมสามารถใช้บัตรได้อย่างสบายแล้วครับในตอนนี้”

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

Happy Unni ร้านค้าแฟชั่น

สมาชิกซุปเปอร์จูเนียร์รำลึกถึงความลำบากในอดีตที่ผ่านมาของพวกเขา

สมาชิกวงซุปเปอร์จูเนียร์ (Super Junior, SJ) ได้รำลึกถึงความลำบากในอดีตที่ผ่านมาของพวกเขา

สำหรับตอนที่ 2 ของรายการพิเศษ We Moved in Together ของ Super Junior สมาชิกถูกจับคู่ให้อยู่กับรูมเมทที่พวกเขาไม่สนิทด้วย ชินดงจับคู่กับดงเฮ อีทึกจับคู่กับฮีชอล และเยซองจับคู่กับอึนฮยอก

ในที่พักของอึนฮยอกและเยซอง พวกเขาคุยกันถึงช่วงลำบากในตอนเป็นเด็กฝึก อึนฮยอกเปิดใจถึงตอนที่ครอบครัวเขาอาศัยอยู่ในชั้นใต้ดินของอพาร์ทเมนท์บนเนินเขาในช่วงที่เรียนมัธยมปลายปีสุดท้าย วันหนึ่งหลังกลับจากโรงเรียนอึนฮยอกพบแม่ของเขานอนหมดแรงบนพื้นหลังจากทำงานหนัก เขากล่าวว่า “ผมยังจำภาพของแม่ในวันนั้นได้อยู่เลยครับ”

ส่วนฮีชอลและอีทึกได้พูดถึงมิตรภาพของพวกเราที่แข็งแกร่งในตอนแรก แต่แล้วก็เริ่มจืดจางลงเมื่อเวลาผ่านไปเนื่องจากความกังวลในอาชีพของพวกเขา ฮีชอลกล่าวว่า “เมื่อมานึกถึงมันแล้วพวกเราอึดอัดต่อกันน้อยกว่านี้ตอนที่ยังเป็นเด็กฝึก เมื่อพวกเราไปออกวาไรตี้โชว์สมาชิกทุกคนต่างเตรียมตัวด้วยกัน แต่ฉันเตรียมตัวเพียงลำพัง”

อีทึกกล่าวว่า “นายมีชื่อเสียงมากกว่าเราในตอนนั้นเพราะนายได้ออกทีวีแล้ว ผู้จัดการเคยบอกฉันครั้งหนึ่งว่า ‘ฮีชอลกำลังไปออกรายการดังนั้นฉันจะให้นายไปออกด้วย หากนายทำได้ไม่ดี รู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น?'” ทั้งคู่ต่างเห็นตรงกันว่ามีความลำบากเพราะชื่อเสียงในอดีต แต่พวกเขาเข้าใจกันแล้วเมื่อโตขึ้นในตอนนี้

ฮีชอลอธิบายว่า “เมื่อเราเริ่มทำงาน เราทำได้ดีในสิ่งที่เราทำ เราเริ่มเข้าสู่ความขัดแย้งกัน” อีทึกเห็นด้วยและกล่าวว่า “เราไม่สามารถเมินเฉยต่อเวลาที่อยู่ด้วยกันได้ เนื่องจากพวกเราอยู่ช่วงวัยสามสิบตอนกลาง ผมคิดว่าฮีชอลและผมเริ่มเข้าใจกันมากขึ้น”

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

จินยอง GOT7 เผยความลำบากที่มีชื่อเดียวกันกับโปรดิวเซอร์พัคจินยอง

พัคจินยอง GOT7 ได้เล่าถึงประสบการณ์ความลำบากที่เขามีชื่อเดียวกับผู้ก่อตั้ง JYP Entertainment อย่างโปรดิวเซอร์พัคจินยอง (เจวายพี)

วันที่ 10 มีนาคม 2018 มีการออกอากาศรายการ Knowing Brothers ทางสถานี JTBC ซึ่งพัคจินยองสมาชิก GOT7 ได้เล่าถึงตอนที่แม่ของเขามักจะส่งกิมจิมาให้บ่อยๆที่ JYP แต่เขาไม่เคยได้รับเลย จากนั้นจึงหันไปถามโปรดิวเซอร์พัคจินยองว่า “ตอนนั้นคุณเคยได้รับกิมจิบ้างไหมครับ?”

ลุงพัคจินยองตอบว่า “ฉันไม่รู้เลย ในตอนนั้นฉันแทบจะไม่ได้กินข้าวที่บ้านเลยเพราะว่าฉันอยู่คนเดียว ฉันจะกินกิมจิได้อย่างไรในเมื่อไม่มีข้าวที่บ้านด้วยซ้ำ?”

จินยอง GOT7 เผยว่า “ผมมารู้ที่หลังว่าพี่เขามีคลังเก็บสินค้าเอาไว้สำหรับรับของทั้งหมดที่ส่งมาครับ ตั้งแต่นั้นมาผมจะส่งและรับในชื่อ ‘เด็กฝึกพัคจินยอง’ หรือไม่ก็อย่างอื่นครับ”

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

Happy Unni ร้านค้าแฟชั่น

จีโอเปิดใจพูดถึงความลำบากของ MBLAQ และปัญหากับต้นสังกัด ทั้งเผยความรักต่อชเวเยซึล

จีโอ MBLAQ ได้เปิดใจพูดถึงความลำบากของสมาชิกและปัญหากับต้นสังกัด รวมทั้งพูดถึงแฟนสาวของเขาดาราสาวชเวเยซึล

วันที่ 4 มกราคม 2018 จีโอได้เขียนจดหมายยาวถึงแฟนคลับวง MBLAQ ลงในแฟนคาเฟ่อย่างเป็นทางการของวง โดยกล่าวดังนี้

“ผมรู้ว่าพวกคุณต่างแปลกใจเกี่ยวกับข่าวนี้ ผมมั่นใจว่าคุณจะโกรธและผิดหวัง วันนี้ผมจะบอกคุณอย่างเป็นส่วนตัวมากขึ้น ผมมีประสบการณ์ความพ่ายแพ้ที่ยิ่งใหญ่สองครั้งในชีวิต ซึ่งทั้งสองประสบการณ์นี้มีเหมือนกันคือทั้ง Tykeys และ MBLAQ ผมอยู่ใต้การควบคุมของคนอื่นและมีประสบการณ์แยกจากกันกับสมาชิก ผมรุ่งโรจน์ขณะที่โปรโมทในฐานะสมาชิก MBLAQ มันเป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตผม

ผมสามารถซ่อนในสิ่งที่ผมยังคงบกพร่องได้เนื่องจากความรักที่ไม่มีวันจบของแฟนๆและสมาชิกวง ดังนั้นผมจึงไม่กลัวอะไรเลย อย่างไรก็ตามความรุ่งโรจน์ที่ผมคิดว่าจะอยู่ตลอดไปกลับอยู่ได้ไม่นาน เพราะว่าปัญหาด้านบัญชีของต้นสังกัดเราและแนวทางการแก้ไขจัดการที่ผิด ผมจึงต้องบอกลากับสองสมาชิก ในตอนแรกผมไม่รู้อะไรเลย ผมไม่พอใจคนอื่นเพื่อที่จะตำหนิพวกเขาในสิ่งที่มันยากสำหรับผม

เมื่อเวลาผ่านไปซึงโฮ, มีร์และผมต่างถูกทิ้งไว้ข้างหลังในบริษัท และรู้ถึงความจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องของต้นสังกัดเรา อย่างไรก็ตามเรายังคงต้องการปกป้องชื่อ MBLAQ มันประหลาดและน่าขันมาก คนมากมายตำหนิและชี้นิ้วมาที่พวกเรา เราขอให้ต้นสังกัดออกคำแถลงการณ์อย่างเป็นทางการต่อนักข่าวผู้ที่คอยตั้งข้อสงสัยในแง่ร้าย เพื่อจะแก้ไขความเข้าใจผิด อย่างไรก็ตามต้นสังกัดบอกว่าสัญญากับสมาชิกหมดลงภายใต้เงื่อนไขว่าจะไม่สามารถทำได้ นั่นเป็นเพราะความผิดของต้นสังกัด

ในตอนนั้นผมมีช่วงเวลาทีทุกข์ทรมาน ทั้งหมดที่ผมทำคือการอายุมากขึ้น สิ่งเดียวที่ผมทำในสังคมคือการร้องเพลงบนเวที ดังนั้นมันเป็นบาดแผลที่ยากจะจัดการสำหรับผม มากกว่าหกเดือนที่ผ่านมาที่ความเจ็บปวดควบคุมร่างกายและจิตใจของผม ผมใช้เวลาช่วงนั้นในการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ความซึมเศร้าไม่อนุญาตให้ผมออกจากบ้านและผมจบลงด้วยการขาดการติดต่อกับผู้คน ผมไม่สามารถกระทั่งรับโทรศัพท์จากครอบครัวตัวเอง และผมมีชีวิตแบบคนโง่เป็นเวลานาน

เมื่อเรื่องต่างๆเริ่มดีขึ้น ผมได้รวบรวมความกล้าหาญ เราปล่อยอัลบั้ม Winter และอย่างเคยที่ความเห็นของผู้คนต่อเราเต็มไปด้วยความรุนแรงรวมทั้งสื่อยังปล่อยแค่เพียงข่าวที่เต็มไปด้วยการจิกกัด ความมั่นใจของผมหล่นลงมาแตะพื้นและผมรู้สึกขอโทษต่อแฟนๆ ผมเข้ากองทัพในวัยที่ค่อนข้างช้า และจากนั้นผมจบลงด้วยการใช้ชีวิตธรรมดา เมื่อมองกลับไปผมมีชีวิตที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือด และผมรู้สึกผิดหวังจากความเหนื่อยล้าทางอารมณ์ของผม

ผมเคยพูดถึงความรู้สึกกับแฟนบ้างเป็นครั้งคราว แต่เมื่อผมคิดว่าจะเลิกการเป็นนักร้อง อารมณ์ของผมก็สั่นคลอนอีกครั้งและผมกลัวว่าจะสูญเสียแฟนๆ สไตลิสต์ ผู้จัดการ ช่างแต่งหน้าทำผมและเพื่อนๆ ในอดีตผมรู้สึกจริงๆว่าใช้ชีวิตผ่านการแยกจากกันทุกวัน

ผมคิดว่าควรใช้ชีวิตเพื่อตัวเอง ความสุขของผมต้องมาก่อน ผมควรใช้ชีวิตเพียงแค่ตัวเองเท่านั้นและค้นหาความสุข อย่าเข้าใจผิดว่าความสุขของคนอื่นเป็นของผม ตัวตนของผมยังหลงเหลืออยู่หรือไม่? หากคนนั้นยังคงมีอยู่จริงๆผมจะปกป้องพวกเขา ในขณะที่ผมสร้างคุณค่าใหม่ผ่านประสบการณ์ที่หลากหลาย ผมได้พบกับชเวเยซึล ผมแปลกใจมากที่สามารถมีความสุขได้โดยปราศจากความกังวลใดๆ ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมเพื่อนๆหรือคนอื่นถึงอยากจะโม้เวลาที่พวกเขาได้รับความรักจากผู้หญิง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผมไม่ปฏิเสธโพสต์ใน IG

ผมรักงานแฟนมีต เหตุผลที่ผมต่อสู้กับต้นสังกัดจนถึงตอนจบเป็นเพราะแฟนๆของเรา ผมสงสัยว่ามันจะต้องใช้จ่ายมากเท่าไหร่และมันยากขนาดไหนในการหาสถานที่สำหรับแฟนๆและเอาแต่บอกว่าเราไม่สามารถทำมันได้ ผมอยากทำมันด้วยตัวเอง แขกพิเศษในงานแฟนมีตคือมีร์ มันเป็นเวลาสุดสัปดาห์และเขาบอกว่าเขามาร่วมงานได้ และเขามาพบกับแฟนๆ ผมไม่รู้ว่าทำไมถึงมีข้อสงสัยว่าผมจะแนะนำแฟนของตัวเองในงานแฟนมีต

ผมกำลังจะพูดถึงทิศทางที่จะเดินไปในอนาคตและตอบคำถามอย่างซื่อสัตย์ต่อทุกคำถามเกี่ยวกับผมในงานแฟนมีต แม้ว่าจะมีคนมาเพียงคนเดียวผมก็ยังคงจะจัดงานแฟนมีตต่อไปตามแผน ก่อนที่ผมจะเป็นนักร้องผมก็เป็นเพียงคนธรรมดา ในฐานะคนที่เติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่ปกติและอบอุ่น เป้าหมายของชีวิตผมคือการได้ใช้ชีวิตแต่งงานอย่างมีความสุขกับผู้หญิงที่ผมรัก

ผมไม่คิดว่าโอกาสจะมาหาคุณเวลาที่คุณต้องการมัน มันไม่มีเงื่อนไขด้วยเหตุผล, วิธีการและลำดับ เพียงเพราะว่าคุณไม่เข้าใจไม่ได้หมายว่าว่าคุณต้องวิพากษ์วิจารณ์มัน มันไม่ใช่ความผิด มันเป็นเพียงแค่ความแตกต่าง น่าทึ่งมากพอ เมื่อผมพูดถึงแผนที่เฉพาะเจาะจงในงานแฟนมีตเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว คนที่ไม่เคยเห็นและไม่เคยแสดงความเห็นได้แกล้งทำตัวเป็นแฟนคลับผม ปรากฏตัว ด่าหยาบคายและพยายามเรียกร้องความเห็นใจ

ผมขอโทษแต่ผมจะไม่เปลี่ยนความคิดเพราะความคิดที่ใจแคบแบบนั้น ผมมักจะขอโทษเสมอที่ผมไม่สามารถมอบความรักให้กับคนที่รักผมได้อย่างเพียงพอ นักร้องและแฟนคลับของพวกเขาต้องเชื่อมโยงกันผ่านเพลงและการแสดง และผมไม่คิดว่าความสัมพันธ์แบบนั้นสามารถมีอยู่ได้เพียงเพราะพวกเขายอมรับชีวิตส่วนตัวของกันและกัน ผมไม่เคยลืมและไม่เคยหลอกลวงแฟนๆ A+ ของผม พวกคุณคือผู้ที่มอบความรุ่งโรจน์ให้ผม และผมอยากตอบแทนคุณในเรื่องนี้ ผมขอขอบคุณอย่างจริงใจต่อทุกคนที่สนับสนุนผมต่อข่าวนี้ ผมขอบคุณเสมอและรักคุณครับ”

อนึ่ง MBLAQ เดบิวต์ในฐานะวงที่มีสมาชิก 5 คนในปี 2009 ภายใต้ต้นสังกัด J.Tune Camp ต่อมาในปี 2014 อีจุนและธันเดอร์ได้ออกจากวง แต่ไม่มีการยุบวงอย่างเป็นทางการ J.Tune Camp ตอนนี้ได้ยุบตัวลงและขาย MADTOWN ให้กับต้นสังกัดอื่นไป

แปลจาก soompi โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

Happy Unni ร้านค้าแฟชั่น

ไอดอลสาวรุ่นน้องมักระบายถึงความลำบากในการโปรโมทระหว่างมีรอบเดือนให้ฮีชอล SJ ได้ฟัง

ฮีชอลวงซุปเปอร์จูเนียร์ (SJ, Super Junior) เผยว่าสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปรุ่นน้องที่เขาสนิทด้วยมักจะระบายถึงความลำบากในการโปรโมทขณะมีรอบเดือนให้เขาฟัง

ในรายการ Pot Stand ที่ออกอากาศสัปดาห์นี้ ฮีชอลผู้ที่อยู่ระหว่างสร้างคู่มือสำหรับเกิร์ลกรุ๊ปหน้าใหม่ได้เข้าเยี่ยมเยือนสมาชิก PRISTIN เพื่อรับคำแนะนำเล็กๆน้อยๆ

ขณะที่พูดคุยถึงความกลังวลบางอย่างของสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ป ชียอนกล่าวว่า “ฉันหวังว่าคนจะรู้ถึงความลำบากของสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปที่ต้องผ่านช่วงเวลาการมีรอบเดือนค่ะ”

ฮีชอลดูตกใจเล็กน้อยในตอนแรกที่ได้ยินแต่เขาตอบกลับไปแบบผู้ใหญ่ว่า “ฉันมักจะสนิทกับน้องๆเกิร์ลกรุ๊ปหลายคนดังนั้นพวกเธอจะระบายกับฉัน ได้ยินว่าพวกเธอรู้สึกเหมือนกำลังจะตายในช่วงเวลานั้น”

ฮีชอลกล่าวต่อ “ฉันได้ยินมาว่ามันยากจริงๆเพราะพวกเธอจะกลายเป็นอารมณ์อ่อนไหวมากและนอนพักผ่อนไม่เพียงพอแต่ยังคงต้องยิ้มแย้มอย่างต่อเนื่องในฐานะคนดัง มันสามารถนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้หากเกิดขึ้นอย่างรุนแรง”

ในเรื่องนี้สมาชิก PRISTIN ต่างพยักหน้าเห็นด้วยกับฮีชอล

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

Happy Unni ร้านค้าแฟชั่น

คยองฮา Top Secret พูดถึงความลำบากที่ต้องเผชิญตอนถูกใส่ร้ายว่าล่วงละเมิดทางเพศผู้อื่น

คยองฮาสมาชิกวง Top Secret พูดถึงความยากลำบากในอดีตที่เขาต้องเผชิญ ตอนถูกใส่ร้ายว่าล่วงละเมิดทางเพศผู้อื่น

วันที่ 2 มิถุนายน 2017 มีการจัดงานโชว์เคสอัลบั้มใหม่ของ Top Secret อัลบั้ม Wake Up และคยองฮาสมาชิกวงได้เล่าถึงปัญหาในอดีตของเขา

ย้อนไปเมื่อเดือนมกราคม 2017 มีข่าวลือเกิดขึ้นมากมายในชุมชนออนไลน์หลายแห่ง หลังชาวเน็ตหญิงคนหนึ่งอ้างว่าเธอถูกคยองฮาล่วงละเมิดทางเพศ

ต่อมาต้นสังกัด JSL Company ของคยองฮาได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือว่าไม่เป็นความจริง และประกาศว่าพวกเขาจะใช้มาตรการทางกฎหมายจัดการอย่างเด็ดขาดต่อผู้ที่แพร่ข่าวลือนี้

ในงานโชว์เคสคยองฮาได้มีโอกาสพูดถึงข่าวลือเรื่องนี้ เขาเล่าว่า “ผมมีช่วงเวลาที่ทุกข์ใจเพราะเหตุการณ์แย่ๆที่เกิดขึ้น ผมรู้สึกขอโทษต่อพี่ๆพนักงานในบริษัท แต่ผมมีโอกาสมาที่นี่เพื่อขอบคุณต่อเหล่าพี่ชายที่เป็นกำลังใจให้ผม ผมเติบโตขึ้นอีกขั้นจากเหตุการณ์ครั้งนั้นครับ”

จากนั้นกล่าวต่อ “ผมรู้สึกขอโทษต่อพ่อแม่ที่แกล้งทำเป็นไม่รู้ทั้งที่ความจริงพวกท่านรู้ พ่อแม่บอกผมว่ามันไม่เป็นไรและผมทำได้ดีแล้ว ผมอยากจะโชว์ด้านที่ดีและกลายเป็นลูกชายที่พ่อแม่ภูมิใจครับ”

อนึ่ง Top Secret คัมแบ็คด้วยเพลงใหม่ Mind Control ในวันที่ 4 มิถุนายน 2560

แปลจาก soompi โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

Happy Unni ร้านค้าแฟชั่น

ภรรยาอีไล U-KISS เผยความลำบากที่ต้องเผชิญเมื่อเธอตั้งท้องลูกของไอดอลแบบลับๆ

ล่าสุดภรรยาของอีไลวง U-Kiss ได้ออกมาเปิดใจถึงความลำบากที่เธอต้องเผชิญเมื่อตั้งท้องลูกของไอดอลหนุ่มอย่างลับๆ

วันที่ 5 เมษายน 2017 มีการออกอากาศรายการ Mr. House Husband ทางสถานี KBS 2TV ซึ่งภรรยาของอีไลได้ออกมาเปิดใจทั้งน้ำตาเมื่อเล่าถึงความลำบากที่เผชิญมาในอดีต

ภรรยาอีไลกล่าวว่า “ฉันต้องปิดบังเรื่องการแต่งงานของเรา การตั้งท้องและทุกๆอย่างเพราะมันอาจไปทำลายสามีไอดอลของฉัน ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ค่ะ”

จากนั้นกล่าวต่อ “ฉันไม่สามารถไปหาสูตินรีแพทย์ได้ตอนที่ตั้งครรภ์ ดังนั้นฉันจึงไม่ได้อัลตราซาวด์ ฉันต้องตรวจตัวเองและตรวจดูว่าเด็กยังมีชีวิตอยู่จากที่ตรวจครรภ์ที่บ้าน ในตอนนั้นมีสถานการณ์ที่เสี่ยงหลายอย่างเพราะสุขภาพของฉันอ่อนแอค่ะ”

ภรรยาอีไลเล่าต่อทั้งน้ำตา “ฉันกลัวมากว่าอาจมีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นกับลูกของฉัน ตอนนั้นฉันคิดว่าอีไลรู้ถึงความลำบากของฉันเขาจึงเปิดเผยการแต่งงานของเราและการตั้งครรภ์ของฉันผ่านโซเชียลมีเดียตอนที่ฉันหลับอยู่ค่ะ”

อีไลเล่าว่า “มินซูลูกชายของเราได้ช่วยผมให้เป็นผู้ชายเต็มตัว เป็นสามี และเป็นพ่อครับ หากไม่ใช่เพื่อมินซู ภรรยาและผมคงไม่สามารถเดินมาถึงจุดนี้ได้”

Article image

แปลจาก nate โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

Happy Unni ร้านค้าแฟชั่น

ซึงรี BIGBANG เปิดใจถึงความลำบากจากการพยายามประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง!!

BIGBANG (บิ๊กแบง, Big Bang) กลับมาด้วยอัลบั้มล่าสุด MADE ท่ามกลางการรอคอยมากมายจากแฟนๆ ซึงรีสมาชิกวงได้เปิดใจเกี่ยวกับความท้าทายในการเอาชีวิตรอดในโลกวงการเพลงตลอดเวลาการโปรโมทอันยาวนานของเขากับเพื่อนสมาชิกวง

วันที่ 11 ธันวาคม 2016 มีการออกอากาศรายการ Flower Crew ทางสถานี SBS ซึ่งซึงรีได้เปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาถึงประสบการณ์ในวงการบันเทิงขณะที่พูดคุยกับรุ่นน้องอย่างคังซึงยุน WINNER โดย WINNER นั้นกำลังเข้าสู่ปีที่ 3 จากเดบิวต์

ซึงรีได้ให้คำแนะนำที่สำคัญต่อคังซึงยุนโดยกล่าวว่า “นายต้องทนกับเรื่องที่แน่นอนและเรื่องที่ไม่แน่นอน”

ซึงรีกล่าวต่อ “มันไม่ใช่เรื่องงายสำหรับบิ๊กแบงในการไปถึง 10 ปี คุณจะขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในสิบปีนั้น มันเป็นงานหนักในการค้นหาความสำเร็จของตัวเองท่ามกลางสมาชิกที่ต่างทำได้ดีมาก”

จากนั้นซึงรีได้พูดถึงเพื่อนสมาชิกวง BIGBANG ของเขาว่า “สมาชิกที่แก่ที่สุดของเรา ท็อป (T.O.P) มีจิตใจที่อ่อนโยน และแดซองผู้ที่เป็นเหมือนกับคุณปู่ จีดราก้อน (G-Dragon) และแทยังต่างเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวและอบอุ่น ฉันยังคงใช้คำพูดที่ให้เกียรติพวกเขาและพวกเขาก็ปฏิบัติต่อฉันดีในฐานะน้องคนเล็ก”

แปลจาก soompi โดย Youzab หากนำข่าวออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ hotlink ไฟล์ภาพ)

ไอรีน Red Velvet น้ำตารื้นเมื่อพูดคุยถึงความลำบากในฐานะพี่ใหญ่และหัวหน้าวง

irene_cry-leader

ล่าสุดไอรีนวงเรด เวลเว็ท (Red Velvet) ต้องน้ำตารื้นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อได้พูดคุยถึงความยากลำบากในฐานะพี่ใหญ่ที่เป็นหัวหน้าวง

วันที่ 8 ธันวาคม 2016 มีการออกอากาศรายการ Sheep Show ทางสถานี Mnet ซึ่งไอรีนและจอยจากวง Red Velvet เข้าเป็นแขกรับเชิญรายการในตอนนี้

ในรายการ MC ยางเซฮยองถามไอรีนว่า “มีความยากลำบากอะไรไหมในการเป็นพี่ใหญ่ในวง?” ไอดอลสาวสวยตอบว่า “ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอกค่ะ”

อย่างไรก็ตามจอยที่นั่งข้างๆเธอกล่าวว่า “พวกเรามักจะคุยกันถึงความลำบากของเราเสมอ แต่พี่เขาไม่เคยพูดอะไรเลยค่ะ”

ยางเซฮยองปลอบไอรีนจากประสบการณ์ส่วนตัวของเขา โดยกล่าวว่าเมื่อไหร่ก็ตามในฐานะหัวหน้าหากเขาพูดคุยถึงความลำบากของตัวเองกับรุ่นน้องเวลาที่พวกเขาต่างกำลังประสบปัญหาหรือผ่านความยากลำบากของตัวเอง กลุ่มจะแตกออกจากกัน

และดังนั้นเวลาที่มีปัญหาเขาจึงเลือกที่จะเก็บมันไว้หรือไม่ก็ไปคุยกับรุ่นพี่คนอื่นเพื่อขอคำแนะนำ เขาแสดงความเข้าใจต่อไอรีนโดยกล่าวว่า “มันคงจะมีความยากลำบากและปัญหามากมายที่ไอรีนไม่สามารถพูดถึงได้ [ในฐานะพี่ใหญ่]” เมื่อได้ยินดังนั้นไอรีนจึงน้ำตาเอ่อขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ที่มีคนเข้าใจความรู้สึกของเธอ

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำข่าวออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ hotlink ไฟล์ภาพ)

T-ara เปิดใจถึงความลำบากหลังจากเกิดประเด็นปัญหากับอดีตสมาชิกฮวายอง

t-ara-roly-poly-in-copacabana-mv

T-ara เปิดใจเกี่ยวกับประเด็นขัดแย้งในอดีตกับฮวายอง

สาวๆถูกวิจารณ์อย่างรุนแรงและได้รับความเกลียดชังจากประชาชนหลังจากที่ฮวายองออกจากวง และ T-ara ยอมรับความพวกเธอต้องต่อสู้กับความยากลำบากเนื่องจากเหตุการณ์นั้นโดยกล่าวว่า “หลังจากเกิดปัญหาภาพลักษณ์ของทีอาร่าก็เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากว่าเราต้องเจอช่วงเวลาที่ยากลำบากและแฟนๆของเราก็ต้องผ่านช่วงเวลาลำบากนี้ด้วยเช่นกัน เราต้องทนกับความเจ็บปวดเพราะมันเป็นปัญหาของเราไม่ใช่หน้าที่ที่แฟนคลับของเราต้องมารับผิดชอบ เรารู้สึกขอบคุณพวกเขาเป็นอย่างมากที่ยังคงรักเรา เราจะไม่ลืมพวกเขาไปจนวันตาย”

คำถามต่อมาถูกถามว่าพวกเธอสามารถทักทายฮวายองด้วยรอยยิ้มได้มั้ยในตอนนี้ T-ara ตอบว่า “ฮวายองทำงานของเธอได้ดี และเรื่องมันก็นานมาแล้ว เราคิดว่าเราสามารถทักทายเธอได้ด้วยรอยยิ้มในตอนนี้”

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำข่าวออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ hotlink ไฟล์ภาพ)

ลิซ่า BLACKPINK พูดถึงความเป็นเอกลักษณ์ของเธอ + ความลำบากในการเป็นสมาชิกต่างชาติ

lisa_1478307242_af_org

ในการให้สัมภาษณ์ล่าสุดลิซ่าหรือลลิส BLACKPINK ได้พูดเกี่ยวกับการเป็นสมาชิกชาวต่างชาติ

ลิซ่าสาวไทยที่เป็นหนึ่งในสมาชิกวง BLACKPINK และเป็นส่วนหนึ่งของค่าย YG Entertainment เมื่อพูดถึงความยากลำบากของการเป็นชาวต่างชาติ เธอกล่าวว่า “มันก็ 6 ปีแล้วนับตั้งแต่ที่ฉันมาเกาหลี ในตอนแรกฉันไม่สามารถพูดภาษาเกาหลีได้เลย มันน่าเศร้ามากที่ฉันไม่สามารถสื่อสารกับใครได้ ดังนั้นฉันเลยได้เรียนภาษาเกาหลีทุกวันและสมาชิกของฉันก็ช่วยฉันไว้ได้มาก”

ลิซ่ายังได้พูดถึงบ้านเกิดด้วยว่า “คนไทยรัก K-Pop มีหลายคนที่อยากเป็นนักร้องในวงการ K-Pop ค่ะ” เมื่อถูกถามถึงความโดดเด่นของเธอในหมู่ไอดอลชาวต่างชาติในวงการ K-Pop เธอตอบว่า “ฉันเป็นคนขี้อายค่ะ แต่ฉันพยายามอย่างหนักเพื่อแสดงความสามารถบนเวที ฉันคิดว่านี่เป็นเอกลักษณ์หรือสีสันที่ฉันมี”

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำข่าวออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ hotlink ไฟล์ภาพ)

สมาชิกบีสต์เผยว่าพวกเขาสนิทกันมากขึ้นหลังผ่านความลำบากล่าสุดมาด้วยกัน!!

หนุ่มๆสมาชิกวงบีสต์ (B2ST, Beast) เผยว่าพวกเขาสนิทกันมากขึ้นหลังผ่านอุปสรรคครั้งล่าสุดมาด้วยกัน

ล่าสุดสมาชิกวงบีสต์ได้ถ่ายแบบให้กับนิตยสาร Elle ในคอนเซ็ปต์หนุ่มวัยทำงานที่ดูดีและมีสไตล์ และยังได้ให้สัมภาษณ์สั้นๆในเล่มอีกด้วย

จุนฮยองกล่าวว่า “เราใส่เพลงที่แสดงความเป็นตัวตนในปัจจุบันของเราที่ดีที่สุดในอัลบั้มที่ 3 มันเหมือนกับชาร์ตที่คุณจะเห็นถึงอารมณ์ของสมาชิกและที่ที่พวกเขาอยู่ เนื้อเพลงมาจากประสบการณ์ของพวกเรา ผมคิดว่าความรักในอดีตมีความสำคัญ มันสบายใจขึ้นที่จะพูดถึงความปรารถนาหรือความเจ็บปวด”

B2ST_1468807469_af_org

โยซอบเผยว่าแต่เดิมนั้นเขาทำเอ๊กโย (แอ๊บแบ๊ว) ไม่เก่ง โดยกล่าวว่า “ในตอนแรกมันยากครับแต่ความจริงตอนนี้ผมไม่อยากลองอะไรที่แตกต่างจากที่แฟนๆต้องการจากผมแล้ว ผมอยากแสดงให้เห็นในสิ่งที่แฟนๆอยากจะเห็น ผมคิดว่ามันเป็นงานในฐานะไอดอล คุณคิดอย่างงั้นไม่ใช่หรือครับ?”

กิกวังพูดถึงการที่สมาชิกเหลือ 5 คนว่า “ผ่านเรื่องนี้ทำให้พวกเราสนิทกันมากขึ้น ไม่มีทางที่เราจะเติมเต็มตำแหน่งของฮยอนซึงได้ในตอนนี้ แต่เราจะสามารถเติมเต็มมันได้ทีละน้อยเมื่อเวลาผ่านไปครับ”

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำข่าวออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

คังจียองเล่าถึงความลำบากในการทำงานในญี่ปุ่น!!

Kang Ji Young Talks About The Hardships Of Working In Japan

ล่าสุดคังจียองอดีตสมาชิกวงคารา (KARA) ได้เล่าถึงความลำบากในการที่เธอข้ามน้ำข้ามทะเลไปทำงานในวงการบันเทิงที่ประเทศญี่ปุ่น

คังจียองได้ให้สัมภาษณ์ในประเทศญี่ปุ่นเพื่อโปรโมทภาพยนตร์ล่าสุดของเธอเรื่อง Kataomoi Spiral โดยเธอทำงานในเส้นทางสายนักแสดงในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ออกจากวงคาราในปี 2014

จียองกล่าวว่า “ฉันตัดสินใจมาญี่ปุ่นคนเดียวและเรียนภาษาค่ะ บางครั้งฉันจะคิดในใจว่า ‘คืนนี้นอนดีกว่าโดยไม่ต้องอ่านบทให้เสร็จ’ หรือ ‘วันนี้โดดเรียนดีกว่า’ แต่ฉันไม่ยอมแพ้ต่อความขี้เกียจของตัวเอง เมื่อก่อนฉันเคยมีเพื่อนสมาชิกอยู่ด้วยเพื่อสนับสนุนฉันแต่ตอนนี้ฉันจำเป็นต้องเข้มแข็งขึ้นค่ะ”

เมื่อปีที่แล้วจียองมีผลงานภาพยนตร์แอคชั่นเรื่อง “Assassination Classroom เธอกล่าวว่า “ฉันมีความสุขมากจริงๆเมื่อเห็นข่าวของตัวเองค่ะ” จากนั้นกล่าวต่อ “ฉันดีใจที่ผู้คนสนใจงานของฉันแทนที่จะถามคำถามเกี่ยวกับวง KARA แต่ผู้คนเริ่มถามคำถามเรื่องการแสดงของฉัน”

จียองจบการสัมภาษณ์โดยเผยถึงความฝันของเธอในอนาคตว่า “ฉันอยากแสดงหลากหลายบทบาทในอนาคตค่ะ ฉันจะทำงานหลายอย่างทั้งในญี่ปุ่นและเกาหลีเพื่อเป็นนักแสดงที่ได้รับการยอมรับค่ะ”

แปลจาก soompi โดย Youzab หากนำข่าวออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

Page 1 of 212»

Like แฟนเพจของเราเพื่อติดตามข่าวสารอัพเดทก่อนใครได้ที่นี่เลยจ้า