คู่กรณีที่อ้างว่าเป็นเหยื่อซอจีซู Lovelyz เผยว่าจะรวบรวมหลักฐานส่งให้ตำรวจเช่นกัน!!

หลังจากมีประเด็นการแฉแบบลากใส้ครั้งมโหฬารของคู่กรณีซอจีซูวง Lovelyz ที่อ้างว่าเธอเคยตกเป็นเหยื่อของนักร้องสาวมาก่อน อย่างไรก็ตามต้นสังกัด Woolim Entertainment ได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือนี้ และใช้วิธีการทางกฎหมายดำเนินคดีต่อผู้ปล่อยข่าวลือ

ต่อมาคู่กรณีได้เปิดเผยว่าพวกเธอจะรวบรวมหลักฐานการถูกล่วงละเมิดทางเพศในอดีตส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเช่นกัน แม้จะเป็นการต่อสู้ของคนธรรมดากับต้นสังกัดใหญ่ก็ตาม แต่พวกเธอจะสู้ให้ถึงที่สุด

โดยคู่กรณีที่อ้างว่าเป็นเหยื่อของซอจีซู Lovelyz ได้เขียนคำแถลงการณ์ดังนี้

———————————–

“ฉันเพียงพูดความจริง แต่เพียงเพราะมีคนหนึ่งที่เผยแพร่และพูดความเท็จทำให้เหยื่อทุกคนถูกมองว่าเป็นพวกโกหกเหมือนกันหมด ฉันรู้สึกเหมือนโลกจะถล่มลงมา นี่ราวกับว่าคำโกหกคำเดียวได้ปกปิดความจริงสิบอย่างเอาไว้

ขณะที่ฉันกำลังจะยอมแพ้ ฉันได้มองเห็นคำร้องและบางคนกล่าวว่าเป็นเพราะฉันเงียบหายไป ทำให้ทุกอย่างไม่เป็นความจริง ฉันไม่ใช่คนแรกแต่ฉันรับผิดชอบสำหรับข้อกล่าวหาครั้งนี้ ฉันรู้สึกว่าต้องรับผิดชอบโดยโพสต์สิ่งนี้ เพื่อหยุดกรณีเลวร้ายที่สุดที่จะเกิดขึ้นต่อบรรดาเหยื่อที่ถูกมองเป็นผู้กระทำผิด

บอกตามตรงว่าพวกเราหมดแรง ก่อนจะตกเป็นเหยื่อนั้นพวกเราเป็นผู้หญิงที่เป็นชนกลุ่มน้อยทางเพศ (เลสเบี้ยน) ฉันเป็นคนเปิดกว้างดังนั้นฉันจึงนำปัญหาต่างๆไประบาย แต่คำข่มขู่ เรียกร้องหาหลักฐาน ความกลัว… หลักฐานประเภทไหนกันที่ฉันต้องมีเพื่อให้พวกเขาเชื่อ ฉันมองเห็นเพียงจุดยืนของฉันหลังจากคิดถึงผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุด

ก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้พูดถึงความยากลำบากของตัวเองเนื่องจากฉันต้องการเก็บมันเอาไว้ แต่ในภาวะจิตใจของฉันในตอนนี้ทำให้ฉันไม่สามารถเก็บมันไว้ได้อีกแล้ว ดังนั้นฉันจำเป็นต้องพึ่งยาในขณะที่อยู่ในความตื่นตระหนกในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ฉันกังวลเกี่ยวกับการมองตัวเองที่พยายามรวบรวมหลักฐานเพราะหวาดกลัวผู้คน

ฉันรู้สึกจริงๆว่ามันไม่มีพื้นที่สำหรับคนอ่อนแอ เนื่องจากสื่อต่างๆมองว่าเราเป็นพวกก่อกวน เรารู้สึกเหนื่อยที่สื่ออยู่ฝ่ายเดียวกับซอจีซู ตีพิมพ์ข่าวเกี่ยวกับความเท็จที่ไม่เคยเกิดขึ้น”

“ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ฉันจึงต้องจำใจออกมาเพื่อให้บางคนที่ฉันรู้จักได้รับความช่วยเหลือ และจากนั้นฉันต้องเจ็บปวดอีกครั้งเพราะคำแถลงการณ์ของ Woolim Entertainment ที่เลือกปฏิบัติกับชนกลุ่มน้อยทางเพศและกล่าวว่า ‘อย่าแสร้งทำเป็นเหยื่อไปหน่อยเลย ที่คุณไม่ตรงไปตรงมาเพียงเพราะคุณเป็นชนกลุ่มน้อยทางเพศ หากคุณมั่นใจจริงๆก็ออกมาและปรึกษาเจ้าหน้าที่ตำรวจสิ’

พวกเราเพียงแค่หวาดกลัวทุกครั้งเมื่อเห็นรอยยิ้มของเธอในโทรทัศน์ สื่อควรจะอยู่ฝ่ายเดียวกับเหยื่อแทนที่จะอยู่ด้านเดียวกับซอจีซูไม่ใช่หรือคะ? เพียงเพราะว่าเราไม่ยอมให้คุณสัมภาษณ์ คุณก็กล่าวหาว่าเราสร้างข่าวลืองั้นหรือ? ฉันรู้สึกลังเลเกี่ยวกับการโพสต์หรือการเขียนสิ่งนี้ แต่ฉันไม่สามารถทนได้ที่เรื่องราวของเรากลายเป็นข่าวลือโดยไม่มีการวิเคราะห์ใดๆจากสื่อเลย

สื่อได้ฆ่าเราครั้งที่สองด้วยการรายงานข่าวที่ราวกับว่าเป็นความจริง เมื่อ Woolim เริ่มต้นในกรณี ‘เผยแพร่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น’ และไม่ว่ามันจะจริงหรือไม่ พวกเราอาจได้รับการรังแกในข้อหาหมิ่นประมาท ฉันจะยอมรับการลงโทษอย่างถูกต้องในสิ่งที่ทำลงไป แต่นี่ขึ้นอยู่กับประชาชนที่จะเป็นพยานว่า Woolim ได้นำไปเผยแพร่ความจริงอย่างไร

ฉันเป็นเพียงคนตัวเล็กๆที่ต่อสู้กับบริษัทใหญ่โตเพียงลำพัง ฉันไม่มีพลังที่จะต่อสู้ด้วยตัวเอง ฉันไม่ใช่เครื่องยนต์ที่ต้องการเพียงการตอบรับ ฉันอยากจะกล่าวขอบคุณและขอโทษต่อทุกคนที่ช่วยเรา องค์กรและสื่อบางแห่ง พนักงานเก่าของ Woolim รวมทั้งสมาชิกชุมชนเรา ฉันอยากขอโทษต่อพ่อแม่ของเราที่คงจะตกใจ ฉันคิดว่านี่มันอาจจะจบลงแล้ว ในฐานะบุคคลที่สามของเหตุการณ์นี้ ฉันจะนำหลักฐานที่เหลืออยู่ไปให้ตำรวจตามคำขอของพวกเขา”

—————————–

ส่วนซอจีซูนั้นขณะนี้เธอได้ออกจากการรักษาตัวในโรงพยาบาลแล้ว โดยวันที่ 20 พฤศจิกายน 2014 ต้นสังกัด Woolim Entertainment ได้เผยว่า “ขณะนี้ซอจีซูอยู่ที่บ้านกับครอบครัวของเธอเพื่อพักฟื้นร่างกาย” อย่างไรก็ตามต้นสังกัดไม่ได้พูดว่าเธอจะกลับมาโปรโมทพร้อมสมาชิก Lovelyz เมื่อไหร่

แล้วเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร Youzab จะรายงานให้ทราบอีกทีค่ะ

แปลจาก Soompi โดย Youzab หากนำข่าวออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ hotlink ไฟล์ภาพ)

นักแสดงหนุ่มจากเรื่องทงอี (Dong Yi) ถูกจับในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้หญิง

นักแสดงหนุ่มจากเรื่องทงอี (Dong Yi) ถูกจับในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้หญิง

มีการรายงานข่าวว่านายชิน (นามสมมติ) นักแสดงหนุ่มวัย 37 ปีจากเรื่องทงอี (Dong Yi) ถูกจับในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้หญิง

โดยการทำร้ายร่างกายนี้เกิดขึ้นที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในคืนวันที่ 16 กันยายน 2013 ซึ่งนายชินและพนักงานของเขากำลังทานอาหารด้วยกัน และต่อมาเกิดทะเลาะกับลูกค้าโต๊ะข้างๆพวกเขา

นางจอง (เหยื่อ) ได้บอกตำรวจว่า “นายชินก่อความวุ่นวายในขณะที่ดื่มกับผู้ชายคนหนึ่งและผู้หญิงอีกคนหนึ่ง พวกเขาล้มลงบนโต๊ะของพวกเราหลายครั้งแต่ไม่เคยแม้แต่ขอโทษเลย”

“เมื่อเพื่อนของฉันบอกเขาว่า “นี่มันไม่มากเกินไปหน่อยหรือ?” ผู้หญิงที่มากับนายชินจึงเริ่มขู่เราโดยการฟาดขวดโซจู เมื่อฉันใช้คำที่เป็นทางการต่อพวกเขา นายชินต่อยฉันลงไปกองกับพื้นและเตะที่หน้าของฉันหลายครั้ง”

นายชินจึงถูกจับกุมตัวในที่เกิดเหตุหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึง อย่างไรก็ตามนักแสดงหนุ่มยืนกรานว่านี่ไม่ใช่การใช้ความรุนแรงข้างเดียว และฝ่ายนางจองเองก็ใช้ความรุนแรงเช่นกัน

ในเรื่องนี้นางจองกล่าวว่า “มันฟังไม่ขึ้นเลยที่กลุ่มผู้หญิงสองคนจะใช้ความรุนแรงกับกลุ่มที่มีผู้ชายสองและหญิงหนึ่ง…ด้วยใบหน้าที่บาดเจ็บขนาดนี้ฉันจึงไม่สามารถกลับไปบ้านเกิดของฉันได้ด้วยซ้ำแม้ว่านี่จะเป็นวันหยุดยาว”

ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวนเรื่องราวต่อเนื่องผ่านกล้องวงจรปิด และวางแผนสอบสวนเรื่องนี้ต่อหลังจากวันหยุดยาวในเทศกาลชูซอก

นายชินเปิดตัวเป็นนักแสดงซิทคอมในปี 2000 และรับบทตัวประกอบในละครย้อนประวัติศาสตร์เรื่องทงอีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2010

แปลจาก allkpop โดย https://kpop.youzab.com หากนำข่าวออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ hotlink ไฟล์ภาพ)

โกยองอุคขอยื่นอุธรณ์ต่อศาลขอลดโทษ..อ้างไม่เคยใช้กำลังบังคับเหยื่อ!!

Go Young Wook-2

หลังจากได้รับคำตัดสินจำคุก 5 ปีและสวมกำไลอิเล็กทีอนิกส์เป็นเวลา 10 ปีในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เยาว์ ล่าสุดโกยองอุคตัดสินใจยื่นอุธรณ์ต่อศาลเพื่อขอลดโทษ

วันที่ 10 เมษายน 2013 หลังจากได้รับคำตัดสินลงโทษจากผู้พิพากษาให้จำคุก 5 ปีและเข้าสมัครบำเพ็ญประโยชน์ช่วยเหลือผู้ถูกคุกคามทางเพศ 7 ปี อีกทั้งต้องสวมกำไลอิเล็กทรอนิกส์นักโทษ 10 ปี อย่างไรก็ตามโกยองอุคเลือกยื่นอุธรณ์ต่อศาลเพื่อขอลดหย่อนโทษ

Go Young Wook

โกยองอุคกล่าวว่า “ผมทำผิดศีลธรรมเนื่องจากมีเพศสัมพันธ์กับเหยื่อ แต่ผมไม่เคยข่มขู่หรือใช้กำลังบังคับเมื่อมีความสัมพันธ์”

เขายื่นอุธรณ์เมื่อรู้สึกว่าได้รับคำตัดสินที่ไม่ยุติธรรม และได้รับโทษหนักเกินไปสำหรับความผิดครั้งแรกของเขา

อย่างไรก็ตามตั้งแต่ปี 2010-2012 โยองอุคได้ล่วงละเมิดทางเพศต่อเยาวชนจำนวน 5 ครั้ง และเหยื่อสองรายของเขามีอายุเพียง 13 ปีเท่านั้น (13 ปีนับตามเกาหลี หากนับตามสากลจะอายุ 12 ปี)

แปลจาก enewsworld โดย https://kpop.youzab.com หากนำข่าวออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ hotlink ไฟล์ภาพ)

 

โกยองอุคอ้างว่าเขาและเหยื่อมีความสัมพันธ์แบบโรแมนติกในการพิจารณาคดีครั้งแรก

Go-Young-Wook-Sexual-Assault-Case-2

อัยการและจำเลยปะทะกันในการพิจารณาคดีครั้งแรกในข้อหาโกยองอุคล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กหญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2013 มีการพิจารณาคดีล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เยาว์ของโกยองอุค เขาปรากฏตัวในชุดนักโทษสีฟ้าพร้อมกับทนายความคนใหม่สองคนของเขา

อัยการระบุว่าโกยองอุคมีเพศสัมพันธ์อย่างผิดกฏหมายกับ ดญ.เอ (นามสมมุติ) วัย 13 ปีในช่วงฤดูร้อนในปี 2010 หลังจากกำลังพาเธอไปส่งบ้าน อัยการระบุว่าโกยองอุคได้พบกับเธออีกครั้งในสัปดาห์ต่อมาและมีเพศสัมพันธ์ที่ผิดกฏหมายกับเธออีกครั้งหลังจากมอมเหล้าเหยื่อ

Go Young Wook

ในฤดูใบไม้ร่วงในปีเดียวกันเขาเจอข้อหาในคดีที่คล้ายกันกับ ดญ.บี (นามสมมุติ) วัย 14 ปี อีกทั้งยังล่วงละเมิดทางเพศต่อนางสาวซี (นามสมมุติ) วัย 17 ปี อีกด้วย

ในขณะที่เขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยใน 3 คดี ต่อมาเขายังถูกดำเนินคดีล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เยาว์บนรถยนต์ซึ่งเป็นดญ.ดี (นามสมมุติ) ที่อายุเพียง 13 ปีเท่านั้น ในเดือนธันวาคม ปี 2012 โดยอัยการกล่าวหาว่าโกยองอุคมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีทั้งหมด 4 คดี

ส่วนโกยองอุคนั้นอ้างว่าเขามีความสัมพันธ์กับเหล่าเด็กหญิงเพราะความรักอันอ่อนโยนและความโรแมนติก และอ้างว่าเขาไม่ได้ใช้กำลังบังคับขืนใจเด็กสาวเหล่านั้นเลย

Go-Young-Wook-Sexual-Assault-Case

เขาอธิบายว่า “ในกรณีของน้องซี ผมพยายามจะจูบเธออีกครั้ง แต่เมื่อเธอบอกว่าไม่ ผมจึงหยุดครับ” จากนั้นกล่าวต่อ “ผมกดขาของดญ.ดีตอนเธออยู่ในรถจริงๆ แต่ผมขอปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด”

จากนั้นโกยองอุคกล่าวต่อ “ผมเสียใจที่มีความสัมพันธ์กับผู้เยาว์และผมยินดีแบกรับความผิดทางจริยธรรมนี้ แต่ผมเชื่อว่าความผิดทางจริยธรรมและการลงโทษตามกฏหมายเป็นสองสิ่งที่แตกต่างกัน”

จากนั้นอัยการได้ยื่นหลักฐานที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิดที่แสดงให้เห็นว่าโกยองอุคนำดญ.ดี ไปที่รถของเขา

Go-Young-Wook-Sexual-Assault-Case-3

โดยผู้พิพากษาได้กำหนดวันพิจารณาคดีครั้งต่อไปในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ และกล่าวว่า “เนื่องจากนี่เป็นเวลาไม่นานนักที่ทนายความของจำเลยเข้ามาดูแลคดี พวกเขาต้องดูแลคดีนี้อย่างระมัดระวัง”

เมื่อถามโกยองอุคว่าเขามีอะไรพูดส่งท้ายไหม? เขาตอบว่า “ผมเรียนรู้หลายอย่างในขณะที่มีชีวิตเป็นจุดสนใจในฐานะคนดัง ผมยังเชื่อว่าเป็นความผิดของผมที่คบกับผู้เยาว์ แต่คดีที่เกิดขึ้นในปี 2012 ผมไม่มีความคิดเห็นใดๆในเรื่องนี้ครับ”

จากนั้นกล่าวต่อ “แม่ของผมและครอบครัวของผมต่างเจ็บปวดจากการฟังความเพียงข้างเดียว หากคุณให้โอกาสผมอีกครั้งผมจะทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะอุทิศตนต่อสังคมครับ”

ก่อนจะรับใช้สังคมก็ยอมรับโทษที่ทำกับเด็กๆก่อนดีไหมโกยองอุค?

แปลจาก enewsworld โดย https://kpop.youzab.com หากนำข่าวออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

นางเอกสาวคิมฮานึลเผยว่าเธอเคยเป็นเหยื่อของการกลั่นแกล้งมาก่อน

นางเอกสาวคิมฮานึลจากเรื่อง A Gentleman’s Dignity ปรากฏตัวในทีเซอร์ตอนต่อไปของรายการ Healing Camp ทางสถานี SBS และเผยว่าเธอเคยตกเป็นเหยื่อและถูกกลั่นแกล้งมาก่อนในอดีต

“ฉันเคยเป็นตกเหยื่อของการกลั่นแกล้งค่ะ ย้อนกลับไปในตอนนั้นทุกอย่างดูน่ากลัวมากสำหรับฉัน” จากนั้นกล่าวต่อ “ฉันคิดในใจว่า อ่า…คิมฮานึลเธอนี่โง่จริงๆ ทำไมเธอถึงโง่แบบนี้นะ” คิมฮานึลกล่าวในสั้นๆในคลิปที่มีความยาว 20 วินาที

แม้ว่าในทีเซอร์จะไม่บอกรายละเอียดว่าเหตุการณ์การกลั่นแกล้งเกิดขึ้นเมื่อไหร่และอย่างไร มีเพียงรายละเอียดว่าเธอเปิดเผยเรื่องนี้เป็นครั้งแรกใน 15 ปี อีกทั้งดูเหมือนเธอยังหลั่งน้ำตาเมื่อกล่าวถึงอีกด้วย

ในขณะนี้ประเด็นเรื่องการกลั่นแกล้งกำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมากต่อชาวเน็ต ดังนั้นการเปิดเผยเรื่องการถูกลั่นแกล้งของเธอจึงดึงดูดความสนใจเป็นอย่างมากต่อผู้ชม

แปลจาก Soompi โดย https://kpop.youzab.com หากนำข่าวออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

T-ara กลายเป็นเหยื่อของข่าวที่ไม่ได้กลั่นกรองก่อนตีพิมพ์

 

ไม่นานมานี้ มีประเด็นการกลั่นแกล้งอย่างร้อนแรงภายในกลุ่ม T-ara ทั้งที่มีจุดเริ่มต้นจากข้อความทวีตในทวิตเตอร์เพียงไม่กี่ข้อความเท่านั้น แต่กลับเป็นเรื่องราวใหญ่โตเมื่อเหล่าชาวเน็ตพากันโยงเหตุการณ์ต่างๆจากในรายการวาไรตี้มาเป็นประเด็นเรื่องกลั่นแกล้งจริงจังภายในกลุ่ม T-ara และได้ตีพิมพ์เป็นข่าวโดยปราศจากการกลั่นกรองเสียก่อน

ปัญหาคือผู้คนต่างสนใจในการรายงานข่าวลือและประเด็นสงสัยมากกว่าการกลั่นกรองความจริง จากที่ผ่านมามีการพิสูจน์แล้วว่าการรายงานข่าวลือเรื่องกลั่นแกล้งได่รับความสนใจมากกว่าความจริงที่ถูกเปิดเผยว่านั่นเป็นเพียงการกุข่าวและไม่ใช่ความจริงหลายเท่าเลยทีเดียว และนั่นส่งผลกระทบโดยตรงต่อ T-ara ซึ่งกลายเป็นเหยื่อของข่าวลือนั้นๆ

ยกตัวอย่างข่าวลือจากผู้แอบอ้างว่าตนเป็นนักเต้นแบคอัพและกล่าวหาจียอนว่าทำร้ายฮวายองได้รับความสนใจเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อพิสูจน์ในภายหลังว่าสิ่งนั้่นเป็นเพียงการกุข่าวเท็จของแอนตี้แฟนบางคนกลับไม่ได้รับความสนใจมากมายเท่าข่าวผิดๆครั้งแรกที่รายงานไป

แม้กระทั่งการแคปภาพหรือคลิปสั้นๆจากรายการวาไรตี้ซึ่งกล่าวหาว่าสมาชิกรุมแกล้งฮวายอง ทั้งที่ในตอนที่มีการออกอากาศกลับไม่มีใครคิดว่าเป็นการกลั่นแกล้งและปล่อยผ่านไปและบางคนมองว่านั่นทำให้รายการสนุก แต่กลับกลายเป็นเรื่องใหญ่เมื่อมีข่าวลือการกลั่นแกล้งเกิดขึ้นไปเสียได้ และ T-ara ต้องตกเป็นจำเลยของสังคมเช่นเคย

อีกทั้งเรื่องการทวีตข้อความของฮวายองเพื่อขอโทษ แต่คนกลับมองว่าเป็นการบอกใบ้อะไรบางอย่าง ทั้งที่ความเป็นจริงข้อความทวีตที่เห็นย่อมต่างกันเพียงแค่ใครจะมองอย่างไรต่างหาก

เรื่องราวการกลั่นแกล้งนี้เริ่มต้นจากวันที่ 28 กรกฎาคม และกลายเป็นประเด็นที่คนพากันสนใจมากมายยิ่งกว่าโอลิมปิก สังเกตจากอันดับในการค้นหาที่สูงขึ้น คงจะดีไม่น้อยหากผู้รายงานข่าวกลั่นกรองความจริงก่อนทำการตีพิมพ์ T-ara คงจะไม่ตกเป็นเหยื่อของข่าวลือเช่นทุกวันนี้

ที่มา dkpopnew+nate เรียบเรียงโดย https://kpop.youzab.com หากนำข่าวออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink)

 

ฉาวไม่เลิก!!CEOหื่นกามไม่สำนึก..โทรศัพท์ข่มขู่เหยื่อให้ยอมความ!!

CEOหื่นกามแห่ง Open World Entertainment จางซอกอูตกเป็นข่าวฉาวอีกครั้งเมื่อมีรายงานว่าเขาทำการข่มขู่เหยื่อที่ถูกเขาล่วงละเมิดทางเพศ!

มีการเปิดเผยว่า CEOหื่นกามจางซอกอูแห่ง Open World Entertainment ได้ทำการโทรศัพท์ไปข่มขู่เหยื่อของเขาโดยกล่าวว่า “หากเธอไม่ยอมความ เราจะไม่หยุดแค่นี้” จางซอกอูดูเหมือนว่าจะมีอำนาจจัดการให้คนทำตามคำพูดของเขาได้

เมื่อพบการกระทำของเขา จางซอกอูได้ถูกเตือนโดยผู้พิพากษาในศาลล่าสุดในวันที่ 29 มิถุนายน 2012 ที่ผ่านมาว่า “ห้ามโทรศัพท์ไปข่มขู่เหยื่ออีกต่อไป การบีบบังคับข่มขู่เหยื่อนั้นเป็นการกระทำที่เหมือนกับการทำร้ายเหยื่อถึงสองครั้ง หากการข่มขู่ยังคงมีต่อไป นี่ย่อมส่งผลกระทบต่อการสอบสวนอย่างแน่นอน” จากการสอบสวนก่อนหน้านี้ในต้นเดือนมิถุนายน จางซอกอูเคยถูกเตือนมาแล้วครั้งหนึ่งว่าห้ามติดต่อกับผู้เสียหายอีก

ดูเหมือนว่าวิธีการข่มขู่ของCEOหื่นกามนี้จะได้ผลเนื่องจากมีผู้เสียหายบางส่วนในคดีได้ทำการตกลงยอมความกับเขาและถอนฟ้องออก

มีการกล่าวว่ามีการใช้เงินเพื่อให้ผู้เสียหายถอนฟ้องมากกว่า $10,000 ซึ่งหลังจากได้ยินดังนั้นจึงมีการสอบสวนต่อผู้เสียหายและได้ข้อมูลที่แตกต่างกัน

โดยกล่าวว่าเหยื่อB(นามสมมติ)ได้รับเงินเพียง $2,000 ในขณะที่เหยื่อCและDกลับไม่ได้รับเงินแต่อย่างใด ซึ่งศาลได้กล่าวเสริมว่า “ทั้งสองฝ่ายกล่าวไม่ตรงกันทำให้เกิดความสับสน การยืนยันถึงจำนวนเงินที่ผู้เสียหายได้รับจะเป็นไปอย่างอิสระ และจะรายงานอีกครั้งเมื่อสามารถสืบหาความจริงได้”

แปลจาก dkpopnews โดย https://kpop.youzab.com หากนำข่าวออกไปกรุณาให้เครดิตด้วยค่ะ

KCCออกประกาศเตือนทางวินัยต่อ Entertainment Relayที่ปล่อยข่าวผิดๆต่อแดซอง!!

The Korea Communications Commission(KCC) หรือคณะกรรมการการสื่อสารแห่งเกาหลีใต้ได้ออกประกาศเตือนทางวินัยต่อรายการ Entertainment Relay ของสถานี KBS

โดย KCC ได้ทำการแถลงข่าวในวันที่ 7 มิถุนายน 2012 ว่า “พวกเราได้ประกาศเตือนทางวินัยต่อรายการ KBS’s ‘Entertainment Relay’ จากการที่พวกเขาได้รายงานข่าวเรื่องความขัดแย้งจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ของแดซองBig Bang”

ก่อนหน้านี้ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ รายการ Entertainment Relay ได้รายงานข่าวเกี่ยวกับการคัมแบคของ Big Bang ว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม อีกทั้งยังไปสัมภาษณ์แม่ของเหยื่อผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์ของแดซอง และรายงานข่าวว่าครอบครัวของผู้เสียชีวิตยังไม่ได้รับเงินเยียวยาใดๆจาก YG Entertainment เลย และเรื่องนี้จึงเป็นสาเหตุของประเด็นขัดแย้งมากมายในตอนนั้น

KCC สามารถยืนยันได้ว่าความจริงครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้รับเงินเยียวยาจาก YG Ent.แล้ว KCC กล่าวว่า “พวกเรายืนยันว่าพี่ชายของเหยื่อได้รับเงินเยียวยาจากYG Ent.แล้ว แม้แต่สื่ออื่นต่างรายงานเรื่องราวที่เป็นจริงไม่เหมือนกับที่พวกเขารายงาน Entertainment Relay ไม้ได้ทบทวนให้ดีก่อนออกอากาศของพวกเขา”

แปลจาก allkpop โดย https://kpop.youzab.com หากนำข่าวออกไปกรุณาให้เครดิตด้วยค่ะ 😉

ชาวเน็ตได้แสดงความเห็นว่า “แค่ประกาศเตือนยังดูน้อยไปกับเรื่องแบบนี้” กับ “ฉันว่าKBSเป็นแอนตี้แฟนBig Bang นะ” และ “รายการนี้หลายรอบแล้วนะกับข่าวลือผิดๆเนี่ย”

Page 3 of 3«123

Like แฟนเพจของเราเพื่อติดตามข่าวสารอัพเดทก่อนใครได้ที่นี่เลยจ้า