แฮ็กเกอร์ชาวจีนถูกจับในไทย หลังขโมยทรัพย์สินไซเบอร์ 38,000 ล้านวอน เล็งเป้า “จองกุก BTS” และนักธุรกิจเกาหลี

ทางการเกาหลีใต้ประกาศว่า ชายชาวจีนวัย 34 ปี (ระบุตัวแค่อักษร A) ผู้ต้องสงสัยเป็นหัวหน้าขบวนการแฮ็กเกอร์ข้ามชาติที่ขโมยเงินและทรัพย์สินดิจิทัลรวมกว่า 38,000 ล้านวอน (ประมาณ 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากบัญชีของบุคคลมีชื่อเสียงในเกาหลีใต้ รวมถึง จองกุก BTS ถูกจับกุมในประเทศไทยและส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนมายังเกาหลีแล้ว

ตามข้อมูลของกระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้ A ถูกส่งตัวมาถึงสนามบินนานาชาติอินชอน เวลา 05.05 น. วันที่ 22 สิงหาคม โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่า A และทีมได้แฮ็กเว็บไซต์หลายแห่ง รวมถึงผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ ระหว่างเดือนสิงหาคม 2023 ถึงมกราคม 2024 เพื่อเก็บข้อมูลส่วนบุคคล นำไปเปิดบัญชีมือถือในชื่อปลอม และโอนเงินจากบัญชีการเงินและคริปโตของเหยื่อ

กลุ่มเหยื่อประกอบด้วย ประธานบริษัท, ซีอีโอบริษัทสตาร์ตอัป และคนดังระดับไฮโปรไฟล์ โดยหนึ่งในนั้นคือ จองกุก BTS ซึ่งหลังจากเข้ากรมเมื่อมกราคมปีก่อน บัญชีหลักทรัพย์ของเขาถูกขโมย หุ้น HYBE จำนวน 33,500 หุ้น มูลค่าราว 8.4 พันล้านวอน (ประมาณ 6.2 ล้านดอลลาร์) โดยแฮ็กเกอร์ขายหุ้น 500 หุ้น (มูลค่าประมาณ 126 ล้านวอน หรือราว 92,000 ดอลลาร์) ให้บุคคลที่สาม

อย่างไรก็ตาม Big Hit Music ต้นสังกัด HYBE ได้อายัดบัญชีทันที ป้องกันการสูญเสียเพิ่มเติม และทีมกฎหมายของจองกุกได้ฟ้องเรียกคืนหุ้น ต่อมาศาลแขวงโซลตะวันตกมีคำสั่งให้คืนหุ้นแก่เจ้าของเดิม เนื่องจากไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย

ตำรวจนครบาลโซลร่วมกับ อินเตอร์โพล ติดตามเส้นทางของ A และทราบว่าเขาเดินทางเข้าไทยในเดือนเมษายน จึงร้องขอให้ทางการไทยจับกุมตัวเพื่อส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งทางการไทยสามารถจับกุมภายในสองสัปดาห์และส่งตัวกลับเกาหลีใต้

ตำรวจเกาหลีมีแผนสอบสวน A พร้อมตรวจสอบหลักฐานที่ยึดได้ และยื่นขอหมายจับอย่างเป็นทางการ ขณะที่เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมเกาหลีระบุว่า รัฐบาลจะเดินหน้าปราบปรามและลงโทษองค์กรแฮ็กเกอร์, แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการฉ้อโกงออนไลน์ข้ามชาติต่อไปอย่างเข้มงวด

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

หากไม่ต้องการพลาดข่าวสารอย่างรวดเร็วจากเรา เลือกแถบกำลังติดตาม ->อย่าลืมติ๊ก ✔ เลือกเห็นโพสต์ก่อนของเพจ Facebook ของเรานะคะ

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

ชาวเน็ตโหวตเรียกร้องให้ใช้ชื่อจริงในการแสดงความเห็นในโลกออนไลน์

เหล่าชาวเน็ตร่วมใจกันโหวตเรียกร้องให้มีการใช้ชื่อจริงแสดงความเห็นกันในโลกออนไลน์เพื่อลดการทำร้ายกันทางไซเบอร์

วันที่ 15 ตุลาคม 2019 ได้มีการทำโพลแบบสำรวจโดยขอให้ชาวเน็ตร่วมลงคะแนนโหวต “ใช่” หรือ “ไม่” ในการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ชาวเน็ตใช้ชื่อจริงในการแสดงความเห็นในโลกออนไลน์

โดยเป็นการทำแบบสำรวจของผู้ใหญ่จำนวน 502 คน ที่อายุมากกว่า 19 ปีขึ้นไป ซึ่งผลปรากฎว่าชาวเน็ตจำนวน 69.5% ลงคะแนนโหวต “ใช่” ซึ่ง 33.1% แสดงความเห็นด้วยเป็นอย่างมากและ 36.4% แสดงความเห็นด้วยเป็นส่วนมาก

การเรียกร้องให้ใช้ชื่อจริงในการแสดงความเห็นในโลกออนไลน์ ได้กลายเป็นประเด็นร้อนอย่างรวดเร็วหลังจากการสูญเสียไอดอลสาวซอลลี่ไปเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2019 ซึ่งสร้างความสะเทือนใจเป็นอย่างมากต่อสังคม และเหล่าชาวเน็ตต่างต้องการคุณภาพของความเห็นที่ดีขึ้นในโลกออนไลน์เพื่อหยุดการทำร้ายกันทางออนไลน์อีกต่อไป

ชาวเน็ตแสดงความเห็นว่า “ฉันว่าบางคนอาจไม่มีปัญหาในการแสดงความเห็นแย่ๆกระทั่งโชว์ใบหน้าต่อสาธารณะในเฟซบุ๊กด้วยซ้ำ” กับ “พวกเขาจำเป็นต้องบังคับใช้บทลงโทษที่เข้มงวดตามกฎหมายทำให้มันง่ายขึ้นในการฟ้องพวกเขา” กับ “ปกติแล้วพวกเขาเพียงแค่เสียค่าปรับแทนที่จะผ่านขั้นตอนทางกฎหมายที่ยุ่งยาก” กับ “เพิ่มบทลงโทษและค่าปรับและกำจัดส่วนความเห็นที่มันไม่จำเป็นออกเสีย” เป็นต้น

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

หากไม่ต้องการพลาดข่าวสารอย่างรวดเร็วจากเรา เลือกแถบกำลังติดตาม ->อย่าลืมติ๊ก ✔ เลือกเห็นโพสต์ก่อนของเพจ Facebook ของเรานะคะ

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

Happy Unni ร้านค้าแฟชั่น

พ่อซูโฮ EXO ปฏิเสธที่ถูกกล่าวหาว่าเขาเป็นกลุ่มสนับสนุนญี่ปุ่นและเตรียมดำเนินคดีต่อชาวเน็ต!!

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2014 ศาสตราจารย์คิมยองฮาแห่งมหาวิทยาลัยซุนชอนฮยาง (พ่อซูโฮ EXO) ได้ขอให้หน่วยอาชญากรรมไซเบอร์สืบสวนต่อชาวเน็ตที่หมิ่นประมาทและทำลายชื่อเสียงของเขาและซูโฮผู้เป็นลูกชาย โดยศาสตราจารย์คิมได้แต่งตั้งทนายความและวางแผ่นยื่นฟ้องไปยังศาลกลางแห่งกรุงโซลในวันที่ 17 พฤศจิกายน

ศาสตราจารย์คิมกล่าวว่าเว็บไซต์บางแห่งได้โพสต์กล่าวหาว่าเขาทำการเคลื่อนไหวขวาใหม่ [New Right]  (ทางการเมือง) และยังเป็นชินนีลพา (Chinilpa) อีกด้วย โดย ‘ชินนีลพา’ คือชาวเกาหลีที่ร่วมมือกับรัฐบาลญี่ปุ่นในช่วงที่ประเทศญี่ปุ่นยึดครองเกาหลี

โดยข่าวลือนี้เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน และวันที่ 11 พฤศจิกายน ศาสตราจารย์คิมถูกเรียกว่าเป็น ‘ชินนีลพา’ และซูโฮถูกเรียกว่าเป็น ‘ลูกชายของชินนีลพา’ และถูกเผยแพร่อย่างรวดเร็วในวันที่ 12 พฤศจิกายน

ศาสตราจารย์คิมยองฮาปฏิเสธที่ถูกชาวเน็ตกล่าวหาทั้งหมดโดยกล่าวว่า “แม้ว่าผมจะบรรยายเรื่อง Citizens United for Better Society ซึ่งกลุ่มพลเมืองอ้างว่าเป็นการสนับสนุนพรรคอนุรักษ์นิยม นี่ไม่ใช่ขวาใหม่ (New Rights) เลย..ชาวเน็ตยังกล่าวหาว่าผมเป็น ‘ชินนีลพา’ โดยให้เหตุผลว่าผมได้เข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มและนี่ทำให้ผมกลายเป็นชินนีลพา”

จากนั้นคุณพ่อกล่าวต่อ “ผมไม่ใช่ชินนีลพา ไม่เคยทำอะไรเลยที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการสนับสนุนรัฐบาลญี่ปุ่น บ้านเกิดของผมอยู่ที่มุนซูมยอน ยองจู จังหวัดกยองบุค ครอบครัวของผมทำนามาหลายรุ่นและไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนรัฐบาลญี่ปุ่นเลย แม้ในช่วงที่ถูกญี่ปุ่นยึดครองก็ตาม”

ศาสตราจารย์คิมยองฮากล่าวว่าขณะนี้ซูโฮ EXO ลูกชายของเขาอยู่ที่ญี่ปุ่นเพื่อแสดงคอนเสิร์ต เมื่อเขาได้เห็นบทความว่าเขาเป็นลูกชายของชินนีลพา ทำให้ซูโฮโทรมาถามว่า “พ่อครับ พ่อเป็นชินนีลพาจริงๆหรือครับ?”

และแน่นอนว่าศาสตราจารย์คิมยองฮาตอบลูกชายไปว่านั่นไม่เป็นความจริงเลยแม้แต่น้อย จากนั้นเขากล่าวว่า “เนื้อหาที่เป็นความเท็จที่ทำให้ชื่อเสียงของผมและลูกชายเสียหายได้เผยแพร่อยู่ในอินเตอร์เน็ต มันไม่เพียงทำให้เราเสียชื่อเท่านั้น แต่ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกชายของผมต้องเจ็บปวดอีกด้วย ไม่ว่าอย่างไรก็ตามผมจะใช้มาตรการทางกฎหมายจัดการกับเรื่องนี้”

ขอเอาใจช่วยให้คุณพ่อนำคนปล่อยข่าวลือผิดๆนี้ออกไปมาลงโทษให้ได้ค่ะ

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำข่าวออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ hotlink ไฟล์ภาพ)

FNC Ent แจ้งความตำรวจเอาผิดเว็บไซต์สำหรับผู้ใหญ่ที่นำภาพมินอา AOA ไปใช้โฆษณา!!

ต้นสังกัด FNC Entertainment ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจเพื่อเอาผิดเว็บไซต์สำหรับผู้ใหญ่ที่นำภาพของมินอา AOA ไปลงในเว็บไซต์เพื่อใช้โฆษณา

วันที่ 12 กรกฎาคม 2014 FNC Entertainment ต้นสังกัดเกิร์ลกรุ๊ปวง AOA ได้ประกาศว่าพวกเขาได้ดำเนินการทางกฎหมาย โดยแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ต่อเว็บไซต์ต่างประเทศสำหรับผู้ใหญ่

โดยเว็บไซต์ดังกล่าวได้นำภาพของมินอาพร้อมกับขึ้นหัวข้อว่า “ชอบสาวจีนมั้ย?” เป็นภาพโฆษณาในเว็บไซต์สำหรับขายบริการทางเพศ ซึ่งความจริงแล้วนี่เป็นรูปมินอาจากวีดีโอสำหรับ “Love Letter Event” ของ AOA

FNC Entertainment กล่าวกับสื่อว่า “เราตัดสินใจใช้วิธีที่มีประสิทธิภาพดีมากกว่าโดยการแจ้งความกับตำรวจแทนที่การติดต่อโดยตรงไปยังเว็บไซต์ต่างประเทศนี้ เราเรียกร้องให้ทีมนักสืบไซเบอร์ทำการสืบสวนคดีให้เรา หลังจากสุดสัปดาห์นี้ทีมกฎหมายของเราจะเข้าแจ้งความกับตำรวจท้องถิ่นเพื่อการสืบสวนอย่างเป็นทางการต่อไป”

แปลจาก Soompi โดย Youzab หากนำข่าวออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ hotlink ไฟล์ภาพ)

Like แฟนเพจของเราเพื่อติดตามข่าวสารอัพเดทก่อนใครได้ที่นี่เลยจ้า