เหล่าซาแซงแฟนพูดคุยถึงชีวิตการสะกดรอยตามศิลปินในรายการ Cultwo’s Veranda Show และเผยว่ายอมเสี่ยงตายเพียงเพื่อได้ใกล้ชิดศิลปินที่พวกเธอรัก
แฟนคลับธรรมดาเปิดเผยว่าสิ่งแตกต่างระหว่างแฟนคลับและซาแซงแฟนคือ “พวกเราชอบโอปป้าด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์ค่ะ แต่เหล่าซาแซงแฟนจะคอยตามโอปป้าแม้กระทั่งในชีวิตส่วนตัวของโอปป้าตลอดเวลาค่ะ”
อดีตผู้จัดการศิลปินเล่าประสบการณ์ของเขาว่า “แน่นอนว่าพวกซาแซงแฟนมาที่บ้านของศิลปินและยังปรากฏตัวในสตูดิโอและสถานีโทรทัศน์อีกด้วย นี่เป็นสถานการณ์ที่อันตรายจริงๆเพราะพวกเธอใช้ซาแท็ก”
***ซาแท็ก คือ แท็กซี่ผิดกฏหมายที่ซาแซงแฟนใช้บริการเพื่อตามศิลปินไปทั่วทุกที่
ต่อมาจึงมีการสัมภาษณ์ในมุมมองของเหล่าซาแซงแฟนต่อความรู้สึกของพวกเธอที่คอยติดตามศิลปินตลอดเวลา
อดีตซาแซงแฟนคนหนึ่งซึ่งเคยใช้ชีวิตเป็นซาแซงแฟนกว่า 4 ปีตั้งแต่ ม.2-ม.6 เธอถูกถามเหตุผลที่เธอผันตัวเป็นซาแซงแฟน และเธอให้เหตุผลว่า “เพราะว่าฉันจะได้สามารถพูดคุยกับคนดังได้โดยตรงตอนที่ฉันอยู่ใกล้ๆหอของพวกเขาหรือที่ไหนก็ตาม ฉันจะสามารถรู้จักเขาได้ด้ด้วยตัวเองและยังสามารถพูดคุยกับพวกเขาได้อีกด้วย พวกเราสามารถใกล้ชิดกันได้และนี่คือเหตุผลที่ฉันไปที่นั่น เมื่อไหร่ก็ตามที่คนดังสังเกตเห็นฉันจะทำให้ฉันรู้สึกพอใจมากสุดๆไปเลย”
ซาแซงแฟนอีกคนซึ่งมีชีวิตซาแซงแฟนถึง 6 ปีกล่าวว่า “เพียงแค่ได้เห็นพวกเขา 3 วินาที พวกเรายอมรอเขา 30 ชั่วโมงเพราะเราชอบ 3 วินาทีนั้นจริงๆ พวกเราจะใช้หนังสือพิมพ์แทนเตียงและนอนหน้าหอของพวกเขา แรกๆพวกเราทำแบบนี้เพราะพวกเราชอบสมาชิกวง แต่ต่อมาพวกเราทำแบบนี้เพราะพวกเราเริ่มติดมัน แท็กซี่ของซาแซงตามรถตู้ของศิลปินได้ดีจริงๆ ซาแท็กยังซิ่งแข่งกับซาแท็กด้วยกันเองอีกด้วยขณะที่ขับตามศิลปิน ฉันรู้ดีว่าสิ่งนี้สามารถทำให้ฉันตายลงสักวัน” เธอเผยว่ายอมเสี่ยงตายเพื่อตามติดศิลปินอย่างใกล้ชิด
ซาแซงแฟนอีกคนซึ่งยังคงเป็นซาแซงแฟนของศิลปินกลุ่มหนึ่งกล่าวว่า “ฉันเคยตามดงบังชินกิ แต่ตอนนี้ฉันตามวงอื่นแทนแล้ว ซาแซงแฟนประกอบด้วยคนที่มีหลากหลายช่วงอายุ ตั้งแต่เด็กประถมจนถึงคนอายุ 40 ปี ผู้หญิงท้องบางคนยังมารอตลอดคืน และยังมีชาวญี่ปุ่นและชาวจีนอีกด้วย”
จากนั้นกล่าวต่อว่ายังมีเหล่าซาแซงแฟนที่แย่ที่สุดบางคนที่พยายามสัมผัสและตีศิลปิน และกล่าวว่า “ครั้งหนึ่งสมาชิกวงเดินออกมาและซาแซงแฟนเดินไปข้างหลังเขาและกระชากผมของเขา ทำให้ศิลปินถึงกับหงายหลังและเจ็บตัวจากเหตุการณ์นี้ ที่เธอทำแบบนี้เพราะอยากให้เขาจำเธอได้แม้ว่าจะเป็นในทางที่ไม่ดีก็ตาม”
นอกจากสร้างความเดือดร้อนให้ศิลปินแล้ว ยังสร้างความเดือดร้อนให้คนรอบข้างอีกด้วย คนประเภทที่ไม่นึกถึงความเดือดร้อนของศิลปินที่ตัวเองรักจะยังเรียกแทนตัวเองว่าแฟนได้อีกหรือ?
แปลจาก allkpop โดย https://kpop.youzab.com หากนำข่าวออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ hotlink ไฟล์ภาพ)
