การแสดงของ G-Dragon บนเวที 2025 MAMA Awards ที่ Kai Tak Stadium ฮ่องกง เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน กลายเป็นประเด็นร้อน หลังถูกวิจารณ์เรื่องคุณภาพการร้องสด แม้เจ้าตัวจะคว้ารางวัลศิลปินแห่งปี (Artist of the Year) มาครองก็ตาม
กระแสดราม่ายิ่งทวีขึ้นเมื่อมีการยกตัวอย่างสเตจก่อนหน้า เช่น เวที SBS Gayo Daejeon ที่เสียงแอดลิบเพี้ยนและบางช่วงร้องไม่ทัน รวมถึงคอนเสิร์ตเปิดทัวร์ที่โกยางเมื่อเดือนมีนาคมที่เจ้าตัวร้องไม่เต็มเสียงและใช้เสียงฮัมแทนในหลายท่อน ทำให้เวที MAMA ถูกมองว่าเป็นอีกหนึ่งสเตจที่สะท้อนปัญหาควบคุมเสียงสดที่ยังไม่เสถียร ขณะที่แฟนบางส่วนก็ออกมาปกป้อง โดยระบุว่าเขาพยายามทำเต็มที่แม้อยู่ในสภาพร่างกายไม่เต็มร้อย
ด้านนอกเหนือจากประเด็นบนเวที G-Dragon ยังบริจาคเงินประมาณ 1 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 130,000 ดอลลาร์สหรัฐ) ให้กองทุนฟื้นฟูชุมชน Wang Fuk Court ใน Tai Po เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุไฟไหม้ในฮ่องกง ซึ่งแฟน ๆ มองว่าเป็นอีกหนึ่งการทำกิจกรรมเพื่อสังคมที่เขาทำต่อเนื่อง แม้ขณะนี้เขาจะถูกวิจารณ์หนักเรื่องโชว์ก็ตาม
ตามรายงานของ Sing Tao Daily และ China News Service เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน แพลตฟอร์มเพลงจีน QQ Music ได้ยกเลิกแฟนมีตของบอยกรุ๊ปญี่ปุ่น JO1 ที่มีกำหนดจัดวันที่ 17 พฤศจิกายนที่กว่างโจว โดยให้เหตุผลว่าเป็นเหตุสุดวิสัย (force majeure) และยกเลิกกิจกรรม VIP ทั้งหมดทันที
นิตยสาร W Korea ได้ออกแถลงขอโทษอย่างเป็นทางการต่อกระแสดราม่าที่เกิดขึ้นจากงาน “Love Your W” เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยยอมรับว่า “แนวทางและการจัดงานในปีนี้ไม่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ดั้งเดิมของแคมเปญ”
อย่างไรก็ตาม วงการบันเทิงเกาหลีมีท่าทีระมัดระวังต่อสถานการณ์นี้ โดยตัวแทนจากหลายค่ายเผยว่า “ถึงแม้ปีหน้าจะมีการปรับรูปแบบใหม่ แต่เราก็ยังไม่อยากส่งศิลปินไปร่วมงาน เพราะเวลามีดราม่า คนดังจะเป็นฝ่ายโดนโจมตี ขณะที่ผู้จัดกลับหลบอยู่เบื้องหลัง” อีกคนกล่าวเสริมว่า “แฟน ๆ ถามกันมากว่าทำไมถึงส่งศิลปินไปงานนั้น ถ้าไปร่วมอีกปีหน้าอาจเลี่ยงคำวิจารณ์ไม่ได้แน่นอน” พร้อมเรียกร้องให้ W Korea เปิดเผยรายละเอียดการบริจาคของแคมเปญอย่างโปร่งใส
เสียงวิจารณ์หลักมุ่งไปที่แนวคิดและการดำเนินงานของงานปีนี้ที่ถูกมองว่ากลายเป็นปาร์ตี้เซเลบมากกว่าจะเป็นงานรณรงค์เพื่อสังคม โดยเฉพาะหลังมีคลิปและภาพจากงานที่เผยให้เห็นแขกรับเชิญดื่มแชมเปญ เต้นรำ และศิลปิน Jay Park แสดงเพลง “MOMMAE” ซึ่งมีเนื้อหาเชิงยั่วยวน
ทาง W Korea ยืนยันว่าหัวใจของโครงการนี้ตลอด 20 ปีคือการส่งเสริมให้คนตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และระดมทุนช่วยเหลือผู้ป่วยรายได้น้อย พร้อมกล่าวว่าจะนำคำติชมทั้งหมดมาปรับปรุงอย่างจริงจัง เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นจากสาธารณชน
คำแถลงอย่างเป็นทางการจาก W Korea:
“Love Your W เป็นแคมเปญเพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านมที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2006
กลายเป็นกระแสดราม่าระอุในวงการ K-POP เมื่อ Jay Park (เจย์ ปาร์ค) แร็ปเปอร์หนุ่มชื่อดังต้องออกโรงขอโทษหลังแสดงเพลง “Mommae” ที่มีเนื้อหาค่อนข้างเซ็กซี่ ในงาน “Love Your W” ของนิตยสาร W Korea ซึ่งจัดขึ้นเพื่อรณรงค์เรื่องมะเร็งเต้านม
ต้นสังกัดของ THE BOYZ อย่าง ONE HUNDRED ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงต่อประเด็นร้อนเกี่ยวกับดีไซน์แท่งไฟของวง QWER ที่ถูกแฟน ๆ วิพากษ์วิจารณ์ว่ามีความคล้ายกับแท่งไฟทางการของ THE BOYZ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 กันยายน ต้นสังกัด ONE HUNDRED ได้ออกแถลงการณ์ว่า
“เราขอแสดงความเสียใจต่อความสับสนและความไม่สบายใจที่แฟน ๆ ต้องเผชิญ เนื่องจากความคล้ายคลึงกันของแท่งไฟ THE BOYZ และ QWER เราเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าสัญลักษณ์แท่งไฟมีความหมายพิเศษที่เชื่อมโยงศิลปินกับแฟน ๆ และตระหนักว่าสถานการณ์นี้ทำให้ The B (ชื่อแฟนคลับ) รู้สึกเจ็บปวด”
“เราจะใส่ใจมากขึ้น เพื่อปกป้องความหมายพิเศษที่ THE BOYZ และ The B ได้ร่วมสร้างขึ้นมา และจะฟังเสียงแฟน ๆ ด้วยความรับผิดชอบมากยิ่งขึ้น” ONE HUNDRED กล่าวทิ้งท้าย
จอนจีฮยอน (Jun Ji Hyun) กำลังเจอมรสุมครั้งใหญ่ในเส้นทางอาชีพที่ประเทศจีน หลังซีรีส์ระดับโลก ‘Tempest’ ถูกวิจารณ์หนักเพราะบทพูดที่กระทบจีน ล่าสุดปัญหาลุกลามไปถึงงานโฆษณาแบรนด์หรู
ตามรายงานของ Global Times ประเทศจีนเมื่อวันที่ 22 กันยายน ระบุว่า “แรงกดดันจากสังคมออนไลน์ในจีนได้ลามมาสู่ธุรกิจ แบรนด์หรูระดับโลกที่มีจอนจีฮยอนเป็นพรีเซ็นเตอร์เริ่มถอยห่างเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบ โดย Louis Vuitton, La Mer และ Piaget ได้ถอดภาพโฆษณาและสื่อโปรโมตที่เกี่ยวข้องกับเธอออกไปแล้ว”
ผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้ความร่วมมือของจอนจีฮยอนกับแบรนด์หรูในจีนถูกตัดขาดไปทีละเจ้า กลายเป็นกรณีที่สะท้อนให้เห็นว่าความตึงเครียดระหว่างการเมือง–สังคมของสหรัฐฯ–จีน สามารถลามมาส่งผลต่อผลงานของนักแสดงเกาหลีที่ทำงานร่วมกับแพลตฟอร์ม OTT ระดับโลกได้เช่นกัน
สำหรับอีนายอง เธอยังคงเดินหน้าสร้างผลงานต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น “Beautiful Days”, “Romance Is a Bonus Book” และ “One Day Off” ตอกย้ำความสามารถและการยืนหยัดในวงการบันเทิง