ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ Netflix กำลังครองตลาดบันเทิงเกาหลีทำให้วงการสื่อเข้าขั้นวิกฤต

“ในอดีต ฉันเคยได้รับข้อเสนอโปรเจ็คมากๆมายจนต้องบอกว่า ‘ขอฉันพักก่อน’ หรือ ‘ฉันแค่อยากพักผ่อน’ แต่ตอนนี้จำนวนโอกาสที่เข้ามาลดลงอย่างมาก ฉันเพิ่งจะรู้ว่าการมีบอเสนอเข้ามามันมีค่าแค่ไหน” ดาราสาวคิมฮานึลกล่าว

อุตสาหกรรมสื่อในเกาหลีใต้กำลังเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญต่างผิดหวังและอ้างถึงอิทธิพลของ Netflix ว่าเป็นปัจจัยหลักว่า “เรากำลังประสบกับปัญหาที่เลาร้ายที่สุดในรอบ 10 ปี”

ด้วยงบประมาณการผลิตมหาศาลของ Netflix ทำให้จำนวนการถ่ายละครลดลง แม้แต่นักแสดงชื่อดังก็ยังต้องดิ้นรนเพื่อหาบทเนื่องจากโอกาสเริ่มน้อยลงแล้ว

คิมฮานึลเพิ่งปรากฏตัวในช่อง YouYube และเธอกล่าวว่า “ทุกวันนี้แต่ได้รับบทละครก็ถือเป็นสิ่งที่มีค่ามากอย่างน่าเหลือเชื่อเลยค่ะ” ทางด้านดาราสาวโกฮยอนจองกล่าวว่า “ฉันม่ได้รับข้อเสนอบทใดๆเลย ไม่จำเป็นต้องบทนำก็ได้ ฉันเต็มใจลดค่าตัวด้วยซ้ำ”

จำนวนการผลิตละครลดลงอย่างต่อเนื่องในปี 2022 มี 135 เรื่องและในปี 2023 เหลือ 125 เรื่อง และลดลงน้อยกว่า 100 เรื่องในปี 2024 ส่วนทางด้านภาพยนตร์ก็ประสบปัญหานี้เช่นกันโดยกล่าวว่ามีหนังที่สร้างเสร็จแล้วมากกว่า 100 เรื่องอยู่ในคลังแต่ไม่สามารถเข้าฉาย

ในปี 2023 รายได้จากการออกอากาศในประเทศลดลง 4.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน ลดลงไป 1,897,000 ล้านวอนซึ่งถือเป็นการลดลงมากสุดในรอบ 10 ปี รายได้จากโทรทัศน์ก็ลดลงรวมถึงช่องเคเบิ้ลด้วย ทั้งโฮมชอปปิ้งและรายการก็ลดลงไปด้วย

ตลาดการออกอากาศในประเทศติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีและผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าตอนนี้วงการสื่อกำลังอยู่ในขั้นวิกฤต

ในระหว่างสัมมนาร่วมกันในวันที่ 26-27 กันยายน ได้พูดคุยกันในหัวข้อ “สาเหตุและวิธีแก้ไขวิกฤตตลาดออกอากาศ” สมาคมการศึกษาด้านวารสารศาสตร์และการสื่อสารแห่งเกาหลี สมาคมการออกอากาศแห่งเกาหลี และสมาคมนโยบายสื่อเกาหลีประกาศว่า “ตลาดสื่อภายในประเทศกำลังอยู่ในภาวะฉุกเฉิน”

ศาสตราจารย์ Lee Heon Yul จากมหาวิทยาลัยเกาหลีอธอบายว่า “งบประมาณการผลิตจำนวนมหาศาลของแพลตฟอร์ม OTT ยัก์ใหญ่อย่าง Netflix บีบบังคับให้ผู้ให้บริการโทรทัศน์ลดการผลิตเนื้อหาลดลงเพื่อความอยู่รอด ส่งผลให้จำนวนการผลิตลดลงอย่างรวดเร็วและมีนักแสดงเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่แพลตฟอร์มเหล่านี้เลือกเพื่อมาทำเงิน”

ศาสตราจารย์ Lee Sang Won จากมหาวิทยาลัยคยองฮีกล่าวว่า “ผลกระทบของ Netflix ทำให้รายได้จากการออกอากาศอย่างรวดเร็ว ขณะที่ต้นทุนในการผลิตคอนเทนต์กลับเพิ่มขึ้น การที่ระบบนิเวศนี้ถูกทำลายมันกลายเป็นวิกฤตสำหรับวงการบันเทิงเกาหลี”

ชาวเน็ตเกาหลีคอมเมนต์กับเรื่องนี้ว่า:

“คนทั่วไปคิดว่าการผลิตละครเป็นเรื่องยากเพราะค่าตัวนักแสดงแพงเกินไป แต่คุณกลับพูดตรงกันข้าม? Netflix เป็นคนขึ้นค่าตัวหรือตัวนักแสดงเองที่ขึ้นกันแน่?”

“อย่างแรกเลยเราควนพูดถึงการลดค่าตัวนักแสดง พวกเขาได้เงินเป็นพันล้านจากการปรากฏตัวเพียงครั้งเดียว พวกเขาคิดจริงๆหรอว่าคู่ควรกับเงินจำนวนเหล่านั้น หยุดโทษ Netflix ได้แล้ว”

“นักแสดงต่างหากที่ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น พวกเขากำลังพูดถึงอะไรกันเนี่ย”

“ฉันดูแพลตฟอร์มอย่าง TVing, Netflix และ Wavve เป็นบางครั้ง ฉันก็เห็นมีละครธรรมดามากมาย พวกสถานีและช่องเคเบิ้ลก็ยังคงผลิตละครอยู่ หากจำนวนลดลง แทนที่จะไปเสียเวลาและเงินกับละครที่ไม่ค่อยดีสองสามเรื่องที่ได้เรตติ้งต่ำ พวกเขาควรเอาเงินลงทุนเหล่านั้นรวมไปสร้างละครดีๆเรื่องเดียวดีกว่า”

“พวกเขาไม่รู้หรอว่าพวกเขาไม่ได้รับความนิยมอย่างที่คิดแล้ว”

“Netflix เกี่ยวไรกับเรื่องนี้ ถ้านักแสดงลดค่าตัวลดก็แก้ไขปัญหาได้แล้ว”

“ตั้งแต่ก่อน Netflix เข้ามาแล้ว งบประมาณการผลิตส่วนใหญ่ก็คือค่าตัวนักแสดง”

ที่มา allkpop โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

หากไม่ต้องการพลาดข่าวสารอย่างรวดเร็วจากเรา เลือกแถบกำลังติดตาม ->อย่าลืมติ๊ก ✔ เลือกเห็นโพสต์ก่อนของเพจ Facebook ของเรานะคะ

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

แบ่งปัน link นี้ไปยัง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Like แฟนเพจของเราเพื่อติดตามข่าวสารอัพเดทก่อนใครได้ที่นี่เลยจ้า