อีซอกชอลและอีซึงฮยอนเล่าถึงตอนถูกโปรดิวเซอร์ทำร้ายอย่างละเอียดในการพิจารณาคดีครั้งที่สอง

Lee Seok Cheol And Lee Seung Hyun Testify As Witnesses In Second Trial For Abuse Case

วันที่ 19 เมษายน 2019 มีกำหนดการพิจารณาคดีการทำร้ายร่างกายอีซอกชอลและอีซึงฮยอนขึ้นเป็นครั้งที่สอง ซึ่งผู้ต้องหาได้แก่โปรดิวเซอร์มุนยองอิล, ซีอีโอ Media Line คิมชางฮวาน และประธาน Media Line อีจองฮยอนที่ศาลกลางแห่งกรุงโซล

ในการพิจารณาคดีครั้งแรกมุนยองอิลยอมรับว่าเขาทำร้ายร่างกายเด็กมายาวนาน แต่ทั้งคิมชางฮวานและอีจองฮยอนต่างปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าพวกเขาให้ความช่วยเหลือในการทำร้ายร่างกายเด็กและละเมิดกฎหมายสวัสดิการเด็ก

อีซอกชอลและอีซึงฮยอนขอให้มีการคุ้มครองพยาน และศาลให้ทำการให้การแยกออกจากห้องของจำเลย ส่วนพ่อแม่ของพวกเขาขอเข้ามาในศาลด้วย แต่ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากพ่อแม่ของพวกเขาจะเป็นพยานในการพิจารณาคดีครั้งที่สาม

อีซึงฮยอนเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 13 มิถุนายน 2017 ที่ถูกโปรดิวเซอร์มุนยองอิลทำร้ายว่า “ผมถูกโปรดิวเซอร์มุนยองอิลทำร้ายเพราะฟุตบอลครับ ผมไม่ได้เตะบอลแต่เขาได้ยินข่าวลือว่าผมไปเตะบอลจากนั้นจึงกักขังและทำร้ายร่างกายผมครับ”

อีซึงฮยอนเล่าต่อ “ต้นสังกัดไม่อนุญาตให้เราเตะบอล ผมเป็นสมาชิกชมรมฟุตบอลโรงเรียนและต้องเข้าร่วมชมรมตามระยะ แต่ผมไม่ได้เตะบอลจริงๆนะครับและผมเพียงไปสวัสดีโค้ชเท่านั้น จากนั้นโปรดิวเซอร์มุนยองอิลเรียกผมและขู่ผมว่า ‘แกเล่นบอลหรือ? ฉันจะฆ่าแก’ ผมกลัวมากเลยหนีไป เรามีตารางไลฟ์สดผ่าน V Live ในวันนั้นแต่ผมคิดว่าเขาจะฆ่าผมจริงๆดังนั้นเลยไม่ไปต้นสังกัดและซ่อนตัวอยู่ที่ระเบียงอพาร์ทเมนท์”

จากนั้นเล่าต่อ “พ่อแม่หาตัวผมเจอและบอกว่า ‘โปรดิวเซอร์ไม่ใช่คนแบบนั้น’ จากนั้นจึงพาผมไปต้นสังกัด โปรดิวเซอร์มุนยองอิลพาผมไปที่ชั้น 5 และบอกว่า ‘ตายซะ’ เขาใช้ไม้ตีผมและทำให้ผมหายใจไม่ออก ผมวิ่งหนีไปและร้องขอให้คนช่วย ซีอีโอคิมชางฮวานมาที่บันได ผมขอร้องให้เขาช่วยชีวิตผมและเขาพูดไปสูบบุหรี่ไปว่า ‘อย่ารุนแรงกับเขา’ และเดินออกไป โปรดิวซอร์ทำความเคารพเขาและบอกว่า ‘ขอบคุณ'”

อีซึงฮยอนเล่าต่อทั้งน้ำตาว่า “โปรดิวเซอร์มุนยองอิลพาผมออกไปอีกครั้ง ล็อคประตูและทุบตีผม ผมโดนตีหลายสิบครั้ง” เขาเผยว่าคิมชางฮวานรู้ว่ามุนยองอิลทำร้ายเขาแต่ไม่ห้ามแต่อย่างใด “เวลาที่อยู่ด้วยกันเขาจะบอกผมว่า ‘พวกนายเหมือนต้นไม้ที่เหี่ยวเฉา นายทำไม่ได้หรอก ฉันส่งเสริมคิมกอนโมและชินซึงฮุนแต่ฉันรู้สึกว่าพวกเนายไม่มีทางทำได้หรอก’ เขาจะพูดกับโปรดิวเซอร์มุนยองอิลว่า ‘ถึงนายจะต้องเจาะรูบนหัวของเขา นายต้องทำให้พวกเขาเปลี่ยนเป็นสิ่งมีค่า แม้ว่าเราจะต้องไปงานศพใครฉันจะจ่ายเงินค่าทำศพเอง'”

เมื่อเล่าถึงอีกเหตุการณ์หนึ่งอีซึงฮยอนกล่าวว่า “ตอนที่โปรดิวเซอร์มุนยองอิลตีผม เขาจะบอกว่า ‘นายอยากให้ฉันหักแขนนายหรือทำลายเบสราคา 10 ล้านวอน?’ กีต้าร์เบสมีค่าต่อฉันตั้งแต่ปี 2001′ ดังนั้นผมเลยบอกเขาให้ตีแขนผม แต่เขาเหยียบแขนผมด้วยรองเท้าบูทครับ”

อีซึงฮยอนเผยว่าเขาหวังว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกในประเทศเกาหลี และหวังว่าจะไม่มีเยาวชนคนใดต้องมาเจอแบบเขา

อีซอกชอลเริ่มเล่าเรื่องของเขาซึ่งคล้ายกันกับอีซึงฮยอน เขาเล่าถึงคิมชางฮวานว่า “เขามักจะด่าเราหรือพูดในสิ่งที่ไม่น่าเชื่อกับเราครับ”

ในตอนจบอีซอกชอลกล่าวว่า “ในการเตรียมตัวสำหรับคดีนี้ อีซึงฮยอนและผมต้องการความเป็นธรรมไม่เพียงแค่เพื่อพวกเราแต่เพื่อทุกคนในวงการบันเทิงและทั่วโลก เราไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก เราแค่อยากให้ความหวังผู้คนผ่านเพลงที่ดี เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นอีกครั้งครับ”

การพิจารณาคดีครั้งต่อไปมีกำหนดในวันที 7 พฤษภาคม 2019 โดยพ่อแม่ของสองพี่น้องและคิมจุนอุคอดีตสมาชิกวง The East Light จะเข้าให้ปากคำในฐานะพยาน

แปลจาก Soompi โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

หากไม่ต้องการพลาดข่าวสารอย่างรวดเร็วจากเรา เลือกแถบกำลังติดตาม ->อย่าลืมติ๊ก ✔ เลือกเห็นโพสต์ก่อนของเพจ Facebook ของเรานะคะ

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

Happy Unni ร้านค้าแฟชั่น

แบ่งปัน link นี้ไปยัง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Like แฟนเพจของเราเพื่อติดตามข่าวสารอัพเดทก่อนใครได้ที่นี่เลยจ้า