ฮันเกิงอดีตสมาชิก Super Junior ได้เปิดใจถึงเหตุผลที่เขาออกจากวงผ่านการสัมภาษณ์ในรายการเพลงของประเทศจีน
เขาเปิดเผยเหตุผลในการเดบิวต์ว่า “สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผมคือการหาเงินเพื่อที่จะให้พ่อแม่ของผมอยู่อย่างสุขสบาย และมันคือแรงผลักดันที่ดีที่สุดของผมครับ”
อย่างไรก็ตามเขาต้องพบกับปัญหาหลายอย่าง:
“ผมไม่สามารถยืนบนเวทีได้แม้กระทั่งหลังจากที่เดบิวต์แล้ว ผมเป็นคนดังชาวต่างชาติคนแรกที่เดบิวต์ในเกาหลีดังนั้นกฎหมายอะไรต่างๆก็ยังไม่สมบูรณ์ ผมไม่สามารถถ่ายโฆษณาและผมไม่สามารถมีส่วนร่วมในตารางงานบางส่วนได้ ผมรู้สึกหมดหวังจริงๆ ผมร้องไห้ขณะแสดง ‘Twin’ กับเพื่อนสมาชิกซุปเปอร์จูเนียร์ ในปีแรกผมได้รับค่าจ้างจำนวน 4,000 หยวน (ประมาณ 19,500 บาท)”
“ผมรวบรวมเงินจำนวนนี้ด้วยความเหนื่อยยาก เมื่อเห็นคุณแม่ของผมเจ็บปวดนั่นทำให้หัวใจของผมเจ็บปวดไปด้วย แม้ว่าผมจะเดบิวต์ในปี 2005 แต่ผมกลับต้องเป็นนักร้องหน้าใหม่อีกครั้งในปี 2008 เมื่อได้เปิดตัวในฐานะ Super Junior-M ที่ประเทศจีน เป็นเพราะพวกเขาไม่สามารถพูดภาษาจีนได้ ผมเลยต้องเป็นคนแปล ผมเป็นหัวหน้าวงที่คอยรับมือกับสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ผมต้องคอยคิดทุกๆอย่าง ผมปล่อยให้พวกเขาพูดในสิ่งที่อยากจะพูด แต่ผมหวังมันคงจะไม่ผิด”
ฮันเกิงสรุปว่า “ผมต้องการเป็นนักแสดง แต่พวกเขาไม่ให้งานแสดงกับผมเลย ในขณะที่ให้งานแสดงกับสมาชิกคนอื่น ผมไม่เคยได้รับงานโฆษณาใดๆเลยด้วยซ้ำ ความน้อยใจเหล่านี้ถูกสะสมมากจนมันระเบิดออกมา”
“ผมรวบรวมเงินในบัญชีทั้งหมดของผม ประวัติการเข้าโรงพยาบาล และอื่นๆ และไปที่สำนักงานทนายความเพื่อเตรียมตัวดำเนินการทางกฎหมายต่อต้านบริษัท (SM) อย่างเงียบๆ ดังนั้นบริษัทจึงไม่ได้สงสัยอะไรเลย ผมคุยกับผู้จัดการของผมผ่านอีเมลและแอบไปที่สำนักงานทนายความในช่วงที่มีเวลาว่างราวๆสองชั่งโมงหลังจากเสร็จตารางงาน และในตอนนั้นนี่เป็นสิ่งที่ผมไม่สามารถจินตนาการได้เลยจริงๆ”
อย่างไรก็ตาม การกระทำของฮันเกิงทำให้แฟนคลับซุปเปอร์จูเนียร์ไม่พอใจในอดีต เนื่องจากแฟนๆคิดว่าเขาไม่คิดถึงเพื่อนสมาชิกซุเปอร์จูเนียร์คนอื่น
ชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นว่า “เขาพูดว่าเขาทำแบบนี้เพื่อเงิน แต่ความจริงแล้วที่เขาทำแบบนี้เพราะเขาไม่ได้รับค่าจ้างที่เหมาะสมจาก SM ต่างหาก ซึ่งนี่อาจเป็นกรณีเดียวกันกับ H.O.T ด้วยหรือเปล่า?” บ้างกล่าว “คนดังต่างชาติคนแรกงั้นหรอ? นั่นไม่จริงซะหน่อย” และ “เขาได้รับเงินเพียงแค่ 4,000 หยวน และยังต้องเปิดตัวในฐานะหน้าใหม่อีกครั้ง นั่นเท่ากับว่าเขาต้องเหนื่อยในฐานะนักร้องหน้าใหม่เป็น 2 เท่า เพราะเหตุผลเหล่านี้จึงทำดงบังชินกิแยกวง”
แปลจาก allkpop โดย https://kpop.youzab.com หากนำข่าวออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ hotlink ไฟล์ภาพ)
เพราะนายเป็นต่างชาติ มันถึงต้องอดทน ถ้านายอดทนได้มากกว่านี้มันจะดี ดูนิชคุณเป็นตัวอย่าง วิคเป็นตัวอย่างง เพราะนายต้องอดทน ผิดหวังก็เกิงว๊ะ นี้พูดเลย ไม่มีความอดทนมากพอ เหอะๆ
ก็รู้ว่ามันลำบากอ่ะนะ แต่น่าจะทนอีกหน่อยก็สบายละ
แต่อ่านที่เกิงบอกแล้วนึกถึงป้าทึกนะ ถ้าลีดเดอร์มันกดดันมาก ตอนนี้คงได้แต่คิดว่าป้าเก่งมากๆ ที่ทำหน้าที่นี้มาได้ขนาดนี้
ที่พูดยังงี้ คุณเคยได้รับประสบการณ์แบบป๋าหรือป่าว
ลองคิดใจเค้าใจเราดีกว่าไหม บ้างครั้งคนเรามันก็มีขีดจำกัดนะ
กล้าสาบานไหมว่าคุณสามารถอดทนได้ทุกเรื่องนะ ไปบอกให้คนอื่นอดทนทั้งๆที่คนเราบ้างครั้งมันก็ทนได้ไม่เหมือนกัน หรือคุณทำได้หมดหละ คนทุกคนมันต่างกันนะ
เห็นด้วยๆ
คุณค่ะอ่านให้ดีหน่อยน่ะค่ะ sj เค้า เดบิ้ว2005 แต่นิชคุณเดบิ้ว 2008 กฎหมายชาวต่างชาวต่างชาติก็เปลียน สิค่ะ เฮ้ออ
มันคนละเรื่องกันค่ะ อย่าเอามาเปรียบเทียบกัน กรณีของวิคตอเรียหรือนิชคุณ กับกรณีของป๋ามันคนละเรื่องกันนะคะ นิชคุณหรือวิคไม่ได้เจอในสถานการณ์เดียวกับป๋า ไม่ได้ได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมเช่นนี้ แล้วคนแต่ละคนขีดความอดทนไม่เหมือนกัน ต่างคนต่างความคิด คุณไม่ได้เป็นตัวเค้าคุณไม่มีสิทธิไปบอกว่า แค่นี้ทนอีกหน่อยไม่ได้หรือ ถ้าคุณเป็นเค้าคุณอาจจะทนมานานเท่าเค้าไม่ได้ก็ได้ #ความคิดเห็นส่วนตัว
อย่าพูดว่าดูน้องคุณ หรือวิคเป็นตัวอย่างเลยค่ะ มันไม่เหมือนกัน
ตอนน้องคุณเซ็นสัญญา ต้นสังกัดที่ไทยเอาสัญญาจากเกาหลีมาแก้หลายรอบ
กว่าจะให้น้องเค้าไปเกาหลีได้ พอไปอยู่เกาหลี นิชคุณทำงานในเกาหลีได้เท่าไรแบ่งครึ่งกับเพื่อนร่วมวงหมด(น้องเค้ามีงานเดี่ยว และงานโฆษณาเยอะเลย) แต่ทำแล้วก็แบ่งกับเพื่อนเท่ากัน….ยกเว้นทำงานเดี่ยวที่ไทยที่ไม่ต้องหารสมาชิกในวง
ตัวนิชคุณเองทำแบบนี้มาตลอด จนกระทั่งเขาเกิดอุบัติเหตุปีที่แล้ว …เลยมีการเปลี่ยนสัญญาคือ ใครทำได้เท่าไหร่ ก็แบ่งแต่ต้นสังกัด ไม่ต้องแบ่งเพื่อนร่วมวง(ตอนนั้นนิชคุณพักงานไปเดือนกว่า ก็ขาดรายได้ไป แต่ดีว่าน้องเค้ารับงานโฆษณาเดี่ยวทั้งไทย และเกาหลีเยอะเลยไม่มีปัญหาเรื่องเงิน)…..ส่วนตัวนิชคุณก็โดนเอาเปรียบจากต้นสังกัดเหมือนกัน(อันนี้ไม่ได้จะดราม่า พูดตามจริง) แต่แค่อาจจะโดนเอาเปรียบจากต้นสังกัดน้อยกว่าฮันเกิงเยอะเลย….ส่วนวิคไม่ทราบว่าเค้าแบ่งกันยังงัย เพราะฉะนั้นอย่าว่าฮันเกิงเค้าไม่อดทนเลยค่ะ เราว่าเค้าน่าสงสารมาก ตัวนิชคุณ วิคตอเรีย หรือแม้แต่ศิลปินต่างชาติอื่น ๆ ก็เหมือนกัน ถึงอย่างไรเค้าก็ให้ความสำคัญไม่เท่าศิลปินในชาติตัวเองหรอก
เข้าใจที่ในความผิดหวัง แต่ก่อนจะเป็นอย่างนั้นอยากให้คุณมองเค้าให้ลึกลงไปกว่านั้นก่อนที่คุณ แฟนคลัยหรือใคร(แม่แต่เพื่อนร่วมวง)รู้สึกเหมือนโดนหักหลัง
ค่ายปั้นเค้าให้ดังเพราะเห็นบางสิ่งบางอย่างที่จะทำให้ค่ายได้ประโยชน์ เค้าหล่อ เค้ามีสเน่ห์ ค่ายรู้ต่อให้ร้องเพลงหรือพูดภาษาไม่เก่งแต่แฟนคลับก็ยังชอบเค้า เราเชื่อว่าเค้าติดอันดับสมาชิกที่มีคนชอบมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆมาโดยตลอด
เราไม่มองว่าค่ายผิดหรือถูกนะ ค่ายเพลงก็คือธุรกิจ ธุรกิจคือการมองหากำไรให้มากที่สุด ค่ายให้โอกาสเป็นสะพานสำหรับคนที่อยากไปตามฝัน นั่นคือสิ่งที่แลกกัน เพราะงั้นเราถึงเห็นว่าคนที่มีโอกาสได้เป็นนักร้องในค่ายถึงรักและเคารพบ้านหลังนั้นเพราะค่ายนั่นส่งเค้าไปถึงฝันไง
แต่สำหรับกรณีของป๋าฮัน ภาพที่พวกเรามองเห็น ณ ตอนนั้นก็ดูเหมือนเค้ามาถูกทางแล้ว เค้าดูดี เค้าดัง ค่ายทำให้เค้าดังแต่ดังในแบบที่เค้าไม่อยากเป็น จุดมุ่งหมายของเค้าคืออะไร เค้าอยากดูแลพ่อแม่ เค้าอยากเป็นนักแสดง ต้องทำงานเป็นนักร้องที่โดนแบนหนักทั้งปีเพราะตอนนั้นประเทศนี้ไม่เปิดกว้าง แค่นี้ก็เหนื่อยแล้วแถมเป็นงานที่ตัวเองไม่ได้ชอบหรือหวังเอาไว้ยิ่งผลที่เป็นตัวเงิน เงินที่เค้าอยากใช้ดูแลพ่อแม่ที่เค้าได้ต่อปีได้น้อยกว่าเราทำงานหนึ่งเดือนด้วยซ้ำ
เราเชื่อว่าเค้าแคร์แฟนคลับนะ ไม่งั้นทั้งๆที่โดนแบนตั้งแต่แรกๆ ทำไม่เค้าไม่ถือโอกาสตรงนั้นไปซะตั้งแต่ตอนนั้นล่ะตั้งแต่ตอนที่แฟนคลับยังไม่เยอะแต่เค้ากลับทนมาตั้งหลายปี ไม่ใช่เพราะเค้าอดทนเพื่อครอบครัว เพื่อนร่วมวงและแฟนคลับหรอกหรอ? (แต่ก็ไม่แน่ เค้าอาจจะรอให้สัญญาหมดก่อนก็ได้ อันนี้ไม่รู้)
และดูจากนิสัยเค้าผ่านรายการที่เคยดูมา ก็พอจะเห็นว่าเค้าคงเก็บเรื่องทุกข์ใจไว้กับตัวเองโดยไม่ค่อยหรือไม่กล้าปรึกษาอะไรกับเพื่อนสมาชิกมาก เพราะแต่ละคนดูเฮฮา แต่บางครั้งเฮฮาจนเหมือนละเลย เวลาทำงานก็ทำงานด้วยกัน แต่พอวันว่าบ้างก็ต่างคนต่างอยู่บ้างก็ไปไหนด้วยกัน และเพราะพวกเขาไม่ใช่คนที่จะต้องมาอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ซึ่งอาจจะไม่ได้เข้าใจความละเอียดอ่อนตรงนี้ของป๋าฮันมากนัก ไหนจะ cross culture อีก
เราไม่ใช่แฟนคลับป๋าฮัน แต่ชอบดูรายการเกาหลีฮาๆซึ่งวงนี้ฮาดี ส่วนเรื่องเค้าแยกตัวเราก็แค่พอจะรู้ข่าวคราวบ้าง แต่พอมาได้อ่านบทความนี้ ลองนึกภาพตัวเองอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเค้า หรือแค่คิดว่าคุณต้องทนนั่งเรียนในสิ่งที่คุณไม่ชอบ หรือทำงานในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวคุณ คุณอาจจะพอนึกออกบ้างว่าเค้ารู้สึกยังไง
เอสเจเดบิวต์ก่อนคนที่คุณยกตัวอย่างมานะค่ะ -_- แล้วช่วงที่เกิงอยู่มันเป็นอะไรที่ยากมากนะที่คนต่างชาติจะทำงานในเกาหลีน่ะ
เราเข้าในเค้านะ เมื่อก่อนอะไรๆก้ลำบากกว่าตอนนี้เยอะคุณ
ความคิดเห็นข้างบน อย่าเอาความรู้สึกตัวเองมากเป็นใหญ่สิ
ทุกคนทำงานก้เพื่อเงินจิงมั้ย ฮันเกิงคงอดทนมามาก
เพราะทุกอย่างเค้าขอไม่เคยได้แต่สมาชิกกลับได้แทน
ทุกคนก้ย่อมรู้สึกเป็นธรรมดา สมาชิกทั้งหมดไม่มีใครผิด
ผิดที่บริษัทมากกว่า
ปล.เป็นกำลังใจให้พี่คุณ
เฮียเกิงสู้ๆนะ ฟังที่เฮียให้สัมภาษณ์ในคลิปแล้วน้ำตาไหลอ่ะจิงๆ เฮียเหมือนจะร้องไห้ด้วยแหละ ฮือออออออออออ TTTTTOTTTTTT
สงสารและเห็นใจทั้ง2ฝ่ายเพราะรักเอสเจอยากให้เอาใจเขามาใส่ใจเรากันนะค่ะ
ที่นี่ไม่มีที่ว่างเหลือให้นายแล้ว จบสิ้นกันทีการรอคอย!!!!!
ในตอนนั้นอะไรๆมันอาจจะไม่ได้ง่ายเหมือนตอนนี้
มีอะไรบ้างที่เขาทนเก็บเอาไว้
ที่เขาไม่ได้พูดออกมา เราไม่รู้เลย
จะมาตัดสินอะไรเพียงไม่กี่นาที
กับเวลาที่ผ่านมามันเทียบกันไม่ได้หรอก
ความรู้สึกที่พูดออกมาไม่ได้
ไม่มีวันที่ใครจะมาเข้าใจได้หรอก.
ทึกเองก็ทำหน้าที่มาได้ดีมากเลย♥
เอาจริงๆเลยนะ เราเข้าใจเกิงนะ เราจำได้เลยว่าเกิงเป็นชาวต่างชาติคนแรกๆเลยก็ว่าได้
อย่าว่าอย่างโน่นอย่างนี้เลยนะ จะโทษเรื่องเป็นชาวต่างชาติก็ไม่ถูก
มันอยู่ที่บริษัทมากกว่า…. ที่เห็นว่าใครทำเงินได้ดีกว่าก็ให้แต่งานคนนั้น เพื่อทำเงิน
ที่แย่คือ เกิงไม่ได้รับโอกาสได้ๆจากทางบริษัทเลย
เงินปีแรกที่เกิงได้ มันไม่เหมาะสมจริงๆนั้นล่ะ
((เรื่องเงินๆทองๆ SM เขาขึ้นชื่อจริงๆ))
Opsss!!!……..
เราถึงชมเชยคนต่างชาติที่เดบิ๊วแล้วประสบความสำเร็จไง
อะไรๆมันไม่ง่ายเลย แล้วเกาหลีก็เป็นชาตินิยม เค้าก็ต้องเอาคนประเทศเค้าก่อนอยู่แล้ว
คนต่างชาติที่ประสบความสำเร็จในเกาหลีจึงต้องเจ๋งจริงๆ
ขอบคุณฮันเกิงนะ ที่ปูทางให้น้องๆรุ่นถัดไปได้มีโอกาสต่างๆมากขึ้น
เราเป็นแฟนคลับวิค เรารู้ดีว่า มันยากมากๆ ต้องอดทนต่างๆนานา มากขึ้นหลายเท่าถ้าเทียบกับคนเกาหลีแท้ๆ ยิ่งเป็นสมัยก่อนนี่นะ เกิงคงต้องเจ็บปวดมาก เราเข้าใจ 🙂
เราจะมาพูดหรือตัดสินอะไรไม่ได้หรอก
เพราะก็ไม่มีใครที่รู้ความจริงทุกอย่างทั้ง SM และเกิง
แต่ก็ขอให้พี่โชคดีกับสิ่งที่พี่เลือกล่ะกัน
ไม่ว่ี่าพี่หรือใครจะตัดสินใจกันยังไงเราก็ยังรัก SJ และสนับสนุนพวกเขา
ต่อให้ SJ จะเหลือกี่คนก็ตาม SJ ทั้ง 13 คน ก็จะอยู่ในความทรงจำของฉันอยู่ดี
เราจะมาพูดหรือตัดสินอะไรไม่ได้หรอก
เพราะก็ไม่มีใครที่รู้ความจริงทุกอย่างทั้ง SM และเกิง
แต่ก็ขอให้พี่โชคดีกับสิ่งที่พี่เลือกล่ะกัน
ไม่ว่ี่าพี่หรือใครจะตัดสินใจกันยังไงเราก็ยังรัก SJ และสนับสนุนพวกเขา
ต่อให้ SJ จะเหลือกี่คนก็ตาม SJ ทั้ง 13 คน ก็จะอยู่ในความทรงจำของฉันอยู่ดี
คนที่ด่าๆฮันเกิงนะอยากให้เข้าใจความรู้สึกเขาหน่อย เพราะสมัยก่อนเกาหลีแอนตี้คนต่างชาติมากถึงขนาดมีกฎห้ามไม่ให้คนต่างชาติออกทีวีเกาหลีเลยด้วยซ้ำ ตัวฮันเกิงยังเคยต้องใส่หน้ากากตอนแสดงเลยถ้าจำไม่ผิด ที่นั่นเขาเพิ่งจะมาแก้กฎหมายช่วงปี2007-2008มั้งไม่ค่อยแน่ใจ เพราะเท่าที่จำได้นิขคุณที่เดบิวต์ตอนแรกยังมีข่าวเลยว่าจะได้ออกรายการทีวีไหม (อันนี้ข่าวเก่ามาก) อีกอย่างเราว่าฮันเกิงก็รู้สึกเหมือนหลอกใช้เพื่อเอาไว้แค่เปิดตลาดเมืองจีนแต่พอกลับมาเกาหลีก็ไม่ให้งานทำ เป็นใครๆก็น้อยใจ
เราว่า SM เอาเปรียบศิลปินเกินไปนะ ฮันเกิง อ่ะเราคิดว่าถ้าเค้าไม่มีความอดทนคงเข้ามาเป็นเด็กฝึกนานขนาดนั้นไม่ได้หรอก อีกอย่าง SM เอา ฮันเกิง มาฝึกเค้าก็คิดถึงเรื่องผลกำไรในประเทศจีน อย่างเดียว ที่ผ่านมาก็เห็นแต่ SM มีปัญหากะศิลปิน บริษัทอื่นเค้าไม่เห็นเป็นไร เราดีใจนะที่ นิชคุณ อยู่ JYP เราว่าการดูแลศิลปินมันค่างกันอ่ะ อีกอย่างตอนนี้ ฮันเกิง ก็ได้ตามฝันของเค้าแล้ว สู้ สู้ นะ ฮันเกิง เราชอบดูนายแสดงภาพยนต์ บอกเลยเราดูทุกเรื่องที่นายแสดง
ก็เข้าในระดับนึง แต่อีกความรู้สึกนึงมันก็เสียใจอะ
อ่านเสร็จแล้วจุกยังไงก็ไม่รู้
คือตอนนี้ก็โอเคนะ แต่มองย้อนกลับไปตอนมีข่าวตอนแรกเลย คือเสียใจมากๆๆ
ร้องไห้และไม่เคยคิดว่าเหตุผลเป็นแบบในสัมภาษนี้
ความคิดเห็นเราว่า ใช่ตอนทึ่เกิงเดบิวต์ กฏหมายสำหรับนักร้องต่างชาติทึ่เกาหลียังห้ามคนต่างชาติอยู่ แต่เราก็เข้าใจsmนะ ที่ไม่ให้งานเกิงพวกงานแสดง งานพรีเซ็นเตอร์ มันก็ขึ้นอยู่กับคนว่าจ้างด้วยนะ แต่smก็ยังให้เกิงเล่น mv นะ และเงินตอนที่เดบิวต์ ที่ได้แค่นั้น อย่าลืมว่าสมาชิกในวงเยอะ และเป็นหน้่าใหม่ก็ต้องได้น้อยเป็นธรรมดา สำหรับเราเราเฟลกับเกิงนะ แต่เราไม่ได้เกลียดเกิง ยังดูผลงานอยู่เป็นบางครั้ง ใครจะว่ายังไงก็ช่างแต่เราว่าเกิงออกเพราะเงินเป็นปัจจัยหลักและเราคิดว่าเกิงอยากกลับจีนด้วยคงเป็นห่วงพ่อกับแม่ด้วย จิงๆตอนเป็น super junior เกิงก็มีงานเดี่ยวที่จีนบ่อยอยู่นะ อดีตมันผ่านไปแล้ว อย่าตีกันเลย
สู้ๆเกิง อย่างน้อยเขาก็เป็นคนปูทางให้น้องรุ่นหลังที่เดบิวต์ออกมาถัดๆไปละกัน สู้ๆ
ที่เกิงคิดมันก็ถูก SM (เมื่อก่อน) ก็เป็นอย่างว่า
แต่ถ้าอดทนอีกนิด เกิงก็สบายแล้ว เสียดายแทน…..
แต่ถ้าไม่มีกรณีเกิงเกิดขึ้นมา เอสเอ็มก็ไม่เปลี่ยนหรอกค่ะ 5555
^
^
อ๋อหรอ ???
ปีแรกให้เงิน 4,000 หยวนเอง น้อยไปเปล่า อีกอย่างเค้าไม่ได้ต้องการแค่เงิน โอกาสในฐานะนักแสดง พรีเซนเตอร์ อะไรต่างๆ ก็ไม่ได้ ไม่เห็นใจเค้าบ้างหรอ แล้วคุณรู้ได้ไงว่าถ้าเค้าอดทนต่อไปแล้วจะสบาย เราว่าเค้าทำถูกแล้วละที่ออกจากวงแล้วไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เพราะเค้าก็สบายกว่าเดิมมาก ทั้งเงินเรื่องเงินและเรื่องใจ
เคารพการตัดสินใจของเกิง
เห็นด้วย
ไม่มีมนุษย์คนไหนทำงานแล้วไม่เห็นแก่เงินหรอก ~
เหนื่อยแต่ค่าตอบแทนไม่คุ้ม ใครจะทน
บางคนบอกให้เกิงอดทน พูดได้สิ เพราะไม่ได้อยู่ในสถานการณ์นั้น
เรารักเกิง เพราะเค้า คือ เค้า ต่อให้ไม่มี คำว่า ซุปเปอร์ จูเนียร์ นำหน้า
เราก็รัก และ ชื่นชมในความกล้าหาญของเค้า
คนเราก็มีสิทธิ์เรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเองไม่ใช่เหรอ? แล้วถามหน่อย เราจะมีความสุขเหรอ ถ้าต้องเห็นคนที่เรารักเจ็บปวด เราจะมีความสุขอยู่บนความทุกข์ของเค้างั้นเหรอ ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วเค้ามีความสุขมันก็ดีกว่าอ่ะ ในขณะที่เรายิ้ม มีความสุขกับสิ่งที่เค้าทำให้ เค้าอาจจะกำลังร้องไห้อยู่ก็ได้ เคารพการตัดสินใจของป๋านะ เราเข้าใจป๋านะ เราเป็นแคส เราเข้าใจดี TT
มองเป็นประเด็นไปนะ
– เรื่องกฎหมายของเกาหลีนี่ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้จริงๆ ถึง sm จะยิ่งใหญ่ในวงการเพลง แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะแก้กฎหมายอะไรๆเองได้ เราเห็นใจเกิงนะแต่ก็เข้าใจ sm เหมือนกัน
– เรื่องค่าตอบแทนเนี่ยจากใจเลยเราว่ามันน้อยเว่อร์อ่ะ ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อเกิงนะ พยายามจะเข้าใจว่า sj มีสมาชิกเยอะมาก ไหนจะหักค่าโน่นนี่ แล้วก็ยังต้องมาหารกันอีก แต่มันน่าตกใจตรงที่มันเป็นเงินของทั้งปีไง งานทั้งปีเหลือเงินแค่นี้เราอยากจะกร๊ดแทน…
– เรื่อง sj – m เรากลับเห็นต่างมุมมองนะ เกิงอาจจะเหนื่อยเพราะต้องเริ่มต้นใหม่ ต้องแบกรับในการเป็นหัวหน้าวงและเรื่องภาษาจีนอีก แต่เราว่ามันเป็นการเริ่มต้นที่ดีนะ แถมมีโอกาสได้โปรโมตที่บ้านเกิดด้วย คืออย่างใน sj ก็ต้องบอกว่าสมาชิกเยอะ ไม่ได้โด่งดังทุกคนและ sm ก็ไม่ได้ดันทุกคน แต่การได้โปรโมต sj-m เกิงได้เปรียบคนอื่นๆเพราะเป็นเจ้าบ้านพูดฟังก็รู้เรื่องเพียงแต่อาจจะเหนื่อยกว่าเดิมเพราะต้องดูแลสมาชิกอื่นๆมากขึ้น ก็คงเป็นคนละมุมมองจากคนนอกอย่างเราหล่ะมั้ง
– เรื่องการแสดงอ่ะมันคิดได้ 2 แง่ คือสปอนเซอร์ไม่เลือก กับบริษัทไม่ดัน
ต้องยอมรับนะว่าเกิงก็ดังในเกาหลีแต่ก็ไม่ได้เป็นที่นิยมขนาดซีวอน ถ้าเป็นโฆษณามันก็แล้วแต่เค้าจะเลือกใครเป็นพีเซ็นเตอร์ยิ่งเป็นบอยแบนด์ เกิร์ลกรุ๊ปส่วนมากถ้าโฆษณากลุ่มก็คงจะเฉลี่ยๆกันไป แต่ถ้าเป็นแบบเดี่ยวมันต้องแล้วสปอนเซอร์จริงๆนะว่าจะเลือกใคร …ส่วนงานแสดงนี่เท่าที่เราเข้าใจ sm ดันทีละคนตามมุมมองของเขา ใครที่จะเหมาะและน่าจะขายได้เขาจะเลือกดันคนนั้นก่อนจริงๆ เกิงเองภาษาเกาหลีถึงพูดได้แต่ก็ไม่ได้ชัดเป๊ะ หน้าตาเกิงดีแต่ก็ไม่ได้โดดเด่นเกินเพื่อนในวง เราว่าเหตุผลรวมๆพวกนี้ทำให้ sm ยังไม่ดันเกิงมากกว่า แต่ถ้ายังอดทนคงอยู่ ณ ตอนนี้เราว่า sm ก็ไม่ปล่อยทิ้งเกิงหรอก
คนเรามีสิทธิเลือกทางในการดำเนินชีวิตไม่เหมือนกัน เราเชื่อว่าเกิงเองก็เลือกทางที่เขาอยู่แล้วสบายใจ ขอให้ประสบความสำเร็จ ยังไงพวกเราก็คอยซับพอร์ตอยู่ ^^
เค้าทำถูกแล้วล่ะ ถึงกฎหมาย ชาวต่างชาติ จะแก้ไขในปี 2008-2009 แล้วปัจจุบัน คนต่างชาติก็เดบิวต์ มีผลงานในเกาหลีเยอะ
แต่อย่าลืมว่า SJ เดบิวต์มาตั้งแต่ ปี 2005 ซึ่งปัจจุบัน ก็ 7-8 ปี แล้ว ด้วยอายุขัยของวงแล้ว สมาชิกแต่ละคนควรมีงานเดี่ยว ที่สร้างรายได้ให้ตัวเองได้แล้ว
ถ้า เค้ายังคงอยู่กับ SM งานและรายได้ ของเค้าก็คงได้ไม่เยอะ สมกับที่เดบิวต์มานานแล้วหรอก
ไม่ว่าใครจะว่ายังไงคิดยังไงแต่ Super junior ก็ยังมีสมาชิก 13 คนเพราะ super juniorมีแค่13คนและจะมี13คนตลอดไป และเราก็เชื่อมั่นและเคารพในการตัดสินใจของ Super junior ทุกคน จะเป็นกำลังใจให้โอปป้าและจะอยู่ข้างๆโอปป้าต่อไป จีคยอชุลเค ยอลเซมยอง เริ่มที่ทึกจบที่เอล์ฟ
เราไม่โทษเกิงนะ จริงอยู่ว่าตอนที่เกิดเรื่องยอมรับเลยว่าเราโกรธเกิงมาก เกลียดเลยล่ะ สำหรับเราเอสเจมีสิบสามคนตลอดนะ
พอเวลาผ่านไปเราก็เริ่มะมาคิดได้ ว่าเกิงไม่ผิด เอสเอ็มไม่ผิด แฟนคลับไม่ผิดที่โกรธเกิง ถ้าเราไม่เจอแบบเกิงเราจะไม่มีทางเข้าใจเกิงเด็ดขาด เรื่องเงินสำหรับบางคนอาจจะเห็นว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา เรื่องเล็กน้อย แต่ถ้ามองในมุมมองของเกิงแล้วคงต้องบอกว่าเกิงเก่งจริงๆที่อดทนมาถึงตอนนั้นได้นะ
ไม่ว่ายังไงก็ยังรักเกิงอยู่เหมือนเดิม
มาอยู่ YG นี่มา จบๆๆ 555
จริงโคตรแฟร์อยากทำไรป๋าปล่อยทำไปผิดค่อยโดนด่าเอา55555
พอพูดความจริงก็โดนว่า สังคมต้องการอัลไลค่ะ
ตอนนี้ต่างคนต่างเดินแล้ว ตามฝันเหมือนเดิม แค่แยกทางกันเดินจองใครของมัน
อย่ามาว่าเกิงของฉันน่ะ คุณว่าเกิงอ่ะคุณเคยตามเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ฮ่ะ ฉันตามตั้งแต่ ป.6 จนตอนนี้ปี4 แล้ว
ถ้าคุณตามคุณจะรู้เลยว่าเกิงเป็นคนต่างชาติคนแรกที่ทำให้วงการเพลงเกาหลีมันดังระเบิดเถิดเทิง ฉันจะบอกว่า ฮันเกิงคนนี้แล่ะ ที่ทำให้ฉัน ชอบเพลงเกาหลี ฟังเพลงเกาหลี เต้นเกาหลี แล้วก็รักประเทศนี้ จริงๆๆต้องขอบคุณเกิงด้วยซ้ำที่ทำให้ประเทศนี้มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมา
เหตุผลที่เกิงออกมาพูด มันก็เป็นอะไรที่รู้ๆๆกันอยู่ อย่ามาทำเป็นโลกสวย ตอนนี้ต่างคนก็มีทางของตัวเอง แค่เขาออกมาพูดเรื่องอดีตบ้างคุณก็ทำเป็นรับไม่ได้ ตัวอย่างที่คุณยกมาฉันก็ชืนชอบไอดอลเหล่านั้นเหมือนกัน แต่บ่องตงเขาเหล่านั้นไม่ได้โด่งดังในรุ่นแรกเหมือนอย่างฮันเกิง
ถ้าคุณไม่พอใจก็เก็บไว้อย่ามาตั้งcomment ล่อเป้าเห็นแล้วมันอารมณ์ไม่ดี
นี่คุณ สร้างกระแสรึไง
เอสเจเดบิวท์ 7 กำลังจะ 8 ปี
คุณบอกว่าตามตั้งแต่ป.6จนปี4 ระยะเวลานี่สิบปีเลยนะคุณ
เก่งนะ ตามตั้งแต่เป็นเด็กเทรนเลยหรอไง
ป.6 ชั้นจำได้ว่ายุคดีทูบีนี่เธอออออออออออออออออ ชั้นก็จะปี 4 แล้วเหมือนกัน ตอนนั้น SJ ยังไม่ตั้งวงเลย -_- รู้จักแต่เฉินป๋อหลิน
ปล. หมายถึงคุณ HE IS MY BOY นะคะ
ลืมกด reply
ถ้าครอบครัวของคุณ หรือแม่ของคุณกำลังเจ็บปวดคนเป็นลูกก็ไม่ผิดนี่ค่ะ ที่จะทำเพื่อแม่ อยากน้อยเขาก็พยายามสุดความสามารถที่คนคนหนึ่งจะทำได้แล้วนะค่ะ และคุณก็ไม่ควรที่จะเอาไปเปรียบเทียบกับพี่คุณนะค่ะ พี่คุณยังได้รับโอกาสในงานเดี่ยว แต่ป๋าฮันกลับไม่ได้รับโอกาสนั้น และตอนนี้ป๋าฮันก็ประสบความสำเร็จด้านการงานอย่างมาก ยังไงก็ยินดีด้วยนะค่ะ สำหรับเรายังไง SJ ก็ยังมี13คนเสมอ ^.^
**แต่พี่คุณก็เก่งมากนะค่ะ ยินดีกับทั้งสองคนที่ประสบความสำเร็จ
ตอนนั้นเรายังเด็กก็เคยเสียใจและก็ไม่เข้าใจนะเรื่องเอสเจกับดงบัง
เหมือนกับมิตรภาพของพวกเค้าได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ แฟนคลับอย่างเราแทบใจสลาย
แต่เพราะฮีนิมยังดูรักป๋ามาก เราก็เลยยังคงรักป๋าเหมือนเดิม อิอิ
แต่นับจากนั้นไม่ดูผู้ชายอีกเลยหันไปส่องแต่เกิร์ลกรุ๊ปแทน T^T
แต่เมื่อเราโตขึ้น…เหมือนเรื่องทุกเรื่องมันเป็นไปพื้นฐานของความเป็นจริงค่ะ
เราเข้าใจค่ายและเข้าใจศิลปินนะ ทุกคนมีสิทธิเลือกค่ะ ^^
ถึงค่ายจะให้ป๋าทำงานหนัก แต่ที่คนรู้จักป๋าก็เป็นเพราะค่ายนะคะ ^^
ถึงใครจะว่าป๋าหรือ jyj ทรยศแต่เราคิดว่าทุกอย่างมันก็มีจุดอิ่มตัวทั้งนั้น
ถนนไม่ได้มีเส้นเดียว ดังนั้นพวกเค้ามีสิทธิเลือกทางเดินใหม่ที่ทำให้พวกเค้าสบายใจมากกว่าค่ะ แต่หวังว่าซักวันพวกเค้าจะมาเดินทางมาที่เส้นทางเดียวกันสักครั้ง
แฟนคลับอย่างเราคงจะดีใจมาก ^^
ปล.ข่าวนี้เรารู้สึกถึงความจริงใจของป๋านะ
พี่หานเกิงคะพี่เก่งมาก ^_^
ที่สามารถทนมาได้ขนาดนี้