ฮันเกิงเปิดใจถึงสาเหตุที่เขาออกจากวง Super Junior!!

ฮันเกิงเปิดใจถึงสาเหตุที่เขาออกจากวง Super Junior!!

ฮันเกิงอดีตสมาชิก Super Junior ได้เปิดใจถึงเหตุผลที่เขาออกจากวงผ่านการสัมภาษณ์ในรายการเพลงของประเทศจีน

เขาเปิดเผยเหตุผลในการเดบิวต์ว่า “สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผมคือการหาเงินเพื่อที่จะให้พ่อแม่ของผมอยู่อย่างสุขสบาย และมันคือแรงผลักดันที่ดีที่สุดของผมครับ”

อย่างไรก็ตามเขาต้องพบกับปัญหาหลายอย่าง:

“ผมไม่สามารถยืนบนเวทีได้แม้กระทั่งหลังจากที่เดบิวต์แล้ว ผมเป็นคนดังชาวต่างชาติคนแรกที่เดบิวต์ในเกาหลีดังนั้นกฎหมายอะไรต่างๆก็ยังไม่สมบูรณ์ ผมไม่สามารถถ่ายโฆษณาและผมไม่สามารถมีส่วนร่วมในตารางงานบางส่วนได้ ผมรู้สึกหมดหวังจริงๆ ผมร้องไห้ขณะแสดง ‘Twin’ กับเพื่อนสมาชิกซุปเปอร์จูเนียร์ ในปีแรกผมได้รับค่าจ้างจำนวน 4,000 หยวน (ประมาณ 19,500 บาท)”

“ผมรวบรวมเงินจำนวนนี้ด้วยความเหนื่อยยาก เมื่อเห็นคุณแม่ของผมเจ็บปวดนั่นทำให้หัวใจของผมเจ็บปวดไปด้วย แม้ว่าผมจะเดบิวต์ในปี 2005 แต่ผมกลับต้องเป็นนักร้องหน้าใหม่อีกครั้งในปี 2008 เมื่อได้เปิดตัวในฐานะ Super Junior-M ที่ประเทศจีน เป็นเพราะพวกเขาไม่สามารถพูดภาษาจีนได้ ผมเลยต้องเป็นคนแปล ผมเป็นหัวหน้าวงที่คอยรับมือกับสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ผมต้องคอยคิดทุกๆอย่าง ผมปล่อยให้พวกเขาพูดในสิ่งที่อยากจะพูด แต่ผมหวังมันคงจะไม่ผิด”

ฮันเกิงสรุปว่า “ผมต้องการเป็นนักแสดง แต่พวกเขาไม่ให้งานแสดงกับผมเลย ในขณะที่ให้งานแสดงกับสมาชิกคนอื่น ผมไม่เคยได้รับงานโฆษณาใดๆเลยด้วยซ้ำ ความน้อยใจเหล่านี้ถูกสะสมมากจนมันระเบิดออกมา”

“ผมรวบรวมเงินในบัญชีทั้งหมดของผม ประวัติการเข้าโรงพยาบาล และอื่นๆ และไปที่สำนักงานทนายความเพื่อเตรียมตัวดำเนินการทางกฎหมายต่อต้านบริษัท (SM) อย่างเงียบๆ ดังนั้นบริษัทจึงไม่ได้สงสัยอะไรเลย ผมคุยกับผู้จัดการของผมผ่านอีเมลและแอบไปที่สำนักงานทนายความในช่วงที่มีเวลาว่างราวๆสองชั่งโมงหลังจากเสร็จตารางงาน และในตอนนั้นนี่เป็นสิ่งที่ผมไม่สามารถจินตนาการได้เลยจริงๆ”

อย่างไรก็ตาม การกระทำของฮันเกิงทำให้แฟนคลับซุปเปอร์จูเนียร์ไม่พอใจในอดีต เนื่องจากแฟนๆคิดว่าเขาไม่คิดถึงเพื่อนสมาชิกซุเปอร์จูเนียร์คนอื่น

ชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นว่า “เขาพูดว่าเขาทำแบบนี้เพื่อเงิน แต่ความจริงแล้วที่เขาทำแบบนี้เพราะเขาไม่ได้รับค่าจ้างที่เหมาะสมจาก SM ต่างหาก ซึ่งนี่อาจเป็นกรณีเดียวกันกับ H.O.T ด้วยหรือเปล่า?” บ้างกล่าว “คนดังต่างชาติคนแรกงั้นหรอ? นั่นไม่จริงซะหน่อย” และ “เขาได้รับเงินเพียงแค่ 4,000 หยวน และยังต้องเปิดตัวในฐานะหน้าใหม่อีกครั้ง นั่นเท่ากับว่าเขาต้องเหนื่อยในฐานะนักร้องหน้าใหม่เป็น 2 เท่า เพราะเหตุผลเหล่านี้จึงทำดงบังชินกิแยกวง”

แปลจาก allkpop โดย https://kpop.youzab.com หากนำข่าวออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ hotlink ไฟล์ภาพ)

แบ่งปัน link นี้ไปยัง

46 Comments

  1. เฮ้อ says:

    เพราะนายเป็นต่างชาติ มันถึงต้องอดทน ถ้านายอดทนได้มากกว่านี้มันจะดี ดูนิชคุณเป็นตัวอย่าง วิคเป็นตัวอย่างง เพราะนายต้องอดทน ผิดหวังก็เกิงว๊ะ นี้พูดเลย ไม่มีความอดทนมากพอ เหอะๆ
    ก็รู้ว่ามันลำบากอ่ะนะ แต่น่าจะทนอีกหน่อยก็สบายละ

    แต่อ่านที่เกิงบอกแล้วนึกถึงป้าทึกนะ ถ้าลีดเดอร์มันกดดันมาก ตอนนี้คงได้แต่คิดว่าป้าเก่งมากๆ ที่ทำหน้าที่นี้มาได้ขนาดนี้

    • ไม่เข้าใจ says:

      ที่พูดยังงี้ คุณเคยได้รับประสบการณ์แบบป๋าหรือป่าว

    • k says:

      ลองคิดใจเค้าใจเราดีกว่าไหม บ้างครั้งคนเรามันก็มีขีดจำกัดนะ
      กล้าสาบานไหมว่าคุณสามารถอดทนได้ทุกเรื่องนะ ไปบอกให้คนอื่นอดทนทั้งๆที่คนเราบ้างครั้งมันก็ทนได้ไม่เหมือนกัน หรือคุณทำได้หมดหละ คนทุกคนมันต่างกันนะ

    • กาก says:

      คุณค่ะอ่านให้ดีหน่อยน่ะค่ะ sj เค้า เดบิ้ว2005 แต่นิชคุณเดบิ้ว 2008 กฎหมายชาวต่างชาวต่างชาติก็เปลียน สิค่ะ เฮ้ออ

    • hhhh says:

      มันคนละเรื่องกันค่ะ อย่าเอามาเปรียบเทียบกัน กรณีของวิคตอเรียหรือนิชคุณ กับกรณีของป๋ามันคนละเรื่องกันนะคะ นิชคุณหรือวิคไม่ได้เจอในสถานการณ์เดียวกับป๋า ไม่ได้ได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมเช่นนี้ แล้วคนแต่ละคนขีดความอดทนไม่เหมือนกัน ต่างคนต่างความคิด คุณไม่ได้เป็นตัวเค้าคุณไม่มีสิทธิไปบอกว่า แค่นี้ทนอีกหน่อยไม่ได้หรือ ถ้าคุณเป็นเค้าคุณอาจจะทนมานานเท่าเค้าไม่ได้ก็ได้ #ความคิดเห็นส่วนตัว

    • ไม่ได้จะดราม่า says:

      อย่าพูดว่าดูน้องคุณ หรือวิคเป็นตัวอย่างเลยค่ะ มันไม่เหมือนกัน
      ตอนน้องคุณเซ็นสัญญา ต้นสังกัดที่ไทยเอาสัญญาจากเกาหลีมาแก้หลายรอบ
      กว่าจะให้น้องเค้าไปเกาหลีได้ พอไปอยู่เกาหลี นิชคุณทำงานในเกาหลีได้เท่าไรแบ่งครึ่งกับเพื่อนร่วมวงหมด(น้องเค้ามีงานเดี่ยว และงานโฆษณาเยอะเลย) แต่ทำแล้วก็แบ่งกับเพื่อนเท่ากัน….ยกเว้นทำงานเดี่ยวที่ไทยที่ไม่ต้องหารสมาชิกในวง
      ตัวนิชคุณเองทำแบบนี้มาตลอด จนกระทั่งเขาเกิดอุบัติเหตุปีที่แล้ว …เลยมีการเปลี่ยนสัญญาคือ ใครทำได้เท่าไหร่ ก็แบ่งแต่ต้นสังกัด ไม่ต้องแบ่งเพื่อนร่วมวง(ตอนนั้นนิชคุณพักงานไปเดือนกว่า ก็ขาดรายได้ไป แต่ดีว่าน้องเค้ารับงานโฆษณาเดี่ยวทั้งไทย และเกาหลีเยอะเลยไม่มีปัญหาเรื่องเงิน)…..ส่วนตัวนิชคุณก็โดนเอาเปรียบจากต้นสังกัดเหมือนกัน(อันนี้ไม่ได้จะดราม่า พูดตามจริง) แต่แค่อาจจะโดนเอาเปรียบจากต้นสังกัดน้อยกว่าฮันเกิงเยอะเลย….ส่วนวิคไม่ทราบว่าเค้าแบ่งกันยังงัย เพราะฉะนั้นอย่าว่าฮันเกิงเค้าไม่อดทนเลยค่ะ เราว่าเค้าน่าสงสารมาก ตัวนิชคุณ วิคตอเรีย หรือแม้แต่ศิลปินต่างชาติอื่น ๆ ก็เหมือนกัน ถึงอย่างไรเค้าก็ให้ความสำคัญไม่เท่าศิลปินในชาติตัวเองหรอก

    • เขียนยาว says:

      เข้าใจที่ในความผิดหวัง แต่ก่อนจะเป็นอย่างนั้นอยากให้คุณมองเค้าให้ลึกลงไปกว่านั้นก่อนที่คุณ แฟนคลัยหรือใคร(แม่แต่เพื่อนร่วมวง)รู้สึกเหมือนโดนหักหลัง

      ค่ายปั้นเค้าให้ดังเพราะเห็นบางสิ่งบางอย่างที่จะทำให้ค่ายได้ประโยชน์ เค้าหล่อ เค้ามีสเน่ห์ ค่ายรู้ต่อให้ร้องเพลงหรือพูดภาษาไม่เก่งแต่แฟนคลับก็ยังชอบเค้า เราเชื่อว่าเค้าติดอันดับสมาชิกที่มีคนชอบมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆมาโดยตลอด

      เราไม่มองว่าค่ายผิดหรือถูกนะ ค่ายเพลงก็คือธุรกิจ ธุรกิจคือการมองหากำไรให้มากที่สุด ค่ายให้โอกาสเป็นสะพานสำหรับคนที่อยากไปตามฝัน นั่นคือสิ่งที่แลกกัน เพราะงั้นเราถึงเห็นว่าคนที่มีโอกาสได้เป็นนักร้องในค่ายถึงรักและเคารพบ้านหลังนั้นเพราะค่ายนั่นส่งเค้าไปถึงฝันไง

      แต่สำหรับกรณีของป๋าฮัน ภาพที่พวกเรามองเห็น ณ ตอนนั้นก็ดูเหมือนเค้ามาถูกทางแล้ว เค้าดูดี เค้าดัง ค่ายทำให้เค้าดังแต่ดังในแบบที่เค้าไม่อยากเป็น จุดมุ่งหมายของเค้าคืออะไร เค้าอยากดูแลพ่อแม่ เค้าอยากเป็นนักแสดง ต้องทำงานเป็นนักร้องที่โดนแบนหนักทั้งปีเพราะตอนนั้นประเทศนี้ไม่เปิดกว้าง แค่นี้ก็เหนื่อยแล้วแถมเป็นงานที่ตัวเองไม่ได้ชอบหรือหวังเอาไว้ยิ่งผลที่เป็นตัวเงิน เงินที่เค้าอยากใช้ดูแลพ่อแม่ที่เค้าได้ต่อปีได้น้อยกว่าเราทำงานหนึ่งเดือนด้วยซ้ำ

      เราเชื่อว่าเค้าแคร์แฟนคลับนะ ไม่งั้นทั้งๆที่โดนแบนตั้งแต่แรกๆ ทำไม่เค้าไม่ถือโอกาสตรงนั้นไปซะตั้งแต่ตอนนั้นล่ะตั้งแต่ตอนที่แฟนคลับยังไม่เยอะแต่เค้ากลับทนมาตั้งหลายปี ไม่ใช่เพราะเค้าอดทนเพื่อครอบครัว เพื่อนร่วมวงและแฟนคลับหรอกหรอ? (แต่ก็ไม่แน่ เค้าอาจจะรอให้สัญญาหมดก่อนก็ได้ อันนี้ไม่รู้)

      และดูจากนิสัยเค้าผ่านรายการที่เคยดูมา ก็พอจะเห็นว่าเค้าคงเก็บเรื่องทุกข์ใจไว้กับตัวเองโดยไม่ค่อยหรือไม่กล้าปรึกษาอะไรกับเพื่อนสมาชิกมาก เพราะแต่ละคนดูเฮฮา แต่บางครั้งเฮฮาจนเหมือนละเลย เวลาทำงานก็ทำงานด้วยกัน แต่พอวันว่าบ้างก็ต่างคนต่างอยู่บ้างก็ไปไหนด้วยกัน และเพราะพวกเขาไม่ใช่คนที่จะต้องมาอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ซึ่งอาจจะไม่ได้เข้าใจความละเอียดอ่อนตรงนี้ของป๋าฮันมากนัก ไหนจะ cross culture อีก

      เราไม่ใช่แฟนคลับป๋าฮัน แต่ชอบดูรายการเกาหลีฮาๆซึ่งวงนี้ฮาดี ส่วนเรื่องเค้าแยกตัวเราก็แค่พอจะรู้ข่าวคราวบ้าง แต่พอมาได้อ่านบทความนี้ ลองนึกภาพตัวเองอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเค้า หรือแค่คิดว่าคุณต้องทนนั่งเรียนในสิ่งที่คุณไม่ชอบ หรือทำงานในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวคุณ คุณอาจจะพอนึกออกบ้างว่าเค้ารู้สึกยังไง

    • ก็ไม่รู้สินะ says:

      เอสเจเดบิวต์ก่อนคนที่คุณยกตัวอย่างมานะค่ะ -_- แล้วช่วงที่เกิงอยู่มันเป็นอะไรที่ยากมากนะที่คนต่างชาติจะทำงานในเกาหลีน่ะ

  2. สู้ๆ says:

    เราเข้าในเค้านะ เมื่อก่อนอะไรๆก้ลำบากกว่าตอนนี้เยอะคุณ
    ความคิดเห็นข้างบน อย่าเอาความรู้สึกตัวเองมากเป็นใหญ่สิ
    ทุกคนทำงานก้เพื่อเงินจิงมั้ย ฮันเกิงคงอดทนมามาก
    เพราะทุกอย่างเค้าขอไม่เคยได้แต่สมาชิกกลับได้แทน
    ทุกคนก้ย่อมรู้สึกเป็นธรรมดา สมาชิกทั้งหมดไม่มีใครผิด
    ผิดที่บริษัทมากกว่า
    ปล.เป็นกำลังใจให้พี่คุณ

  3. TTOTT says:

    เฮียเกิงสู้ๆนะ ฟังที่เฮียให้สัมภาษณ์ในคลิปแล้วน้ำตาไหลอ่ะจิงๆ เฮียเหมือนจะร้องไห้ด้วยแหละ ฮือออออออออออ TTTTTOTTTTTT

  4. ลี่ๆๆๆ says:

    สงสารและเห็นใจทั้ง2ฝ่ายเพราะรักเอสเจอยากให้เอาใจเขามาใส่ใจเรากันนะค่ะ

  5. GET OUT says:

    ที่นี่ไม่มีที่ว่างเหลือให้นายแล้ว จบสิ้นกันทีการรอคอย!!!!!

  6. QK. says:

    ในตอนนั้นอะไรๆมันอาจจะไม่ได้ง่ายเหมือนตอนนี้
    มีอะไรบ้างที่เขาทนเก็บเอาไว้
    ที่เขาไม่ได้พูดออกมา เราไม่รู้เลย

    จะมาตัดสินอะไรเพียงไม่กี่นาที
    กับเวลาที่ผ่านมามันเทียบกันไม่ได้หรอก

    ความรู้สึกที่พูดออกมาไม่ได้
    ไม่มีวันที่ใครจะมาเข้าใจได้หรอก.

    ทึกเองก็ทำหน้าที่มาได้ดีมากเลย♥

  7. ... says:

    เอาจริงๆเลยนะ เราเข้าใจเกิงนะ เราจำได้เลยว่าเกิงเป็นชาวต่างชาติคนแรกๆเลยก็ว่าได้
    อย่าว่าอย่างโน่นอย่างนี้เลยนะ จะโทษเรื่องเป็นชาวต่างชาติก็ไม่ถูก
    มันอยู่ที่บริษัทมากกว่า…. ที่เห็นว่าใครทำเงินได้ดีกว่าก็ให้แต่งานคนนั้น เพื่อทำเงิน
    ที่แย่คือ เกิงไม่ได้รับโอกาสได้ๆจากทางบริษัทเลย
    เงินปีแรกที่เกิงได้ มันไม่เหมาะสมจริงๆนั้นล่ะ
    ((เรื่องเงินๆทองๆ SM เขาขึ้นชื่อจริงๆ))
    Opsss!!!……..

  8. ออมม่าวิค says:

    เราถึงชมเชยคนต่างชาติที่เดบิ๊วแล้วประสบความสำเร็จไง
    อะไรๆมันไม่ง่ายเลย แล้วเกาหลีก็เป็นชาตินิยม เค้าก็ต้องเอาคนประเทศเค้าก่อนอยู่แล้ว
    คนต่างชาติที่ประสบความสำเร็จในเกาหลีจึงต้องเจ๋งจริงๆ

    ขอบคุณฮันเกิงนะ ที่ปูทางให้น้องๆรุ่นถัดไปได้มีโอกาสต่างๆมากขึ้น
    เราเป็นแฟนคลับวิค เรารู้ดีว่า มันยากมากๆ ต้องอดทนต่างๆนานา มากขึ้นหลายเท่าถ้าเทียบกับคนเกาหลีแท้ๆ ยิ่งเป็นสมัยก่อนนี่นะ เกิงคงต้องเจ็บปวดมาก เราเข้าใจ 🙂

  9. UoU" says:

    เราจะมาพูดหรือตัดสินอะไรไม่ได้หรอก
    เพราะก็ไม่มีใครที่รู้ความจริงทุกอย่างทั้ง SM และเกิง
    แต่ก็ขอให้พี่โชคดีกับสิ่งที่พี่เลือกล่ะกัน
    ไม่ว่ี่าพี่หรือใครจะตัดสินใจกันยังไงเราก็ยังรัก SJ และสนับสนุนพวกเขา
    ต่อให้ SJ จะเหลือกี่คนก็ตาม SJ ทั้ง 13 คน ก็จะอยู่ในความทรงจำของฉันอยู่ดี

  10. I'am says:

    เราจะมาพูดหรือตัดสินอะไรไม่ได้หรอก
    เพราะก็ไม่มีใครที่รู้ความจริงทุกอย่างทั้ง SM และเกิง
    แต่ก็ขอให้พี่โชคดีกับสิ่งที่พี่เลือกล่ะกัน
    ไม่ว่ี่าพี่หรือใครจะตัดสินใจกันยังไงเราก็ยังรัก SJ และสนับสนุนพวกเขา
    ต่อให้ SJ จะเหลือกี่คนก็ตาม SJ ทั้ง 13 คน ก็จะอยู่ในความทรงจำของฉันอยู่ดี

  11. yu says:

    คนที่ด่าๆฮันเกิงนะอยากให้เข้าใจความรู้สึกเขาหน่อย เพราะสมัยก่อนเกาหลีแอนตี้คนต่างชาติมากถึงขนาดมีกฎห้ามไม่ให้คนต่างชาติออกทีวีเกาหลีเลยด้วยซ้ำ ตัวฮันเกิงยังเคยต้องใส่หน้ากากตอนแสดงเลยถ้าจำไม่ผิด ที่นั่นเขาเพิ่งจะมาแก้กฎหมายช่วงปี2007-2008มั้งไม่ค่อยแน่ใจ เพราะเท่าที่จำได้นิขคุณที่เดบิวต์ตอนแรกยังมีข่าวเลยว่าจะได้ออกรายการทีวีไหม (อันนี้ข่าวเก่ามาก) อีกอย่างเราว่าฮันเกิงก็รู้สึกเหมือนหลอกใช้เพื่อเอาไว้แค่เปิดตลาดเมืองจีนแต่พอกลับมาเกาหลีก็ไม่ให้งานทำ เป็นใครๆก็น้อยใจ

  12. Mini says:

    เราว่า SM เอาเปรียบศิลปินเกินไปนะ ฮันเกิง อ่ะเราคิดว่าถ้าเค้าไม่มีความอดทนคงเข้ามาเป็นเด็กฝึกนานขนาดนั้นไม่ได้หรอก อีกอย่าง SM เอา ฮันเกิง มาฝึกเค้าก็คิดถึงเรื่องผลกำไรในประเทศจีน อย่างเดียว ที่ผ่านมาก็เห็นแต่ SM มีปัญหากะศิลปิน บริษัทอื่นเค้าไม่เห็นเป็นไร เราดีใจนะที่ นิชคุณ อยู่ JYP เราว่าการดูแลศิลปินมันค่างกันอ่ะ อีกอย่างตอนนี้ ฮันเกิง ก็ได้ตามฝันของเค้าแล้ว สู้ สู้ นะ ฮันเกิง เราชอบดูนายแสดงภาพยนต์ บอกเลยเราดูทุกเรื่องที่นายแสดง

  13. erre says:

    ก็เข้าในระดับนึง แต่อีกความรู้สึกนึงมันก็เสียใจอะ
    อ่านเสร็จแล้วจุกยังไงก็ไม่รู้
    คือตอนนี้ก็โอเคนะ แต่มองย้อนกลับไปตอนมีข่าวตอนแรกเลย คือเสียใจมากๆๆ
    ร้องไห้และไม่เคยคิดว่าเหตุผลเป็นแบบในสัมภาษนี้

  14. ก็ไม่รู้ซินะ says:

    ความคิดเห็นเราว่า ใช่ตอนทึ่เกิงเดบิวต์ กฏหมายสำหรับนักร้องต่างชาติทึ่เกาหลียังห้ามคนต่างชาติอยู่ แต่เราก็เข้าใจsmนะ ที่ไม่ให้งานเกิงพวกงานแสดง งานพรีเซ็นเตอร์ มันก็ขึ้นอยู่กับคนว่าจ้างด้วยนะ แต่smก็ยังให้เกิงเล่น mv นะ และเงินตอนที่เดบิวต์ ที่ได้แค่นั้น อย่าลืมว่าสมาชิกในวงเยอะ และเป็นหน้่าใหม่ก็ต้องได้น้อยเป็นธรรมดา สำหรับเราเราเฟลกับเกิงนะ แต่เราไม่ได้เกลียดเกิง ยังดูผลงานอยู่เป็นบางครั้ง ใครจะว่ายังไงก็ช่างแต่เราว่าเกิงออกเพราะเงินเป็นปัจจัยหลักและเราคิดว่าเกิงอยากกลับจีนด้วยคงเป็นห่วงพ่อกับแม่ด้วย จิงๆตอนเป็น super junior เกิงก็มีงานเดี่ยวที่จีนบ่อยอยู่นะ อดีตมันผ่านไปแล้ว อย่าตีกันเลย

  15. ELF says:

    สู้ๆเกิง อย่างน้อยเขาก็เป็นคนปูทางให้น้องรุ่นหลังที่เดบิวต์ออกมาถัดๆไปละกัน สู้ๆ

  16. Tim says:

    ที่เกิงคิดมันก็ถูก SM (เมื่อก่อน) ก็เป็นอย่างว่า
    แต่ถ้าอดทนอีกนิด เกิงก็สบายแล้ว เสียดายแทน…..

  17. SH says:

    ปีแรกให้เงิน 4,000 หยวนเอง น้อยไปเปล่า อีกอย่างเค้าไม่ได้ต้องการแค่เงิน โอกาสในฐานะนักแสดง พรีเซนเตอร์ อะไรต่างๆ ก็ไม่ได้ ไม่เห็นใจเค้าบ้างหรอ แล้วคุณรู้ได้ไงว่าถ้าเค้าอดทนต่อไปแล้วจะสบาย เราว่าเค้าทำถูกแล้วละที่ออกจากวงแล้วไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เพราะเค้าก็สบายกว่าเดิมมาก ทั้งเงินเรื่องเงินและเรื่องใจ

  18. Pandara says:

    เคารพการตัดสินใจของเกิง

  19. รักเกิง says:

    ไม่มีมนุษย์คนไหนทำงานแล้วไม่เห็นแก่เงินหรอก ~
    เหนื่อยแต่ค่าตอบแทนไม่คุ้ม ใครจะทน
    บางคนบอกให้เกิงอดทน พูดได้สิ เพราะไม่ได้อยู่ในสถานการณ์นั้น
    เรารักเกิง เพราะเค้า คือ เค้า ต่อให้ไม่มี คำว่า ซุปเปอร์ จูเนียร์ นำหน้า
    เราก็รัก และ ชื่นชมในความกล้าหาญของเค้า

  20. J says:

    คนเราก็มีสิทธิ์เรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเองไม่ใช่เหรอ? แล้วถามหน่อย เราจะมีความสุขเหรอ ถ้าต้องเห็นคนที่เรารักเจ็บปวด เราจะมีความสุขอยู่บนความทุกข์ของเค้างั้นเหรอ ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วเค้ามีความสุขมันก็ดีกว่าอ่ะ ในขณะที่เรายิ้ม มีความสุขกับสิ่งที่เค้าทำให้ เค้าอาจจะกำลังร้องไห้อยู่ก็ได้ เคารพการตัดสินใจของป๋านะ เราเข้าใจป๋านะ เราเป็นแคส เราเข้าใจดี TT

  21. 1994 says:

    มองเป็นประเด็นไปนะ

    – เรื่องกฎหมายของเกาหลีนี่ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้จริงๆ ถึง sm จะยิ่งใหญ่ในวงการเพลง แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะแก้กฎหมายอะไรๆเองได้ เราเห็นใจเกิงนะแต่ก็เข้าใจ sm เหมือนกัน

    – เรื่องค่าตอบแทนเนี่ยจากใจเลยเราว่ามันน้อยเว่อร์อ่ะ ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อเกิงนะ พยายามจะเข้าใจว่า sj มีสมาชิกเยอะมาก ไหนจะหักค่าโน่นนี่ แล้วก็ยังต้องมาหารกันอีก แต่มันน่าตกใจตรงที่มันเป็นเงินของทั้งปีไง งานทั้งปีเหลือเงินแค่นี้เราอยากจะกร๊ดแทน…

    – เรื่อง sj – m เรากลับเห็นต่างมุมมองนะ เกิงอาจจะเหนื่อยเพราะต้องเริ่มต้นใหม่ ต้องแบกรับในการเป็นหัวหน้าวงและเรื่องภาษาจีนอีก แต่เราว่ามันเป็นการเริ่มต้นที่ดีนะ แถมมีโอกาสได้โปรโมตที่บ้านเกิดด้วย คืออย่างใน sj ก็ต้องบอกว่าสมาชิกเยอะ ไม่ได้โด่งดังทุกคนและ sm ก็ไม่ได้ดันทุกคน แต่การได้โปรโมต sj-m เกิงได้เปรียบคนอื่นๆเพราะเป็นเจ้าบ้านพูดฟังก็รู้เรื่องเพียงแต่อาจจะเหนื่อยกว่าเดิมเพราะต้องดูแลสมาชิกอื่นๆมากขึ้น ก็คงเป็นคนละมุมมองจากคนนอกอย่างเราหล่ะมั้ง

    – เรื่องการแสดงอ่ะมันคิดได้ 2 แง่ คือสปอนเซอร์ไม่เลือก กับบริษัทไม่ดัน
    ต้องยอมรับนะว่าเกิงก็ดังในเกาหลีแต่ก็ไม่ได้เป็นที่นิยมขนาดซีวอน ถ้าเป็นโฆษณามันก็แล้วแต่เค้าจะเลือกใครเป็นพีเซ็นเตอร์ยิ่งเป็นบอยแบนด์ เกิร์ลกรุ๊ปส่วนมากถ้าโฆษณากลุ่มก็คงจะเฉลี่ยๆกันไป แต่ถ้าเป็นแบบเดี่ยวมันต้องแล้วสปอนเซอร์จริงๆนะว่าจะเลือกใคร …ส่วนงานแสดงนี่เท่าที่เราเข้าใจ sm ดันทีละคนตามมุมมองของเขา ใครที่จะเหมาะและน่าจะขายได้เขาจะเลือกดันคนนั้นก่อนจริงๆ เกิงเองภาษาเกาหลีถึงพูดได้แต่ก็ไม่ได้ชัดเป๊ะ หน้าตาเกิงดีแต่ก็ไม่ได้โดดเด่นเกินเพื่อนในวง เราว่าเหตุผลรวมๆพวกนี้ทำให้ sm ยังไม่ดันเกิงมากกว่า แต่ถ้ายังอดทนคงอยู่ ณ ตอนนี้เราว่า sm ก็ไม่ปล่อยทิ้งเกิงหรอก

    คนเรามีสิทธิเลือกทางในการดำเนินชีวิตไม่เหมือนกัน เราเชื่อว่าเกิงเองก็เลือกทางที่เขาอยู่แล้วสบายใจ ขอให้ประสบความสำเร็จ ยังไงพวกเราก็คอยซับพอร์ตอยู่ ^^

  22. นานแล้วแต่อยากตอบ says:

    เค้าทำถูกแล้วล่ะ ถึงกฎหมาย ชาวต่างชาติ จะแก้ไขในปี 2008-2009 แล้วปัจจุบัน คนต่างชาติก็เดบิวต์ มีผลงานในเกาหลีเยอะ
    แต่อย่าลืมว่า SJ เดบิวต์มาตั้งแต่ ปี 2005 ซึ่งปัจจุบัน ก็ 7-8 ปี แล้ว ด้วยอายุขัยของวงแล้ว สมาชิกแต่ละคนควรมีงานเดี่ยว ที่สร้างรายได้ให้ตัวเองได้แล้ว
    ถ้า เค้ายังคงอยู่กับ SM งานและรายได้ ของเค้าก็คงได้ไม่เยอะ สมกับที่เดบิวต์มานานแล้วหรอก

  23. Ever Lasting Friends says:

    ไม่ว่าใครจะว่ายังไงคิดยังไงแต่ Super junior ก็ยังมีสมาชิก 13 คนเพราะ super juniorมีแค่13คนและจะมี13คนตลอดไป และเราก็เชื่อมั่นและเคารพในการตัดสินใจของ Super junior ทุกคน จะเป็นกำลังใจให้โอปป้าและจะอยู่ข้างๆโอปป้าต่อไป จีคยอชุลเค ยอลเซมยอง เริ่มที่ทึกจบที่เอล์ฟ

  24. Yingiiz says:

    เราไม่โทษเกิงนะ จริงอยู่ว่าตอนที่เกิดเรื่องยอมรับเลยว่าเราโกรธเกิงมาก เกลียดเลยล่ะ สำหรับเราเอสเจมีสิบสามคนตลอดนะ

    พอเวลาผ่านไปเราก็เริ่มะมาคิดได้ ว่าเกิงไม่ผิด เอสเอ็มไม่ผิด แฟนคลับไม่ผิดที่โกรธเกิง ถ้าเราไม่เจอแบบเกิงเราจะไม่มีทางเข้าใจเกิงเด็ดขาด เรื่องเงินสำหรับบางคนอาจจะเห็นว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา เรื่องเล็กน้อย แต่ถ้ามองในมุมมองของเกิงแล้วคงต้องบอกว่าเกิงเก่งจริงๆที่อดทนมาถึงตอนนั้นได้นะ

    ไม่ว่ายังไงก็ยังรักเกิงอยู่เหมือนเดิม

  25. YGBABY says:

    มาอยู่ YG นี่มา จบๆๆ 555

    • d.o. y.o.u. l.o.v.e. m.e says:

      จริงโคตรแฟร์อยากทำไรป๋าปล่อยทำไปผิดค่อยโดนด่าเอา55555

  26. 000 says:

    พอพูดความจริงก็โดนว่า สังคมต้องการอัลไลค่ะ

  27. noty says:

    ตอนนี้ต่างคนต่างเดินแล้ว ตามฝันเหมือนเดิม แค่แยกทางกันเดินจองใครของมัน

  28. HE IS MY BOY says:

    อย่ามาว่าเกิงของฉันน่ะ คุณว่าเกิงอ่ะคุณเคยตามเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ฮ่ะ ฉันตามตั้งแต่ ป.6 จนตอนนี้ปี4 แล้ว

    ถ้าคุณตามคุณจะรู้เลยว่าเกิงเป็นคนต่างชาติคนแรกที่ทำให้วงการเพลงเกาหลีมันดังระเบิดเถิดเทิง ฉันจะบอกว่า ฮันเกิงคนนี้แล่ะ ที่ทำให้ฉัน ชอบเพลงเกาหลี ฟังเพลงเกาหลี เต้นเกาหลี แล้วก็รักประเทศนี้ จริงๆๆต้องขอบคุณเกิงด้วยซ้ำที่ทำให้ประเทศนี้มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมา

    เหตุผลที่เกิงออกมาพูด มันก็เป็นอะไรที่รู้ๆๆกันอยู่ อย่ามาทำเป็นโลกสวย ตอนนี้ต่างคนก็มีทางของตัวเอง แค่เขาออกมาพูดเรื่องอดีตบ้างคุณก็ทำเป็นรับไม่ได้ ตัวอย่างที่คุณยกมาฉันก็ชืนชอบไอดอลเหล่านั้นเหมือนกัน แต่บ่องตงเขาเหล่านั้นไม่ได้โด่งดังในรุ่นแรกเหมือนอย่างฮันเกิง

    ถ้าคุณไม่พอใจก็เก็บไว้อย่ามาตั้งcomment ล่อเป้าเห็นแล้วมันอารมณ์ไม่ดี

    • นี่คุณ says:

      นี่คุณ สร้างกระแสรึไง
      เอสเจเดบิวท์ 7 กำลังจะ 8 ปี
      คุณบอกว่าตามตั้งแต่ป.6จนปี4 ระยะเวลานี่สิบปีเลยนะคุณ
      เก่งนะ ตามตั้งแต่เป็นเด็กเทรนเลยหรอไง

    • To says:

      ป.6 ชั้นจำได้ว่ายุคดีทูบีนี่เธอออออออออออออออออ ชั้นก็จะปี 4 แล้วเหมือนกัน ตอนนั้น SJ ยังไม่ตั้งวงเลย -_- รู้จักแต่เฉินป๋อหลิน

  29. นี่คุณ says:

    ปล. หมายถึงคุณ HE IS MY BOY นะคะ
    ลืมกด reply

  30. -*- says:

    ถ้าครอบครัวของคุณ หรือแม่ของคุณกำลังเจ็บปวดคนเป็นลูกก็ไม่ผิดนี่ค่ะ ที่จะทำเพื่อแม่ อยากน้อยเขาก็พยายามสุดความสามารถที่คนคนหนึ่งจะทำได้แล้วนะค่ะ และคุณก็ไม่ควรที่จะเอาไปเปรียบเทียบกับพี่คุณนะค่ะ พี่คุณยังได้รับโอกาสในงานเดี่ยว แต่ป๋าฮันกลับไม่ได้รับโอกาสนั้น และตอนนี้ป๋าฮันก็ประสบความสำเร็จด้านการงานอย่างมาก ยังไงก็ยินดีด้วยนะค่ะ สำหรับเรายังไง SJ ก็ยังมี13คนเสมอ ^.^
    **แต่พี่คุณก็เก่งมากนะค่ะ ยินดีกับทั้งสองคนที่ประสบความสำเร็จ

  31. ชางโจ says:

    ตอนนั้นเรายังเด็กก็เคยเสียใจและก็ไม่เข้าใจนะเรื่องเอสเจกับดงบัง
    เหมือนกับมิตรภาพของพวกเค้าได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ แฟนคลับอย่างเราแทบใจสลาย
    แต่เพราะฮีนิมยังดูรักป๋ามาก เราก็เลยยังคงรักป๋าเหมือนเดิม อิอิ
    แต่นับจากนั้นไม่ดูผู้ชายอีกเลยหันไปส่องแต่เกิร์ลกรุ๊ปแทน T^T

    แต่เมื่อเราโตขึ้น…เหมือนเรื่องทุกเรื่องมันเป็นไปพื้นฐานของความเป็นจริงค่ะ
    เราเข้าใจค่ายและเข้าใจศิลปินนะ ทุกคนมีสิทธิเลือกค่ะ ^^

    ถึงค่ายจะให้ป๋าทำงานหนัก แต่ที่คนรู้จักป๋าก็เป็นเพราะค่ายนะคะ ^^
    ถึงใครจะว่าป๋าหรือ jyj ทรยศแต่เราคิดว่าทุกอย่างมันก็มีจุดอิ่มตัวทั้งนั้น

    ถนนไม่ได้มีเส้นเดียว ดังนั้นพวกเค้ามีสิทธิเลือกทางเดินใหม่ที่ทำให้พวกเค้าสบายใจมากกว่าค่ะ แต่หวังว่าซักวันพวกเค้าจะมาเดินทางมาที่เส้นทางเดียวกันสักครั้ง
    แฟนคลับอย่างเราคงจะดีใจมาก ^^

    ปล.ข่าวนี้เรารู้สึกถึงความจริงใจของป๋านะ

  32. วาย says:

    พี่หานเกิงคะพี่เก่งมาก ^_^
    ที่สามารถทนมาได้ขนาดนี้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Like แฟนเพจของเราเพื่อติดตามข่าวสารอัพเดทก่อนใครได้ที่นี่เลยจ้า