ชาวเน็ตชี้ข้อแก้ต่างที่แฟนๆไปสัมภาษณ์อาจารย์เพื่อยืนยันว่ายุนซอบินไม่ได้รังแกเพื่อนนั้นไม่สามารถนำมายืนยันได้ว่าเขาไม่ได้รังแกเพื่อนจริงๆ

หลังเด็กฝึกหนุ่มยุนซอบินได้ถูกขุดประวัติอดีตของเขาว่าเคยรังแกเพื่อนมาก่อน ทำให้เขาต้องออกจากรายการ Produce X 101 กลางคันรวมทั้งจบสัญญากับ JYP Entertainment แน่นอนว่าอนาคตในวงการบันเทิงของเขาแทบดับวูบลง อย่างไรก็ตามแฟนๆของยุนซอบินไม่ยอมแพ้และเขียนข้อแก้ต่างชี้แจงว่ายุนซอบินไม่ได้เป็นคนที่รังแกคนอื่น โดยไปสัมภาษณ์อดีตอาจารย์ในโรงเรียนของเขาและแยกอธิบายเป็นข้อๆ

แฟนๆโพสต์หัวข้อเพื่อแก้ต่างให้ยุนซอบินว่า “นี่คือความจริงเกี่ยวกับเรื่องการใช้ความรุนแรงในโรงเรียนของยุนซอบิน” โดยผู้เขียนเป็นแฟนคลับของเด็กฝึกหนุ่มซึ่งยอมรับแต่โดยดีว่าเขาสูบบุหรี่และดื่มเหล้าทั้งที่ยังเป็นผู้เยาว์ แต่ในเรื่องการใช้ความรุนแรงในโรงเรียนและรังแกเพื่อนนั้นเด็กฝึกหนุ่มถูกเข้าใจบิดเบือนไปมาก และเขียนหัวข้อแจกแจงถึงความจริงเรื่องนี้ดังนี้

1. บทความที่เปิดโปงเขานั้นมีสองบทความที่ทำให้เกิดเรื่องอื้อฉาวลุกลามขึ้นมา โพสต์แรกมาจาก Naver Cafe ที่ถูกลบโพสต์ออกไปภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งไม่ได้อธิบายการใช้ความรุนแรงในโรงเรียนอย่างชัดเจนและเป็นการอ้างจากฝั่งเดียว และมีคำที่รุนแรงมากมายเช่น “เขาเป็นอิลจิน (อันธพาลที่คอยรังแกเพื่อน) ตั้งแต่ตอนมัธยมต้น” เป็นต้น ส่วนโพสต์ที่สองนั้นอยู่ที่ DC Inside ซึ่งใช้ไอพีแอดเดรสเดียวกันกับโพสต์แรก และยังเขียนโพสต์เป็นจำนวนมากใน DC ในส่วนกีฬาเบสบอลและ Produce X 101 โพสต์นี้พูดว่ายุนซอบินใช้ความรุนแรงในโรงเรียนตั้งแต่ตอนอยู่ม.ต้น และเผยว่าพ่อแม่ยุนซอบินต้องมาขอโทษพวกเขา

สองโพสต์นี้ทำให้คนทั่วไปมองยุนซอบินเป็นเด็กไม่ดีที่ชอบรังแกเพื่อน อย่างไรก็ตามภาษาในโพสต์ใช้คำที่แสดงให้เห็นถึงเหตุการณ์ที่ไม่แน่นอน

2. อาจารย์ที่เป็นโค้ชของเขาเป็นพยานว่าเด็กฝึกหนุ่มไม่ได้รังแกเพื่อน โดยยุนซอบินอยู่ในทีมรักบี้ของโรงเรียนตอนที่เขาอยู่ชั้นมัธยมปีที่ 2 และ 3 โค้ชกล่าวว่า “ผมไม่สนิทกับบยองวี (ชื่อเดิมของซอบิน) เขาไม่ใช่เด็กประเภทที่จะทำร้ายหรือเป็นอันตรายต่อคนอื่น ตอนเห็นโพสต์ที่ถูกอัปโหลด พวกมันไม่เป็นความจริงดังนั้นผมจึงผิดหวังที่พวกเขาเขียนมันราวกับเป็นเรื่องจริง”

นอกจากนี้แฟนๆยังติดต่อกับคนรู้จักของยุนซอบินในช่วงที่เขาเป็นนักเรียนซึ่งแต่ละคนต่างพูดว่าบยองวีไม่ใช่คนประเภทที่รังแกเพื่อนแต่อย่างใด

3. พยานจากศิษย์เก่าที่ต่างเผยว่ายุนซอบินไม่ใช่คนที่ใช้ความรุนแรงในโรงเรียน และเผยว่าความจริงไม่มีใครเป็นเหยื่อถูกเขารังแกแต่อย่างใด แฟนๆเผยว่าได้โทรหาคนในโรงเรียนเพื่อถามถึงบรรยากาศในห้องเรียน ซึ่งคำตอบที่ได้คือเรื่องรังแกนั้นเป็นเรื่องไร้สาระ สิ่งที่เป็นเรื่องจริงคือเขาโด่งดังในหมู่นักเรียนหญิงของโรงเรียนอื่นในเรื่องความหน้าตาดี ซึ่งศิษย์เก่าที่มาเป็นพยานนั้นต่างยืนยันว่าเขาไม่ได้ใช้ความรุนแรงในโรงเรียน

4. ชี้แจงเรื่องการลาออกจากโรงเรียนเพื่อเปลี่ยนชื่อนั้นไม่เป็นความจริง โดยอธิบายว่าเขาออกจากโรงเรียนเพราะได้รับเลือกจากค่าย SM ตอนเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งเขาถูกพบใส่หน้ากากไปชมคอนเสิร์ต EXO ในปี 2017

ชี้แจงเรื่องประเด็นความขัดแย้งจากหนังสือรุ่น ที่เขียนว่า “โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความรุนแรง บยองวีอ่า…หยุดทำร้ายจองมินสักที เขาบอกว่าเขาไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว” ความจริงแล้วชินจองมินเป็นหัวหน้าห้องและเป็นคนที่เขียนข้อความนี้ และเผยว่าเขากับยุนซอบินนั้นสนิทกัน “ผมเขียนแบบนั้นเพราะผมสนิทกับบยองวีและผมเขียนมันขำๆ”

จองมินตอบ Katalk chat ของเพื่อนๆว่าเขาเป็นคนเขียนบรรทัดนี้เอง “บยองวีมักจะยิ้มและทำงานหนักเสมอ ผมและเพื่อนๆต่างเชียร์บยองวีดังนั้นเหตุการณ์นี้มันเป็นเรื่องโชคร้าย”

มีบทสัมภาษณ์ยุนซอบินหลังเขาออกจากรายการ Produce X 101 ซึ่งเด็กฝึกหนุ่มกล่าวว่าเขาออกจากโรงเรียนหลังถูก SM คัดตัวให้เป็นเด็กฝึกในสังกัด และเขาไม่เคยมีประวัติถูกบันทึกเรื่องการใช้ความรุนแรงในโรงเรียน และที่เปลี่ยนชื่อเพราะเตรียมตัวเข้าวงการเท่านั้น

นับเป็นเรื่องน่าเห็นใจหากยุนซอบินไม่เคยรังแกเพื่อนจริงๆแต่กลับถูกชาวเน็ตตัดสินจนหมดอนาคตในวงการบันเทิง ซึ่งหากเขาไม่ทำนั้นสังคมควรให้โอกาสเขาต่อไป อย่างไรก็ตามเหล่าชาวเน็ตที่อ่านบทความนี้ได้ออกมาแย้งว่าแม้จะสัมภาษณ์อาจารย์ของเขาเพื่อทำการยืนยันว่าเด็กฝึกหนุ่มไม่ได้รังแกเพื่อนก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถเชื่อถือได้อยู่ดี เพราะส่วนใหญ่แล้วอาจารย์มักจะไม่รู้เรื่องว่าเด็กคนไหนเคยถูกใครรังแกมาบ้าง อีกทั้งยังเผยว่ามาอธิบายตอนนี้มันก็สายไปแล้ว

ชาวเน็ตแสดงความเห็นว่า “ความจริงที่ว่าเขาดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ตอนเป็นผู้เยาว์ก็ทำให้เขาไม่คู่ควรจะเป็นไอดอลแล้ว” [+2480, -192] กับ “คุณพลาดรถเมล์ไปแล้ว เลิกปกป้องและแก้ตัวเถอะ” [+2217, -122]

บ้างว่า “ฉันไม่คิดว่าอาจารย์คนนั้นจะรู้หมดทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงเรียนหรอก และข้อความแชทจาก Katalk นั้นไม่สามารถนำมาพิสูจน์ว่าเป็นเรื่องจริงได้” [+2075, -88] กับ “แค่เพราะคณะกรรมการโรงเรียนไม่เคยจัดพิจารณาคดี ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่เคยทำร้ายเด็กเหล่านั้น พวกคุณไม่เคยไปโรงเรียนจริงๆกันหรือ?” และ “ครูจะไปรู้เรื่องการรังแกในโรงเรียนได้อย่างไร? เหยื่อก็แค่เก็บเรื่องไว้คนเดียวโดยไม่บอกใคร แล้วครูจะไปรู้เรื่องได้อย่างไร?” และ “ฉันเคยเป็นเหยื่อถูกรังแกมาก่อน และจะบอกอะไรให้ว่าอาจารย์ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย …พวกเขาก็แค่ยุ่งอยู่กับการทำให้แน่ใจว่าภาพลักษณ์ของโรงเรียนจะไม่เสียหาย” เป็นต้น

แปลจาก nate โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

หากไม่ต้องการพลาดข่าวสารอย่างรวดเร็วจากเรา เลือกแถบกำลังติดตาม ->อย่าลืมติ๊ก ✔ เลือกเห็นโพสต์ก่อนของเพจ Facebook ของเรานะคะ

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB