ชาวเน็ตรู้สึกรังเกียจและโกรธเมื่อรายละเอียดคดีจองจุนยองและจงฮุนถูกเปิดเผยในคำพิพากษา

ชาวเน็ตโกรธและรังเกียจหลังจากรู้รายละเอียดเกี่ยวกับคดีของจองจุนยองและจงฮุนซึ่งถูกเปิดเผยในคำพิพากษา

จองจุนยองได้รับโทษทั้งหมดติดคุก 6 ปีและและจงฮุนติดคุก 5 ปีและจะใช้เวลา 80 ชั่วโมงในการศึกษาความรุนแรงทางเพศ มีรายงานว่าทั้งสองน้ำตาไหลในช่วงพิจารณาคดีและนายควอนฮยอกจิน (พี่ชายของยูริ Girls’ Generation) ถูกจำคุก 4 ปี

การไต่สวนคดีจัดขึ้นเป็นการส่วนตัวเพื่อปกป้องเหยื่อแต่ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2019 คำพิพากษาเปิดเผยรายละเอียดของอาชญากรรมของคนเหล่านี้ จองจุนยองและจงฮุนรุมข่มขืนหญิงสาวที่เมาเมื่อเดือนมีนาคมในปี 2016 ในแทกู ขณะที่พวกเขาข่มขืนเหยื่อคนอื่นๆได้ถ่ายคลิปไว้และต่อมาก็ข่มขืนเหยื่ออีกหลังจากนั้น ในเดือนมกราคม 2016 ควอนฮยอกจินข่มขืนหญิงที่เมาผู้ที่ไม่สามารถควบคุมกระเพาะปัสสาวะได้เนื่องจากอยู่ในสภาพมึนอย่างหนัก เขาถูกตัดสินจำคุก 3 ปีเนื่องจากมีประวัติอาชญากรรมทางเพศ

จองจุนยองยังกระทำผิดแชร์คลิปวิดีโอผิดกฎหมายอีก 11 อย่างีวมถึงแชร์คลิปที่ไม่ได้รับอนุญาตจากผู้หญิงที่เขามีเพศสัมพันธ์ในแชทกลุ่ม Kakao Talk

บางข้อความที่คนเหล่านี้คุยกันในภาพประมาณว่า “น่าสงสาร OO (เหยื่อ)” หรือ “OO เกือบจะเหมือนหญิงบำเรอไปละ” หรือ “อย่าให้เรื่องนี้หลุดไม่งั้นฉันจบอาชีพแน่” หรือ “เธอคือตำนาน” และ “ฉันวางยาเธอและวนไปมาจาก a ถึง v จากนั้นก็เสร็จในปากเธอ”

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

หากไม่ต้องการพลาดข่าวสารอย่างรวดเร็วจากเรา เลือกแถบกำลังติดตาม ->อย่าลืมติ๊ก ✔ เลือกเห็นโพสต์ก่อนของเพจ Facebook ของเรานะคะ

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

Happy Unni ร้านค้าแฟชั่น

จริงหรือมั่ว? ความจริงเบื้องหลังของเหล่าทหารเกณฑ์คนดังทำให้ผู้ชมรู้สึกรังเกียจ!!

จริงหรือมั่ว? ความจริงเบื้องหลังของเหล่าทหารเกณฑ์คนดังทำให้ผู้ชมรู้สึกรังเกียจ!!

หลังจากมีการรายงานข่าวเรื่องเซเว่น (Se7en) และซังชูได้แอบเข้าอาบอบนวดในขณะที่ทั้งคู่ยังปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทหารเกณฑ์คนดัง ล่าสุดรายการ On-Site 21 ทางสถานี SBS ได้ทำการค้นหาความจริงเบื้องหลังการใช้ชีวิตของทหารเกณฑ์คนดังเหล่านี้

วันที่ 2 กรกฎาคม 2013 มีการออกอากาศรายการ On-Site 21 ทางสถานี SBS ซึ่งการออกอากาศตอนนี้ได้สร้างความช็อคและความรู้สึกรังเกียจต่อผู้ชมมากมายเกี่ยวกับเบื้องหลังการใช้ชีวิตที่แท้จริงของเหล่าทหารเกณฑ์คนดัง

ในรายการกล่าวว่าเหล่าทหารเกณฑ์คนดังนั้นสามารถใช้โทรศัพท์มือถือได้อย่างอิสระและแต่งตัวเหมือนประชาชนทั่วไปในขณะที่พวกเขาอยู่ในหน้าที่ ไม่เพียงเท่านั้นพวกเขายังออกจากโรงแรมไปดื่มจนกระทั่งถึงตี 2 และจากนั้นจะตรงไปยังร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่ม

เหล่าทหารเกณฑ์คนดังยังไม่ใช้คำทางการของทหาร แต่ชอบที่จะเรียกชื่อจริงของอีกฝ่าย อีกทั้งใช้คำว่าพี่ชายแม้กับคนเด็กกว่าพวกเขาซึ่งมีตำแหน่งสูงกว่า เขาเคยกระทั่งพูดเล่นกันว่า “นายดูเหมือนพลเรือนทั่วไปเลย พวกเขาจะจำนายได้แน่หากออกไปข้างนอก”

บุคคลทางการเผยว่า “พวกเขาใส่เสื้อแขนกุดส่วนตัวและสวมกางเกงทหารเดินไปรอบๆ บางครั้งพวกเขาสวมเสื้อผ้าที่ดูเหมือนชุดทหาร (ไม่ใช่ชุดของทางการ) สะพายกระเป๋าและแม้กระทั่งใส่หมวกสบายๆ”

ไม่หมดเพียงเท่านั้น เมื่ออดีตเจ้าหน้าที่จาก Defense Media Agency (สำนักงานสื่อแห่งกระทรวงกลาโหม) เผยว่า “โรงยิมในสำนักงานสื่อแห่งกระทรวงกลาโหมมีไว้สำหรับเหล่าทหารเกณฑ์คนดังเท่านั้น พวกเขามีทั้งทีวีจอกว้าง เครื่องเล่นเกมเพลย์สเตชัน อาหารว่าง และเสื้อผ้าที่พวกเขาสามารถใส่ไปได้ทุกที่ที่ต้องการ”

จากนั้นกล่าวต่อ “พวกเขาบอกให้เจ้าหน้าที่ซึ่งทำงานในฝ่ายสื่อของกระทรวงกลาโหมซึ่งกำลังทำงานประชาสัมพันธ์ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อที่พวกเขาจะเล่นอินเตอร์เน็ตได้ พวกเขาหยุดไม่ได้จริงๆ”

เขากล่าวต่อ “มีการรายงานว่าพวกเขาใช้กระทั่งบัตรของบริษัท มีบางครั้งที่พวกเขาเรียกแท็กซี่แต่ไม่มีใบเสร็จรับเงิน ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือหากมีใบเสร็จพวกเขาจะถูกสอบสวน พวกเขายังขอออกจากกรมทหารเหมือนกับเป็นเด็กนักเรียนขอออกจากโรงเรียน พวกเขาจะบอกว่า ‘ผมเป็นตากุ้งยิง และจะกลับมาตอน 6 โมงเย็น’ บางทีจะบอกว่า ‘ผมจะออกไปตัดผมที่ร้านตัดผม ผมจำเป็นต้องรักษาสไตล์ของผมเอาไว้’ เป็นต้น”

ไม่หมดเพียงเท่านี้เพราะไม่ใช่เพียงแค่ทหารเกณฑ์คนดังเท่านั้นที่มีปัญหา แต่ดูเหมือนว่าคนในของสำนักงานสื่อแห่งกระทรวงกลาโหม ( Defense Media Agency) เองที่มีปัญหาด้วยเหมือนกัน

หนึ่งในเจ้าหน้าที่หญิงซึ่งเคยทำงานในสำนักงานสื่อแห่งกระทรวงกลาโหมกล่าวสารภาพว่า “พวกเขาลูบคลำก้นของเราเป็นการทักทาย จากนั้นยังให้พวกเราทำ ‘เลิฟช็อต’ กับคนที่พวกเราไม่รู้จักมาก่อน พวกเขาทำกับเราราวกับพวกเราเป็นสาวนั่งดริ๊งในบาร์”

เธอเล่าต่อ “ครั้งหนึ่งพวกคนใหญ่โตในแผนกบอกฉันให้นั่งลงข้างเขา ฉันจึงนั่งลงตามคำสั่ง เขานำเนื้อใส่เข้าไปในปาก จากนั้นจึงนำออกมาและให้ฉันกินต่อจากเขา เขาบอกว่านี่คือรสชาติของความรัก”

เธอเล่าต่อ “แม้กระทั่งในช่วงที่ไม่มีคอนเสิร์ต พวกเราถูกสั่งให้อยู่ด้วยกันใกล้ๆบ้านของพวกเขาและดื่ม เราต้องคอยรองรับอารมณ์ของพวกเขา และทำกระทั่งเคลียร์ใบเสร็จให้กับพวกเขา แต่หากพวกเราบ่นในเรื่องนี้พวกเราก็จะถูกไล่ออก ใครจะสามารถทนพวกเขาได้?”

แน่นอนว่าข้อกล่าวหาทั้งหมดในรายการถูกปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงจาก Defense Media Agency (สำนักงานสื่อแห่งกระทรวงกลาโหม)

แปลจาก allkpop โดย https://kpop.youzab.com หากต้องการนำข่าวออกไปกรุณาให้เครดิตทั้งหมดด้วย

Like แฟนเพจของเราเพื่อติดตามข่าวสารอัพเดทก่อนใครได้ที่นี่เลยจ้า