ในวันที่ 4 ตุลาคม 2022 พัคซูฮงถูกพ่อของเขาทำร้ายและเข้าร่วมสอบสวนที่สำนักงานอัยการในกรุงโซลคดียักยอกที่เกี่ยวกับพี่ชาย
มีรายงานว่าพัคซูฮงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหลังจากถูกพ่อทำร้ายร่างกาย นอกจากข่าวแล้วยังมีพยานที่เห็นเหตุการณ์กล่าวว่าพ่อของพัคซูฮงบอกว่า “น่าเสียดายที่ฉันไม่มีอาวุธ” และในระหว่างสอบสวนการดำเนินคดีทำร้ายร่างกายเขากล่าวอีกว่า “ฉันคงแทงเขาจริงๆถ้าฉันมีอาวุธ”
พี่สะใภ้ของพัคซูฮงและพ่อของเขามีการกล่าวว่าพวกเขาไปร้านอาหารบริเวณใกล้เคียงเพื่อทานอาหารกลางวันหลังจากทำร้ายร่างกาย ในระหว่างมือดูเหมือนทั้งสองคนจะไม่แสดงความทุกข์หรือรู้สึกผิดใดๆเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้
นักข่าวของ SBS Entertainment ได้พูดคุยกับคุณพ่อของพัคซูฮงซึ่งกลับมาที่สำนักงานอัยการหลังจากอาหารกลางวัน พ่อของเขากล่าวว่า “คุณอยากรู้อะไรกับเรื่องนี้?” และเสริมว่า “ฉันคิดว่าฉันควรคุยกับนักข่าวด้วยตอนนี้”
ที่สำนักงานอัยการพ่อของพัคซูฮงยอมรับว่าเขาทำร้ายลูกชายและอธิบายว่า “เขาควรจะทักทายพ่อแม่ของเขาอย่างเหมาะสมเพราะเขาไม่ได้เจอมาเป็นปีครึ่งดังนั้นผมจึงเตะหน้าแข้งเขาทีนึง พี่ชายของเขากำลังนั่งอยู่ในชุดนักโทษเขาควรจะพูดว่า ‘สบายดีไหม?’ หรือ ‘ผมขอโทษ’ เวลาเขาเจอพ่อแม่เราสนับสนุนเขาตลอดทั้ง ซักพัก ทำอาหาร ทำความสะอาดให้ ฉันไม่ใช่หมูไม่ใช่หมาที่ต้องเลี้ยงดูแลแบบนี้”
เมื่อถามว่า “ทำไมพัคซูฮงถึงต้องขอโทษ?” พ่อของเขาตอบว่า “เขาเรียกพ่อที่อายุมากกว่า 80 มาแบบนี้เพื่อสอบสวน อย่างน้อยก็ควรกล่าวขอโทษ” นักข่าวกล่าวต่อ “นั่นไม่ใช่เพราะพี่ชายพัคซูฮงถูกจับในข้อหายักยอกและคุณถูกเรียกเป็นพยานหรอ?” พ่อของเขาตอบว่า “นั่นเป็นเพราะเขาทำให้พี่ชายของเขาดูเหมือนเป็นขโมยผ่านสื่อ”
พัคซูฮงฟ้องพี่ขายของเขาในข้อหายักยอกทรัพย์เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้วและตามคำร้องของพัคซูฮงกล่าวว่าพี่ชายของเขาขโมยเงินหมื่นล้านวอนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จากนั้นอัยการได้ขอหมายจับพี่ชายของเขาในข้อหายักยอกเงิน 2,100 ล้านวอนและเป็นที่ทราบกันดีว่าพี่ชายของเขาถูกจับกุมและอยู่ในระหว่างการสอบสวน
อย่างไรก็ตามพ่อของพัคซูฮงปฏิเสธอย่างหนักแน่นเรื่องพี่ชายของพัคซูฮงที่ยักยอกเงิน พ่อของเขาอธิบายว่า “เขา (พัคซูฮง) ไม่ได้ทำเงินมากขนาดนั้น แค่ 10 ปีเงินที่ได้มาจากอพาร์ทเมนต์สามห้องที่ซื้อมา เขาไม่ได้ทำเงินมากขนาดนั้นจริงๆ”
นักข่าวถามว่า “ในทางกลับกันลูกชายคนโตของคุณมีอสังหาริมทรัพย์หลายหมื่นล้านวอน แล้วเรื่องนั้นล่ะ?” พ่อของพัคซูฮงอธิบายว่า “นั่นเป็นเพราะลูกชายคนโตของผมเชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ (การลงทุน) เขาพาฉันไปที่ Magok-dong ซึ่งมันเป็นที่รกร้างว่างเปล่าและถามฉันว่า ‘ที่นี่เป็นยังไง?’ แล้วลูกชายคนโตก็เอาเงินไปลงทุนที่นั่น ตึกที่มีร้านทั้งหมด 8 แห่ง”
พี่ชายของพัคซูฮงมีการกล่าวว่าเขาเป็นเจ้าของช้อปปิ้งเซ็นเตอร์มากกว่า 8 แห่งใน Magok-dong ในกรุงโซล อสังหาริมทรัพย์ของเขาคนเดียวมีมูลค่ามากกว่า 20,000 ล้านวอนและรายได้ค่าเช่ารายเดือนมากกว่าหลาย 10 ล้านวอน
พ่อของพัคซูฮงแย้งว่าพัคซูฮงเป็นเจ้าของ 50% ของช้อปปิ้งเซ็นเตอร์และพี่ชายของเขาเป็นเจ้าของอีก 50% แต่เมื่อผู้สื่อข่าวลงของ SBS ตรวจสอบการลงทะเบียนของห้างไม่พบชื่อของพัคซูฮงเป็นเจ้าของและห้างส่วนใหญ่เป็นชื่อของพี่ชายและภรรยาของพี่ชายโดยแม่ของพัคซูฮงเป็นเจ้าของ 2%
พัคซูฮงอ้างว่า “ฉันเชื่อพี่ชายเพราะเขาพูดว่า ‘นี่คือช้อปปิ้งมอลของนาย แต่กลายเป็นว่าชื่อของฉันไม่ได้อยู่ในทะเบียน'”
เกี่ยวกับข้อหายักยอกพ่อของพัคซูฮงอ้างว่าเขาเป็นคนทำไม่ใช่พี่ชาย
แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)
หากไม่ต้องการพลาดข่าวสารอย่างรวดเร็วจากเรา เลือกแถบกำลังติดตาม ->อย่าลืมติ๊ก ✔ เลือกเห็นโพสต์ก่อนของเพจ Facebook ของเรานะคะ
ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB