เมื่อวันที่ 15 กันยายน ประธาน HYBE บังชีฮยอก ถูกตำรวจหน่วยสืบสวนอาชญากรรมทางการเงินแห่งนครบาลโซลเรียกสอบสวนในข้อหาซื้อขายหุ้นโดยฉ้อโกง ตามพระราชบัญญัติตลาดทุน หลังถูกกล่าวหาว่าหลอกลวงนักลงทุนโดยอ้างว่าไม่มีแผนจะนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ ก่อนจะเข้าซื้อหุ้น

ล่าสุด มินฮีจินได้ยืนยันข้อกล่าวหานี้ โดยเผยว่าบังชีฮยอกเคยบอกกับเธอโดยตรงว่า “ไม่มีแผนเข้าตลาดหุ้น” ตอนรับเธอเข้ามาทำงานในปี 2019

มินฮีจินเล่าในสายโทรศัพท์กับ Hankyoreh ว่า “ตอนที่เจอกับประธานบังเมื่อเดือนมกราคม 2019 เพื่อเจรจาสัญญาเงินเดือน เขาบอกฉันว่า ‘ไม่มีแผนจะเข้าตลาดหุ้น’ พร้อมแนะนำว่า ‘เงินสดดีกว่าหุ้นสำหรับค่าตอบแทน ให้เปลี่ยนเป็นโบนัสเซ็นสัญญาแทน’ ฉันจึงเชื่อและลงนามในสัญญา” โดยมีพยานอีกคนที่อยู่ในการเจรจายืนยันเรื่องนี้ด้วย

ต่อมา มินฮีจินเข้าร่วม Big Hit Music ในตำแหน่ง CBO (Chief Brand Officer) เดือนกรกฎาคม 2019 ซึ่งคำให้การนี้ถูกนำไปใช้เป็นหลักฐานในคดีฟ้องร้องออปชันหุ้นระหว่างมินฮีจินและ HYBE ที่ศาลแขวงกลางกรุงโซลเมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา

รายงานระบุว่าคำพูดดังกล่าวเกิดขึ้นเพียง 3 เดือน ก่อนที่กองทุนเอกชน (PEF) ซึ่งก่อตั้งโดยบุคคลใกล้ชิดบังชีฮยอกและต้องสงสัยว่าถูกสร้างขึ้นเพื่อเก็งกำไร IPO จะถูกจัดตั้งขึ้น และเพียง 2 เดือนหลังจากนั้นในเดือนมิถุนายน 2019 กองทุนดังกล่าวก็ซื้อหุ้นมูลค่าราว 25,000 ล้านวอนจากผู้ร่วมก่อตั้ง HYBE เริ่มสะสมหุ้นทันที

ต่อมาเมื่อ HYBE เข้าตลาดหุ้นในเดือนตุลาคม 2020 กองทุนดังกล่าวขายหุ้นกอบโกยกำไรร่วมสิบเท่า ขณะที่นักลงทุนรายย่อยกลับขาดทุนหนัก เนื่องจากราคาหุ้นร่วงกว่า 60% ในเวลาเพียงสัปดาห์เดียว โดยมีรายงานว่าประมาณ 30% ของกำไรที่ได้ (~400,000 ล้านวอน หรือราว 288.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ไหลเข้าสู่บังชีฮยอกผ่าน “สัญญา Earn-out” ที่ไม่ถูกเปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ในช่วง IPO

แม้ HYBE จะอ้างมาโดยตลอดว่าไม่มีแผน IPO ในช่วงต้นปี 2019 แต่หลักฐานกลับชี้ว่าบริษัทเริ่มเตรียมการแล้ว โดยในเดือนพฤศจิกายน 2019 HYBE ได้ลงนามกับผู้สอบบัญชีที่ได้รับการแต่งตั้งสำหรับ IPO ซึ่งปกติจำเป็นต้องใช้เวลาเตรียมการล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งปี หมายความว่าบริษัทมีแผน IPO มาตั้งแต่ปี 2018 หรือก่อนหน้านั้น

ด้าน HYBE ชี้แจงต่อคำให้การของมินฮีจินว่า “เนื่องจากเป็นบทสนทนาส่วนตัวระหว่างประธานบังและมิน จึงไม่สามารถตรวจสอบได้ในระดับบริษัท”

ทั้งนี้ ตำรวจได้บุกค้นตลาดหลักทรัพย์เกาหลีเมื่อเดือนมิถุนายนเพื่อหาหลักฐาน และในเดือนสิงหาคมยังได้เข้าตรวจค้นสำนักงานใหญ่ HYBE ในยงซานด้วย โดยคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และฟิวเจอร์สได้ส่งเรื่องบังชีฮยอกไปยังอัยการในข้อหาซื้อขายหุ้นโดยฉ้อโกงแล้ว

ขณะที่ฝั่งบังชีฮยอกให้สัมภาษณ์สื่อว่า “กระบวนการ IPO ดำเนินการตามกฎหมายและข้อบังคับทั้งหมด เราจะให้ความร่วมมือกับการสอบสวนและชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างจริงใจ”

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

หากไม่ต้องการพลาดข่าวสารอย่างรวดเร็วจากเรา เลือกแถบกำลังติดตาม ->อย่าลืมติ๊ก ✔ เลือกเห็นโพสต์ก่อนของเพจ Facebook ของเรานะคะ

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

จองดงวอน (18 ปี) ตกเป็นประเด็นร้อน หลังถูกเพื่อนสนิทแบล็กเมล์เรียกเงินกว่า 500 ล้านวอน (ราว 360,000 ดอลลาร์สหรัฐ) ด้วยคลิปที่เจ้าตัวเคยขับรถบรรทุกของพ่อโดยไม่มีใบขับขี่เมื่ออายุเพียง 16 ปี

เมื่อวันที่ 12 กันยายน ยูทูบเบอร์อีจินโฮได้เปิดเผยว่า จองดงวอนเคยขับรถประมาณ 10 นาทีในฮาดง จังหวัดคยองซังใต้เมื่อเดือนมกราคม 2023 และเพื่อนที่ถ่ายคลิปไว้ได้นำมาขู่เรียกเงินปิดปาก พร้อมทั้งขโมยมือถือเก่าของเขาไปจากบ้านที่โซลเพื่อหาหลักฐานเพิ่ม

แม้จะมีข่าวลือว่าจองดงวอนจ่ายเงินถึง 1 พันล้านวอน แต่ความจริงคือเขาแจ้งความทันทีและเพียงเตรียมเงินเพื่อร่วมมือกับตำรวจจับผู้ร้าย จนในที่สุดเพื่อนและครอบครัวที่ร่วมก่อเหตุถูกจับและอยู่ระหว่างการพิจารณาคดี

ด้านต้นสังกัด Show Play Entertainment ยืนยันว่า จองดงวอนทำผิดจริงเรื่องขับรถโดยไม่มีใบขับขี่ และตอนนี้กำลังสำนึกผิดและสะท้อนตนเองอย่างจริงจัง พร้อมเผยว่า “คนร้ายเป็นคนรู้จักที่ขโมยโทรศัพท์และข้อมูลส่วนตัวไป ก่อนนำคลิปไปแบล็กเมล์เรียกเงินจำนวนมาก แต่ดงวอนไม่เคยยอมจ่าย”

ข่าวนี้สร้างความตกใจให้กับแฟนๆ ไม่เพียงเพราะการตัดสินใจผิดพลาดในวัยเด็กของเขา แต่ยังเพราะการถูกหักหลังจากคนที่เรียกว่า ‘เพื่อน’ อีกด้วย

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

หากไม่ต้องการพลาดข่าวสารอย่างรวดเร็วจากเรา เลือกแถบกำลังติดตาม ->อย่าลืมติ๊ก ✔ เลือกเห็นโพสต์ก่อนของเพจ Facebook ของเรานะคะ

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

อีจางอูกลายเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง หลังประกาศข่าวแต่งงานกับนักแสดงสาวโจฮเยวอนที่จะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้

ทันทีที่มีข่าว หลายคนก็ให้ความสนใจว่าอีจางอูจะกลับมาลดน้ำหนักเพื่อวันแต่งหรือไม่ แต่เจ้าตัวออกมาเผยชัดเมื่อเดือนก่อนว่าเขาจะไม่ลดน้ำหนัก เพราะคู่หมั้นบอกให้เป็นตัวเองแบบนี้ดีที่สุด

แม้อีจางอูเคยลดน้ำหนักได้ถึง 22 กก. ในรายการ I Live Alone แต่หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆ กลับมาอ้วนขึ้น โดยเฉพาะจากการทำคอนเทนต์กินโชว์ (มุกบัง) ในยูทูบ ทำให้หลายคนมองว่าเขากำลังให้ความสำคัญกับช่องมากกว่างานแสดง

เมื่ออีจางอูห่างหายจากหน้าจอละคร ชาวเน็ตจึงขุดคำพูดในอดีตที่เขาเคยบ่นว่า “ไม่ได้รับงานแสดงเพราะน้ำหนัก” ขึ้นมาพูดอีกครั้ง และบางคนถึงกับสงสัยว่าเขาอาจเลิกตั้งใจจะกลับมาเป็นนักแสดงแล้ว

ความคิดเห็นชาวเน็ตมีทั้งว่า

“ถ้าอยากได้งานแสดงก็ลดน้ำหนักสิ จะมาบ่นทำไม”
“หรือจริงๆ ไม่ใช่เพราะน้ำหนัก?”
“ก็เล่นเป็นลุงพระเอกได้นี่ 555”
“ยังหล่ออยู่แต่เดี๋ยวนี้มีนักแสดงรุ่นใหม่ที่หล่อกว่าเยอะ เขาควรดูแลตัวเองบ้าง”
“ถ้าไม่มีแพชชั่นก็แล้วไป แต่ถ้าอยากแสดงจริงๆ ควรจะรักษารูปร่างหน่อยนะ มีนักแสดงอีกเยอะที่พร้อมแทนที่ได้”
“ไม่รู้ว่าเขาอยากเป็นนักแสดงต่อจริงๆ รึเปล่า”

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

หากไม่ต้องการพลาดข่าวสารอย่างรวดเร็วจากเรา เลือกแถบกำลังติดตาม ->อย่าลืมติ๊ก ✔ เลือกเห็นโพสต์ก่อนของเพจ Facebook ของเรานะคะ

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

คิมจงกุกออกมาเคลียร์ทุกประเด็นเกี่ยวกับภรรยาของเขา หลังจากถูกชาวเน็ตลือกันไปต่างๆ นานา

เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา คิมจงกุกได้เข้าพิธีแต่งงานกับภรรยาที่ไม่ใช่คนดังในงานเล็กๆ ที่มีเพียงคนสนิทมาร่วมเท่านั้น ซึ่งหลังจากข่าวแต่งงานถูกเปิดเผยก็มีข่าวลือมากมาย เช่น ภรรยาเป็น “CEO สตาร์ทอัพความงาม อายุน้อยกว่า 11 ปี” บ้าง “เด็กกว่านักร้องหนุ่มถึง 20 ปี” หรือ “เป็นสาวจากลอสแอนเจลิส”

ล่าสุดในวันที่ 11 กันยายน คิมจงกุกได้พูดถึงข่าวลือเหล่านี้ผ่านรายการ Problem Child in House ทาง KBS 2TV โดยเขากล่าวชัดว่า “ข่าวที่ลือกันไม่จริงเลยครับ นอกจากเพศแล้วไม่มีอะไรถูกเลย เราไม่ได้เจอกันที่ฟิตเนสตามที่เขาพูดกันด้วย”

เมื่อถูกถามถึงเรื่องอายุห่างกัน คิมจงกุกยืนยันว่า “ผมไม่ได้ปิดบังเพราะช่องว่างอายุ มันไม่ใช่เรื่องนั้นเลย แต่เป็นเพราะเธออยากใช้ชีวิตส่วนตัวอย่างเรียบง่ายมากกว่า”

นอกจากนี้ คิมจงกุกยังได้เล่าผ่านช่องยูทูบ GYM JONG KOOK เกี่ยวกับโมเมนต์ที่เขาบอกข่าวแต่งงานกับเพื่อนดาราด้วยตัวเอง โดยเขาเอ่ยชวนยูแจซอกแบบสบายๆ ว่า “ศุกร์นี้ว่างมั้ยครับ ถ้าว่างมาทานข้าวกัน…ผมจะแต่งงาน” ทำเอายูแจซอกถึงกับตกใจตอบว่า “หยุดโกหกเถอะ” ก่อนจะถามย้ำด้วยความไม่เชื่อ

ฮาฮาก็ไม่ต่างกัน เมื่อได้ยินข่าวถึงกับพูดทั้งน้ำตาว่า “จริงๆ ใช่มั้ย ใครกัน? ฉันจะร้องไห้แล้วนะ” ส่วนยางเซชานเองก็ไม่เชื่อในตอนแรก แต่ภายหลังก็ยอมรับว่าเริ่มจับสังเกตได้ว่าคิมจงกุกกำลังคบใครอยู่

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

หากไม่ต้องการพลาดข่าวสารอย่างรวดเร็วจากเรา เลือกแถบกำลังติดตาม ->อย่าลืมติ๊ก ✔ เลือกเห็นโพสต์ก่อนของเพจ Facebook ของเรานะคะ

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

ฮเยริได้ออกมาเผยว่าเธอได้รับบาดเจ็บระหว่างการเตรียมตัวสำหรับทัวร์แฟนมีตติ้ง จนถึงขั้นต้องเข้าห้องฉุกเฉิน (ER) ด้วยรถเข็น

เมื่อวันที่ 12 กันยายน ฮเยริได้อัปโหลดวิดีโอในช่อง YouTube ส่วนตัวชื่อว่า “Successfully Wrapped Up the Fan Meeting Tour in Kuala Lumpur” ซึ่งในคลิปแฟนๆ สังเกตได้ว่าบ้านของเธอเต็มไปด้วยแผ่นแปะบรรเทาอาการปวด และฮเยริก็ได้เล่าอย่างตรงไปตรงมาถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เธอกล่าวว่า “มีเรื่องเศร้าอยู่เบื้องหลังแผ่นแปะเหล่านี้ค่ะ ฉันบาดเจ็บตอนซ้อมแฟนมีต กระดูกเชิงกรานกับแถบซ้ายของหลังมันรู้สึกไม่สบาย มันไม่ได้รบกวนชีวิตประจำวัน แต่เวลาใส่ส้นสูงหรือยืดตัวก็จะเจ็บค่ะ”

ฮเยริเล่าต่อว่า “ตอนซ้อมอยู่ ท่อนหนึ่งที่ต้องแกว่งสะโพกด้านข้าง ฉันรู้สึกเหมือนกระดูกเชิงกรานบิดเลยหยุดทันที แต่ทุกคนคิดว่าฉันแกล้งเล่น พอพยายามจะลุกขึ้นอีกครั้งก็ลงน้ำหนักที่เท้าไม่ได้แล้ว” แม้จะเจ็บหนักแต่เธอก็ยังถ่ายเก็บไว้เพื่อทำคอนเทนต์ลงยูทูบ

หลังจากนั้นเธอถูกนำตัวส่งห้องฉุกเฉิน แต่แพทย์ระบุว่า “ไม่พบความผิดปกติ” พร้อมจ่ายยาแก้ปวดแรงๆ ให้เท่านั้น อย่างไรก็ตามอาการเจ็บยังคงอยู่ ทำให้ฮเยริต้องวิ่งโรงพยาบาลกลางดึกถึง 4 แห่ง ทั้งสแกนและ MRI ก็ยังออกมาว่าไม่พบปัญหาใดๆ แม้เธอจะเจ็บปวดชัดเจนก็ตาม

โชคดีที่เวลาผ่านไปอาการค่อยๆ ดีขึ้นจนสามารถกลับมาเดินได้ และเธอก็รีบกลับไปทำหน้าที่เพื่อแฟนๆ “ฉันนอนโรงพยาบาลทั้งคืน แต่พอเดินได้ก็ตรงไปงานแฟนมีตทันทีค่ะ” เธอกล่าว ทำเอาแฟนๆ ซึ้งในความทุ่มเทและหัวใจนักสู้ของเธอ

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

หากไม่ต้องการพลาดข่าวสารอย่างรวดเร็วจากเรา เลือกแถบกำลังติดตาม ->อย่าลืมติ๊ก ✔ เลือกเห็นโพสต์ก่อนของเพจ Facebook ของเรานะคะ

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

นักแสดงรุ่นใหญ่ อียองเอ (Lee Young Ae) เผยว่าลูกสาววัย 15 ปีของเธอกำลังไปออดิชั่นเพื่อเป็นไอดอล

เมื่อวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา อียองเอพร้อมด้วย คิมยองกวัง และ พัคยงอู นักแสดงร่วมจากซีรีส์ใหม่ช่อง KBS 2TV เรื่อง Walking on Thin Ice ได้เข้าร่วมพูดคุยในรายการ YouTube Zzanboro ที่มี ชินดงยอบ เป็นพิธีกร

ระหว่างการพูดคุย ชินดงยอบได้ถามว่า “เสียงที่คุณใช้ในซีรีส์เป็นเสียงเดียวกับเวลาที่ดุลูกๆ หรือเปล่า?” อียองเอตอบว่า “ฉันได้ยินคำถามนี้บ่อยค่ะ ฉันก็ต้องขึ้นเสียงใส่ลูกบ้างเหมือนกัน พ่อแม่ส่วนใหญ่ก็เป็นกันใช่มั้ยคะ” พร้อมเล่าว่าตอนนี้ลูกชายและลูกสาวฝาแฝดของเธออายุ 15 ปี โดยลูกสาวมีนิสัยคล้ายเธอ ส่วนลูกชายคล้ายคุณพ่อ

เธอยังเล่าถึงงานอดิเรกของลูกสาวว่า “ลูกสาวชอบไอดอลและไปออดิชั่น ฉันก็ปล่อยให้เธอทำ เพราะถ้าฉันห้าม เธออาจจะโทษว่า ‘หนูไม่ได้ทำเพราะแม่ห้าม’” พร้อมเสริมว่า “ลูกสาวชอบวงอย่าง TXT และ BOYNEXTDOOR จนฉันต้องพาไปดูคอนเสิร์ตด้วย”

อย่างไรก็ตาม อียองเอก็ยอมรับว่าในฐานะแม่ เธอมีความกังวลอยู่ไม่น้อย “ลูกสาวมองว่าวงการนี้ง่ายไปหน่อย เวลามองฉัน เธอเห็นแต่ด้านที่สว่างและสนุก ไม่ได้เห็นความลำบากกว่าจะมาถึงจุดนี้”

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

หากไม่ต้องการพลาดข่าวสารอย่างรวดเร็วจากเรา เลือกแถบกำลังติดตาม ->อย่าลืมติ๊ก ✔ เลือกเห็นโพสต์ก่อนของเพจ Facebook ของเรานะคะ

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB