แจจุง JYJ เปิดใจถูกซาแซงแฟนรุกรานหนัก “พวกเขาบุกเข้ามาในห้องนอนของผม”

ในวันที่ 6 มกราคม 2019 แจจุงปรากฏตัวในรายการทีวีญี่ปุ่น “Gyoretsuno Dekiru Horitsu Sodanjo” เขาเผยปัญหาที่เกิดขึ้นจากแฟนคลับ

ในวันนั้นเพื่อนดารา Masaki Sugano พูดเกี่ยวกับประสบการณ์จริงที่ถูกกอดโดยแฟนๆผู้หญิงสามคน

เกี่ยวกับการถูกแฟนๆกอด ทนายความ Harumo Kitamura กล่าวว่านั่นไม่ใช่ปัญหาตราบใดที่คนดังรับได้แต่ถ้าคนถูกสัมผัสรู้สึกไม่สบายใจและถือเป็นการละเมิดและเป็นปัญหา

เมื่อแจจุงถูกถามเกี่ยวกับประสบการณ์ที่คล้ายกันเขากล่าวว่า “มีแฟนคลับหลายคนที่บุกเข้ามาในห้องนอนของผม…ในกลางดึกในขณะที่ผมกำลังหลับและขึ้นมาบนตัวผม” เขากล่าวต่อ “มีหลายสิ่งที่พวกเขาทำที่ผมไม่สามารถพูดได้ออกทีวี” เขาเล่าทำให้คนในสตูดิโอตกใจกันมากและเขาปิดท้ายว่า “เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง”

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

Happy Unni ร้านค้าแฟชั่น

มินจีเปิดใจเคยคิดฆ่าตัวตายเพราะซึมเศร้าและเผยสิ่งที่ทำให้เธอออกจาก 2ne1

ไอดอลสาวมินจีได้เปิดใจเล่าอย่างตรงไปตรงมาว่าเธอเคยคิดฆ่าตัวตายเพราะหดหู่ซึมเศร้า รวมทั้งเล่าถึงสิ่งที่ทำให้เธอออกจากวง 2ne1

มินจีอดีตน้องเล็กวง 2ne1 ให้สัมภาษณ์กับเจฟฟ์ เบนจามินจากบิลบอร์ด (Billboard) เป็นครั้งแรกและได้เล่าถึงช่วงเวลาที่ทุกข์ใจตอนอยู่ 2ne1 ที่เธอทั้งรู้สึกสับสนและไม่มั่นคง

ที่ห้องของเธอในโรงแรมในเมืองลอสแอนเจลิส มินจีดูสบายๆขณะนั่งอยู่บนเก้าอี้นั่งเล่นด้วยเสื้อฮู้ดสีชมพูดสดใส เธอเป็นมิตรและเข้าถึงง่ายขณะพูดคุยอย่างเป็นกันเองและตอบคำถามด้วยตายิ้ม ไอดอลสาวเผยว่าการเข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุเพียง 15 ปีทำให้เธอขาดทักษะการเข้าสังคม

มินจีกล่าวว่า “ฉันไม่รู้ว่าจะสานสัมพันธ์กับคนอื่นอย่างไรค่ะ เนื่องจากฉันยังเด็กมากในสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุม ฉันไม่เคยเรียนรู้ถึงการเข้าสังคม ฉันไม่มีเพื่อนวัยเด็กเลยจริงๆค่ะ ฉันไม่เคยออกไปเล่นข้างนอกกับเด็กคนอื่น ฉันเพียงแค่ฝึกหัดและทุกคนรอบตัวต่างอายุมากกว่าฉันค่ะ”

มินจีกล่าวต่อ “คนทั่วไป ชาวเน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์ข้อเท็จจริงที่ว่าเราไม่ใช่วงที่สวยที่สุด เราเป็นวงที่ขี้เหร่ ฉันไม่รู้จะรับมือกับมันอย่างไรและต้องอดทนเก็บไว้ข้างใน มันเป็นเรื่องยากในฐานะเกิร์ลกรุ๊ป เราต้องแสร้งทำเป็นว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่และพยายามลืมๆมันไป แต่คุณไม่สามารถลืมมันได้–มันยาก ฉันพยายามปรับตัวเติบโตให้ทันพี่ๆในวง แต่เมื่อคุณไม่เหมือนกับเกิร์ลกรุ๊ปที่ดูเหมือนนางแบบและคุณทำสิ่งที่ต่างกัน เท่แต่แตกต่าง–คุณจัดการกับมันด้วยวิธีที่ต่างออกไป”

อย่างไรก็ตามวง 2ne1 ประสบความสำเร็จอย่างมากหลังจากเดบิวต์และมีเพลงที่ได้รับความนิยมออกมามากมาย ลบคำสบประมาทที่ว่าพวกเธอขี้เหร่ไปได้ มินจีกล่าวว่า “ฉันขึ้นเวทีและทุกคนต่างส่งแรงสนับสนุนให้ฉัน พวกเขารักฉันค่ะ แต่หลังจากจบการแสดงบนเวทีฉันอยู่ในโรงแรมและรู้สึกว่างเปล่า รู้สึกเหมือนมีชีวิตแค่ตอนอยู่บนเวที ฉันไม่รู้ว่าชีวิตของฉันเป้นอย่างไร ไม่แน่ใจว่าชีวิตดีกว่าในขณะแสดงหรือชีวิตอาจจะดีกว่าเพียงแค่อยู่คนเดียว มันช่างแตกต่างกันมากแต่ฉันไม่มีเวลาที่จะหาวิธีปรับสมดุลระหว่างการอยู่บนเวทีกับการอยู่คนเดียวค่ะ”

มินจีเผยว่าเพราะวงประสบความสำเร็จมากเธอจึงไม่สามารถปล่อยเพลงหรือเป็นศิลปินเดี่ยวได้ แม้ว่าเธอจะเตรียมตัวและบันทึกอัลบั้มเดี่ยวของเธอเองแต่มันก็ถูกเลื่อนออกไปเรื่อยๆและในที่สุดก็ถูกยกเลิกเนื่องจากปัญหาที่แตกต่างกันของศิลปินในค่าย YG ไอดอลสาวเผยว่า “มันไม่เพียงพอที่จะทำงานของฉันให้เสร็จสมบูรณ์ พวกเขาเอาแต่เลื่อนมันออกไปและเมื่อมาถึงขั้นพื้นฐานของทุกอย่างคุณก็ไม่รู้รายละเอียด”

มินจีพูดถึงเพื่อนสมาชิก 2ne1 ว่าพวกเธอเป็นเหมือนพี่สาวและกล่าวว่า “พวกเราทุกคนต่างอยู่ติดบ้านดังนั้นความจริงแล้วเราแค่ดูทีวีอยู่บ้านด้วยกันและเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด อย่างน้อยสำหรับฉันแล้วความทรงจำเหล่านั้นช่างอบอุ่น บางทีอาจเป็นเพราะฉันยังเด็กหรือเปล่า? แต่โลกเป็นเหมือนสถานที่แปลกหน้าสำหรับฉัน ดังนั้นช่วงเวลาเหล่านั้นจึงใกล้ชิดกับหัวใจของฉันค่ะ ครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญสำหรับฉันมากกว่าชื่อเสียง แต่เนื่องจากมันใช้เวลานานขึ้นและนานขึ้นในการปล่อยอัลบั้มของเรา พราจะได้พบกันจริงๆเมื่อถึงตอนวางแผนอัลบั้มเนื่องจากทุกคนเริ่มทำงานของตัวเองฉันจึงใช้เวลากับพวกพี่ๆน้อยลงค่ะ”

ไอดอลสาวเผยว่าเกาหลียังให้ความสนใจและการสื่อสารกับผู้ป่วยทางสุขภาพจิตน้อยและทำให้เธอไม่สามารถหาความช่วยเหลือได้ แต่เท็ดดี้ที่เป็นโปรดิวเซอร์ใน YG เป็นคนที่คอยให้ความช่วยเหลือเธอ

“เนื่องจากฉันเด็กที่สุดพี่เท็ดดี้จึงคอยให้กำลังใจฉันค่ะ เขาจะพูดประมาณว่า ‘ฉันรู้ว่าเธอรู้สึกหดหู่และลำบากจากภาวะซึมเศร้า แต่เธอเชื่อในพระเจ้าดังนั้นเธอจะผ่านมันไปได้’ ฉันมีความทรงจำที่ดีต่อพี่เขาค่ะ ฉันรู้สึกขอบคุณพี่เขาจริงๆและมองเขาเป็นคนดีในชีวิตที่ทำให้ฉันก้าวต่อไปแม้ว่าจะซึมเศร้าอย่างเลวร้ายที่สุดค่ะ”

มินจีเผยว่าเธอเริ่มรู้สึกไม่มั่นคงและไม่มีใครรู้เรื่องนี้ เธอรู้สึกโดดเดี่ยว แต่ศาสนาช่วยเธอฟื้นฟูสุขภาพจิต “ตอนฉันอายุ 17, 18 ฉันได้พบกับพระเจ้า ฉันพบศรัทธาของตัวเองที่ทำให้ชีวิตฉันเปลี่ยนไปอย่างมาก ผู้คนที่มีศรัทธาเดียวกันและกำลังใจเดียวกันได้เข้ามาในชีวิตของฉัน แต่ฉันสามารถพูดถึงชีวิตตัวเองได้อย่างกล้าหาญค่ะ มันไม่ใช่ว่า ‘โอ เธอดีขึ้นนะ’ แต่มันคือ ‘เราเข้าใจความลำบาก และมันโอเคที่จะลำบาก มันโอเคที่จะรู้สึกแย่ แต่เรามาคิดถึงมันและจัดการมันและมีศรัทธาค่ะ’ ฉันเข้าถึงมันได้ค่ะ”

เรื่องการออกจากวง 2ne1 มินจีกล่าวว่า “ฉันต้องการเวลาในการจัดการกับโรคซึมเศร้า หาหนทางของตัวเองและคิดว่าอะไรคือสิ่งที่ฉันอยากทำจริงๆ มันเป็นสิ่งที่ฉันทำมายาวนานแต่มันยากที่จะคงรักษาไว้ ฉันได้พบหนทางของตัวเองและมีเพียงทางเดียวคือการออกจากวงและสู้เพื่อสิ่งที่ฉันต้องการ ฉันสงสัยว่า ‘ชีวิตของฉันคืออะไร?’ การออกจาก 2ne1 ไม่ใช่การทิ้งหรือการแยกวง มันคือสิ่งที่ฉันสู้เพื่อตัวเอง เพื่ออนาคตและสิ่งที่ฉันต้องการ ในที่สุดฉันก็ได้เลือกบางสิ่งเพื่อตัวเอง ฉันรู้สึกกดดันและเป็นภาระ แต่มันเป็นภาระที่ดีค่ะ”

มินจีกล่าวว่าเธอยากช่วยเหลือให้คนที่อยู่ในภาวะซึมเศร้าเอาชนะมันให้ได้ และอยากให้พวกเขารู้ว่าพวกเขาเองต่างเป็นที่รักเช่นกัน จากนั้นจึงพูดถึงภาวะซึมเศร้าของเธอหลังจากการสูญเสียจงฮยอน SHINee ว่า “มันทำให้ฉันนึกถึงตัวเองและเข้าใจว่าทำไมเขาจึงอยากหนีไป ฉันอยากให้ไอดอลเด็กๆและไอดอลหน้าใหม่รู้ว่าความสำเร็จในโลกไอดอลมันไม่ใช่สิ่งที่สำคัญมากไปกว่าการจำเป็นต้องใช้ชีวิตในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง” ไอดอลสาวรับว่าเธอเองเคยคิดอยากฆ่าตัวตายเช่นกัน

มินจีทบทวนตัวเองและเปลี่ยนความคิดแล้วในตอนนี้ เธอกล่าวว่า “ในขณะที่ฉันเข้าถึงตัวเองฉันก็กลายเป็นคนที่ต่างไป ฉันมีประสบการณ์ผ่านอุปสรรคมาจนถึงปลายทางได้” เมื่อมองย้อนกลับไปดูตัวเองมินจีกล่าวว่า “ฉันอยากจะช่วยผู้หญิงคนนั้นค่ะ”

อนึ่ง มินจีเพิ่งปล่อยซิงเกิ้ลภาษาอังกฤษด้วยเพลง All of You Say คุณสามารถชมมิวสิควีดีโอได้ด้านล่างเลย

แปลจาก soompi โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

Happy Unni ร้านค้าแฟชั่น

แทยอนเปิดใจพูดถึงอุบัติเหตุหัวโขกอุปกรณ์เวทีในคอนเสิร์ตที่กรุงมะนิลากับแฟนๆ

แทยอน Girls’ Generation (โซนยอชิแด, SNSD) ได้โพสต์ข้อความถึงแฟนๆหลังจากเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยในคอนเสิร์ตเดี่ยวของเธอในกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2018 ที่ผ่านมา

ในคอนเสิร์ตขณะที่แทยอนหันหลังกลับมาโบกมือและส่งจูบให้แฟนๆ มีอุปกรณ์เหล็กสำหรับเกาะโหนตัวหนึ่งหย่อนลงมาจากข้างบนและเลื่อนลงมาบริเวณที่เธอยืนทำให้หัวของแทยอนโขกกับอุปกรณ์ นักร้องสาวตกใจจึงเอี้ยวตัวหลบ แม้เธอจะมีสีหน้าเจ็บปวดจากอุบัติเหตุครั้งนี้แต่ด้วยสปิริตแทยอนยังคงแสดงต่อไปอย่างราบรื่นและเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น ทำให้แฟนๆโล่งใจ

วันที่ 15 ธันวาคม 2018 แทยอนเขียนจดหมายถึงแฟนๆในฟิลิปปินส์ผ่านไอจีสตอรี่ โดยกล่าวว่า “ถึงแฟนๆในฟิลิปปินส์ทุกคนค่ะ วันนี้พวกคุณสุดยอดมากที่สุด และฉันรู้สึกขอบคุณพวกคุณมาก ฉันรับรู้ได้อีกครั้งในคราวนี้แต่ยังสามารถหัวเราะได้ต้องขอบคุณแฟนๆค่ะ ไม่ว่าฉันจะอยู่ในสถานการณ์ที่ยุ่งเหยิงแค่ไหนแต่ฉันได้รับพลังความเข้มแข็งและกล้าหาญเพราะพวกคุณ”

แทยอนพูดถึงอุบัติเหตุว่า “ฉันขอโทษที่ไม่สามารถอยู่และบอกลาได้จนถึงตอนจบ ฉันไม่รู้ว่าเพราะมันเกิดขึ้นอย่างกะทันหันทุกคนอาจคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ตอนนี้มากกว่าสิ่งอื่นใดร่างกายและหัวใจของฉันกำลังเจ็บปวดค่ะ”

แทยอนกล่าวต่อ “มีปัญหามากมายเกิดขึ้นในคอนเสิร์ต ทุกอย่างเกิดขึ้นและทำให้รู้สึกเหนื่อยล้ามากค่ะ ฉันรู้สึกขอโทษมากๆต่อแฟนๆในมะนิลาและอยากให้ทุกคนรู้ถึงกระบวนการดำเนินงานของคอนเสิร์ตค่ะ”

จากนั้นแทยอนกล่าวถึงแฟนคลับว่า “ฉันจะพูดมันอีกครั้งว่าวันนี้พวกคุณทั้งหมดน่าหลงใหลมากและเยี่ยมที่สุดจนถึงจุดที่ฉันตัวสั่นเลยค่ะ ฉันตกหลุมรักพวกคุณทุกคนอีกครั้ง โซวอนเยี่ยมที่สุด”

ชมคลิปอุดบัติเหตุแทยอนหัวโขกอุปกรณ์เวทีคอนเสิร์ตด้านล่างเลย

แปลจาก soompi โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

Happy Unni ร้านค้าแฟชั่น

จุนซู JYJ น้ำตาไหลขณะเปิดใจถึงเรื่องที่เขาไม่สามารถออกทีวีและเผยว่าเขาเคยคิดจะเลิกร้องเพลง

จุนซู JYJ เปิดใจกับแฟนๆของเขา

ในวันที่ 2 ธันวาคม 2018 ช่วงใกล้จะจบคอนเสิร์ตเดี่ยวของเขา จุนซูแสดงความคิดเห็นว่า “มันน่าทึ่งมากที่ผมมีแฟนๆเป็นวัยรุ่น ผมไม่ได้ออกทีวีมาประมาณ 7-8 ปีแล้วและจากนั้นผมก็ไปเข้ากองทัพประมาณ 2 ปี ผมไม่ได้ออกทีวีเลยทั้งหมดประมาณ 9 ปี”

จุนซูเผยว่าเขารู้สึกเหมือนไม่ได้เป็นคนมีชื่อเสียงเนื่องจากเขาไม่ได้ออกทีวีเลย เขากล่าวว่า “ผมรู้สึกเหมือนผมไม่ได้เป็นคนดังเพราะผมไม่เคยออกทีวีเลย” เขาขอบคุณนักข่าวที่ยังคงสนใจเรื่องของเขา

จุนซูรู้สึกไม่พอใจกับการแข่งขันที่ไม่แฟร์เมื่อตอนที่เขาปล่อยเพลงเนื่องจากเขาไม่สามารถออกทีวีได้ เขากล่าวว่า “ผมไม่สามารถร้องเพลงของตัวเองบนเวทีในรายการเพลง ไม่เคยเลยแม้แต่ครั้งเดียว” และกล่าวเสริมว่า “ผมสงสัยว่าผมต้องเป็นแบบนี้ต่อไปใช่มั้ย”

เขากล่าวต่อ “จริงๆมันเป็นธุระของผม มันไม่เป็นไรสำหรับถ้าต้องเจอเรื่องลำบากแต่มันยากที่จะเห็นแฟนๆของผมเจ็บปวดเพราะพวกเขารักผม” จากนั้นเขาเผยว่า “เมื่อประมาณเดือนมกราคม…กุมภาพันธ์ปีนี้ ผมสงสัยว่าผมควรจะเลิกเป็นนักร้องดีมั้ยเพราะผมทำให้ทุกคนต้องลำบาก”

เขากล่าวอีกว่า “แต่การออกทีวีไม่ใช่สิ่งสำคัญหรอก สิ่งสำคัญคือโมเมนท์ดีๆที่เรามีด้วยกัน วิดีโอที่เราดูเพื่อนึกถึงวันที่เรามีความสุขด้วยกัน”

สุดท้ายจุนซูกล่าวว่า “พวกคุณไม่ต้องสู้เพื่อผมหรอกเพราะมันเจ็บถ้าเห็นพวกคุณเจ็บ ดังนั้นอย่าทำเลย…ผมจะทำงานหนักเพื่อให้ทุกคนมีความสุขไปด้วยกัน”

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

Happy Unni ร้านค้าแฟชั่น

คังฮันนาเปิดใจเกี่ยวกับชุดเดรสที่เป็นไวรัลในอดีตของเธอ

คังฮันนาเปิดใจเกี่ยวกับชุดเดรสที่ได้รับความสนใจของเธอ

ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2018 มีการออกอากาศรายการ Happy Together 4 ช่อง KBS 2 และดาราสาวคังฮันนาพูดถึงชุดเดรสที่เป็นไวรัลของเธอซึ่งเธอใส่ในงาน ‘Busan International Film Festival’ ในอดีต

ในตอนนั้นชุดเดรสสุดเซ็กซี่ของเธอกลายเป็นข่าวซึ่งชุดเผยให้เห็นแผ่นหลังลากยาวลงไปถึงก้น

misc.

คังฮันนาอธิบายว่า “มันเป็นผลงานการออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชื่อดัง เมื่อเธอที่ฉันได้รับข้อเสนอเรื่องชุดในตอนแรก ฉันคิดว่ามันดูสดใหม่ดี มันดูแตกต่าง และเจ๋งดี แต่มันกลายเป็นสิ่งที่น่าเศร้าสำหรับฉันเมื่อเวลาผ่านไป”

เธอกล่าวเสริม “มันมีตาข่ายอยู่ข้างหลังและบางคนเข้าใจผิดคิดว่าฉันมีรอยสักอยู่ที่ก้นมันทำให้ฉันรู้สึกกังวลนิดหน่อยค่ะ”

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

Happy Unni ร้านค้าแฟชั่น

ซอลลี่เปิดใจว่าทำไมเธอถึงออกจาก f(x) ในตอนแรกของรายการ Jinri Store

ซอลลี่เปิดเผยว่าทำไมเธอถึงตัดสินใจออกจาก f(x) ในตอนแรกของรายการ Jinri Store

ในวันที่ 25 ตุลาคม 2018 ซอลลี่กำลังพูดกับผู้จัดการของเธอและเผยว่า “ฉันคิดว่าเป็นเพราะฉันทำงานตั้งแต่เด็ก มีคนไม่มากที่คิดว่าฉันยังเด็ก มีช่วงเวลาที่น่ากลัวมากมาย พวกเขาบอกฉันให้ทำอะไรบางอย่างและฉันไม่รู้เหตุผลว่าทำไมฉันถึงต้องทำ”

เธอกล่าวต่อ “เมื่อถึงจุดหนึ่งฉันเริ่มสงสัยว่า ‘ทำไมฉันถึงต้องทำสิ้งนี้?’ ฉันไม่คิดว่ามันจะเหมาะกับฉัน” ซึ่งหมายถึงการออกจาก f(x) ในปี 2015

เธอสรุปว่า “ฉันกลัวและไม่มั่นใจในอนาคตของฉัน ดังนั้นฉันจึงพยายามปกป้องตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฉันพยายามจะปกป้องตัวเองดังนั้นเมื่อความกลัวก่อตัวขึ้นไม่มีใครฟังฉันเลยตอนที่ฉันเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบาก มันรู้สึกเหมือนฉันถูกทิ้งไว้คนเดียวในโลก”

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

Happy Unni ร้านค้าแฟชั่น

หัวหน้าวง The East Light เปิดใจว่าพวกเขาถูกทำร้ายทั้งทางกายและวาจาจาก CEO และโปรดิวเซอร์

อีซอกชอลหัวหน้าวง The East Light ได้ออกมาพูดถึงการทำร้ายร่างกายและการพูดจากดูหมิ่นเหยียดหยามโดย CEO และโปรดิวเซอร์ของต้นสังกัด

ในวันที่ 19 ตุลาคม 2018 มนายความจองจีซอกและอีซอกชอลจัดแถลงข่าวและพูดถึงรายงานเรื่องการทำร้ายร่างกายซึ่งก่อนหน้านี้มีรายงานว่าสมาชิกวง The East Light ถูกทำร้ายทั้งทางกายและทางวาจาจากโปรดิวเซอร์และ CEO คิมชางฮวานของ Media Line Entertainment เริ่มตั้งแต่พวกเขาเดบิวต์จนถึงปีที่แล้ว

ในการแถลงข่าวอีซอกชอลกล่าวว่า “ในฐานะหัวหน้าวง The East Light และเป็นหนึ่งในศิลปิน K-Pop ผมไม่สามารถทนต่อความเจ็บปวดที่สมาชิกเราของกำลังเผชิญ เราตัดสินใจจัดงานแถลงข่าวเพื่อหวังว่าจะยุติเรื่องการทารุณเด็กและละเมิดสิทธิมนุษยชนในวงการ K-Pop”

เขาเล่าว่า “จากปี 2015-2017 โปรดิวเซอร์ใช้ไม้เบสบอลหรือท่อนเหล็กในห้องซ้อมตีก้นเราจนลงไปนอนกับพื้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาขู่ว่าจะฆ่าเราด้วยหากเราบอกพ่อแม่”

อีซอกชอลยังพูดถึงอีซึงฮยอนน้องชายของเขาผู้ที่อยู่ในวงเดียวกันว่า “น้องชายของผมถูกล็อคให้อยู่ในห้องอัดและทุบตีเขาที่หัว, ขา, แขน และก้นอยู่หลายครั้ง หัวของเขามีเลือดออกและมีรอยฟกช้ำ เขาจิตใจบอบช้ำหลังจากถูกขู่และใช้ความรุนแรงและตอนนี้เขากำลังได้รับการบำบัดทางจิต”

The East Light’s Lee Seok Cheol Opens Up About Recent Reports Of Abuse + To Take Legal Action

จองจีซอกทนายความของวงเปิดเผยว่าอีซึงฮยอนถูกบังคับให้ออกจากวงหลังจากประท้วง CEO เกี่ยวกับการกลับมาของโปรดิวเซอร์ “A” จองจีซอกกล่าวว่า “ครอบครัวของอีซึงฮยอนและอีซอกชอลไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลยจนกระทั่งต้นสังกัดให้สัญญาว่าความรุนแรงต่อสมาชิกจะไม่เกิดขึ้นอีกครั้ง พวกเขาไม่รู้ว่ามีการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้นซ้ำๆ พวกเขารู้เพียงแค่เหตุการ์เดียวที่เกิดขึ้น พวกเขาทราบเรื่องทั้งหมดเพราะลุกชายของพวกเขาสารภาพบอกทุกอย่างเมื่ออีซึงฮยอนถูกปลดออกจากวง”

เขากล่าวเสริม “ไม่เพียงแต่อีซึงฮยอนแต่อีซอกชอลก็ตัดสินใจที่จะไม่อยู่กับต้นสังกัดที่ไร้มนุษยธรรม เราตัดสินใจที่จะใช้กฎหมายจัดการกับทั้งโปรดิวเซอร์ A และ CEO คิมชางฮวาน”

แปลจาก soompi โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

Happy Unni ร้านค้าแฟชั่น

ซอลลี่เปิดใจเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิตของเธอ

ซอลลี่เปิดใจเกี่ยวกับสุขภาพจิต

ในวันที่ 15 ตุลาคม 2018 ซอลลี่แชร์ทีเซอร์ D-8 สำหรับรายการเรียลลิตี้ ‘Jinri Store’ เป็นคลิปสั้นๆที่ซอลลี่เปิดใจเกี่ยวกับการต่อสู้ของเธอ ซอลลี่กล่าวว่า “โรคกังวลต่อการเข้าสังคม, โรคตื่นตระหนก…ฉันเป็นโรคตื่นตระหนกตั้งแต่ฉันยังเด็ก”

เธอกล่าวต่อ “ฉันเจ็บปวดจากคนจำนวนมาก สุขภาพจิตฉันแย่ลง ไม่มีใครอยู่เคียงข้างฉัน ไม่มีใครเข้าใจฉัน”

ในขณะเดียวกันตอนแรกของ Jinri Store จะออกอากาศในวันที่ 23 ตุลาคม 2018

 

View this post on Instagram

 

#진리상점 D-8 🤭

A post shared by 설리가진리 (Sulli) (@jelly_jilli) on

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

Happy Unni ร้านค้าแฟชั่น

นัมจูฮยอกเปิดใจถึงความลำบากด้านการเงินของครอบครัวในอดีต

นัมจูฮยอกเปิดใจถึงความลำบากด้านการเงินของครอบครัว

ในวันที่ 19 กันยายน 2018 มีการออกอากาศรายการ Radio Star ของ MBC และนัมจูฮยอกเผยว่าเขาเติบโตมาในครอบครัวที่ยากจน เขากล่าวว่า “ในอดีตครอบครัวของผมมีช่วงเวลาที่ยากลำบากและมันลำบากมากจริงๆครับ ตอนผมอยู่ป.3 ผมกินแต่บะหมี่ถ้วยเป็นปีๆ บ้านของเราไม่มีแม่แต่ห้องน้ำครับ”

อย่างไรก็ตามนัมจูฮยอกเล่าว่าตอนนี้เขาสามารถดูแลครอบครัวและแม้กระทั่งบริจาคให้กับโรงเรียนของเขา

เมื่อได้ยินดังนี้โจอินซองเล่าว่า “จูฮยอกเคยร้องไห้ขณะที่คุยกับพี่ชาแทฮยอนด้วยครับ” นัมจูฮยอกอธิบายว่า “ผมไม่รู้ว่าทำไมแต่จู่ๆผมก็ร้องไห้ สถานการณ์ของผมมันไม่ค่อยดีตอนอายุ 21 แม้ว่าผมจะเป็นนายแบบ แต่มันก็ดีขึ้นหลังจากละคร ‘School 2015′” และกล่าวว่า “คุณแม่ของผมสามารถใช้บัตรได้อย่างสบายแล้วครับในตอนนี้”

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

Happy Unni ร้านค้าแฟชั่น

เจบี GOT7 เปิดใจเกี่ยวกับการดื่มของพ่อที่เป็นปัญหานำไปสู่การหย่าร้างของพ่อและแม่

เจบี GOT7 เปิดใจเกี่ยวกับการหย่าร้างของพ่อและแม่

ในวันที่ 17 กันยายน 2018 ในระหว่างออกอากาศรายการ Hello Counselor วัยรุ่นจองยุนซอได้เล่าถึงความกังวลเกี่ยวกับความประมาทของคุณพ่อเธอ ยุนซอเผยว่าคุณพ่อเธอพลาดเหตุการณ์สำคัญหลายครั้งเช่นพิธีเข้าโรงเรียนและมักจะกลับบ้านช้าหลังจากดื่ม อย่างไรก็ตามคุณพ่ออ้างว่าเขาจำอะไรไม่ได้เลยเนื่องจากเขาเมาจนจำไม่ได้

หลังจากได้ฟังปัญหาครอบครัว เจบีเผยว่า “คุณพ่อคุณแม่ของผมหย่าร้างกันเพราะปัญหาเรื่องดื่ม ดังนั้นตอนนี้ผมอยู่กับพ่อเลี้ยง ครอบครัวของผมทะเลาะกันบ่อยดังนั้นผมจึงประหลาดใจมากที่ผมได้ยินแม้กระทั่งเสียงเบาๆ ผมคิดว่ามันส่งผลกระทบอย่างมากต่อการเติบโตของเด็กครับ”

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

Happy Unni ร้านค้าแฟชั่น

เยอึนเปิดใจเกี่ยวกับประเด็นปัญหาการฉ้อโกงของคุณพ่อของเธอ

เยอึน (HA:TFELT) อดีตสมาชิก Wonder Girls ได้พูดถึงประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับเธอและคุณพ่อของเธอ

ในวันที่ 11 กันยายน 2018 เยอึนได้พูดเกี่ยวกับสถานการณ์ของคุณพ่อในการให้สัมภาษณ์กับ Edaily เธอเล่าว่า “ฉันเดบิวต์และโปรโมทในฐานะสมาชิก Wonder Girls เป็นเวลา 10 ปี จากนั้นฉันก็เข้าร่วม Amoeba Culture และใช้ชื่อ HA:TFELT ถึงมันจะไม่มากแต่ฉันก็มีรายได้เพียงพอที่จะกินสิ่งที่ฉันอยากกินและช่วยรายจ่ายให้กับครอบครัวได้ ไม่มีเหตุผลใดที่ฉันต้องไปมีส่วนร่วมในการฉ้อโกง ฉันไม่ได้ประมาท่หรือโง่ขนาดที่จะทำอะไรแบบนั้น”

เยอึนพูดถึงเรื่องราวของครอบครัวเธอที่แสนเจ็บปวดและพ่อแม่หย่าร้างกันเมื่อเธออายุ 12 ปี พ่อของเธอแต่งงานใหม่หลังจากนั้นอีก 3 ปีและเธอโตมาโดยไม่ได้ติดต่อกับพ่อของเธอเลย เธออธิบายว่า “ตั้งแต่ฉันจำความได้ การนอกใจของพ่อทำให้พ่อแม่หย่าร้างกัน ความสัมพันธ์ของฉันกับพ่อไปถึงจุดที่ฉันไม่เคยแม้แต่จะเรียกเขาว่า ‘พ่อ'”

เธอกล่าวต่อ “เมื่อตอนที่พี่สาวของฉันแต่งงานในปี 2012 ครอบครัวของเราต้องพูดกับพ่ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลังจากนั้นเขายังคงติดต่อมาหาฉันและบอกว่า ‘พ่อคิดถึงลูก พ่อขอโทษ’ ฉันให้อภัยเขาและเรายังคุยกันอยู่ แต่ในที่สุดควาฒโกรธก็ระเบิดขึ้นอีกครั้งและเราตัดขาดกันและกัน เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นซ้ำๆและฉันไม่คิดเลยว่าช่วงเวลาสั้นๆที่ฉันยกโทษให้พ่อจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้”

เกี่ยวกับรายงานที่ว่าเธอมีส่วนร่วมในธุรกิจของพ่อ เธอแสดงความเห็นว่า “ฉันไม่เคยร่วมด้วยและสัญญาว่าฉันไม่ได้โกหก” พ่อของเธอได้ขอให้เธอแนะนำเขากับโปรดิวเซอร์เพื่อเตรียมทำธุรกิจบันเทิง ดังนั้นเธอจึงแนะนำโปรดิวเซอร์ให้กับเขาและทั้งสามเคยคุยกันที่ร้านกาแฟครั้งเดียว เธอกล่าวต่อ “ฉันเพียงแนะนำโปรดิวเซอร์และมันไม่ใช่ข้อมูลธุรกิจ ถ้าฉันรู้ว่ามันเกี่ยวกับการฉ้อโกงฉันคงไม่นัดพวกเขาพบกันและแต่การติดต่อกับพ่อฉันทันที”

เยอึนหลั่งน้ำตาในขณะที่พูดถึงการเป็นเหยื่อการฉ้อโกงและการล่วงละเมิดทางเพศว่า “หัวใจของฉันเจ็บปวดมาก พวกเขาคงผ่านความเจ็บปวดมามากกว่าฉัน ถ้าชื่อของฉันถูกใช้ในการฉ้อโกงโดยที่ฉันไม่รู้ ฉันรู้สึกอับอายมากยิ่งกว่า”

เธอสรุปว่า “ฉันไม่สามารถให้อภัยพ่อเพราะทำผิดในการฉ้อโกงและล่วงละเมิดทางเพศ ครอบครัวของฉันและฉันสัญญาว่า ‘เราจะไม่ติดต่อกับพ่ออีก’ คิดแล้วมันก็เจ็บปวดหัวใจ ฉันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีนี้เลย ฉันจะอดทนต่อการไค่สวนและเผชิญหน้ามันอย่างจริงจัง”

ต้นสังกัดของเธอก็ยืนยันว่าเธอและพ่อของเธอถูกฟ้องเรื่องฉ้อโกงแต่เธอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและเธอกำลังให้ปากคำเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเธอ

แปลจาก soompi โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

Happy Unni ร้านค้าแฟชั่น

อีดอน Pentagon เปิดใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ล่าสุดของเขาและหายไปจากการโปรโมทกับวง

ในวันที่ 7 กันยายน 2018 E’Dawn ได้เขียนผ่านแฟนๆคาเฟ่ของ Pentagon ถึงแฟนๆของเขา

และนี่เป็นจดหมายของเขาถึงแฟนๆว่า:

“สวัสดีทุกคนนี่อีดอนนะครับ ผมขอโทษที่เขียนข้อความกะทันหันอย่างนี้ ผมตื่นเต้นมากที่จะได้เจอกับแฟนๆที่พิธีเปิดแฟนคลับในเดือนสิงหาคมและสมาชิกทุกคนตื่นเต้นและรู้สึกขอบคุณโอกาสนี้ ผมอยากพูดคุยกับทุกคนโดยตรงแต่ผมไม่สามถเข้าร่วมได้

ผมอยากแสดงความมั่นใจและแสดงความจริงใจของผม ผมขอโทษที่จู่ๆก็หายไปและสร้างความผิดหวังและสับสนให้กับแฟนๆของเรา ผมขอโทษที่มาช้าขนาดนี้และผมไม่รู้ว่าคำพูดของผมจะถึงคุณมั้ย แต่ผมอยากแชร์บางอย่างที่ผมคิดถึงแฟนที่รอผมอย่างไม่รู้จบ

ก่อนที่เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นผมมักจะคุยกับสมาชิกเกี่ยวกับทางเลือกของผมว่าถูกหรือผิด ก่อนที่จะตัดสินใจใดๆผมกลัวและไม่แน่ใจในตัวเอง แต่เนื่องจากทางเลือกนี้ผมทำเพื่อตัวเอง ผมคิดว่ามันจะดีกว่าที่จะซื่อสัตย์มากกว่าต้องโกหกไปเรื่อยๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงตัดสินใจเผชิญหน้ากับทุกคนอย่างจริงใจ

ผมอยากรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับแฟนๆที่จะมาเจอกับพวกเขาและแสดงอย่างจริงใจแต่ผมไม่สามารถรักษาสัญญาได้ในการโปรโมทล่าสุด อย่างไรก็ตามผมดีใจที่ผมสามารถโปรโมทกับสมาชิกและแสดงเพลงที่เราทำกันมาอย่างหนัก ผมจะไม่สามารถเข้าร่วมกับพวกเขาโดยตรงได้ในครั้งนี้แต่ผมจะคอยให้กำลังใจแฟนๆและสมาชิกด้วยอัลบั้มใหม่ที่ทุกคนทำงานกันอย่างหนัก

หนึ่งเดือนมันเป็นเวลานานมากสำหรับผม ผมกังวลว่าหลายคนจะเกลียดผมในตอนแรกหรือรู้สึกเจ็บปวด ผมคิดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆในระหว่างนั้น ผมรู้สึกเศร้าที่สิ่งนี้คือทางเดียวที่ผมจะแสดงวามจริงใจของตัวเอง ผมไม่รู้ว่าเราจะสามารถเจอกันอีกครั้งได้เมื่อไหร่แต่ขอให้มีสุขภาพดีและผมหวังว่าสิ่งดีๆจะเกิดขึ้นกับทุกคนในอนาคต ผมสบายดีครับ

ผมขอโทษและขอบคุณ ผมคิดถึงพวกคุณ ผมจะบอกให้คุณรู้ถึงสิ่งใหม่ๆถ้ามีโอกาส”

ในวันที่ 22 สิงหาคม 2018 Cube Entertainment ประกาศว่าอีดอนและ Yan An จะไม่เข้าร่วมโปรโมทกับวง Pentagon และต้นเดือนนั้นฮยอนอาและอีดอนเปิดเผยความสัมพันธ์ของพวกเขาว่าคบกันมา 2 ปีแล้ว

แปลจาก soompi โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB
Happy Unni ร้านค้าแฟชั่น

ฮายอง A Pink เปิดใจกับฮโยยอน SNSD ว่าเธอเสียใจที่ไม่ค่อยออกไปสังสรรค์กับใครในอดีต

ไอดอลสาวฮายอง A Pink ได้เปิดใจคุยกับฮโยยอน SNSD รุ่นพี่ในวงการ K-Pop ว่าการที่เธอไม่เข้าสังคมและไม่ไปสังสรรค์กับใครเลยนั้นมีผลต่อการงานของเธอเช่นกัน

วันที่ 31 สิงหาคม 2018 มีการออกอากาศรายการ Secret Sister ทางสถานี JTBC4 ซึ่งฮโยยอน SNSD และฮายอง A Pink ได้จัดปาร์ตี้ชุดนอนเพื่้อพูดคุยเปิดใจกันในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้องในวงการ

ฮโยยอนเลือกการ์ด “เสียใจ” เป็นการ์ดแสดงอารมณ์ และเผยว่าเธออยากฟังเรื่องที่ฮายองรู้สึกเสียใจ

ฮายองเล่าว่า “เมื่อมองย้อนกลับไปฉันมีเรื่องให้กลัวมากมายในอดีต ทั้งที่ฉันสามารถออกไปกินอาหารข้างนอกเพื่อสังสรรค์กับเพื่อนหรือไปร้านกาแฟแต่ฉันไม่ไปเพราะว่าฉันกลัวค่ะ ฉันไม่อยากให้มีข่าวลือเกี่ยวกับฉันเกิดขึ้นดังนั้นเลยไม่ออกไปไหนในสถานที่แบบนั้น”

ฮายองเล่าต่อ “ฉันมักคิดเสมอว่าที่ไหนที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, คนเยอะๆ และที่ที่มีเพศตรงข้ามเยอะๆจะทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้ ดังนั้นฉันจึงแค่ไม่ออกไปในสถานที่เหล่านี้ค่ะ แต่เพราะแบบนี้ความสัมพันธ์ส่วนตัวของฉันกับคนอื่นกลับลดลงและมันมีผลต่อการโปรโมทเพราะฉันไม่รู้จักใครเลยค่ะ ยกตัวอย่างเช่นเวลาที่ฉันต้องขอให้ศิลปินมาร่วมงานด้วยหรือต้องเชิญใครแต่ฉันกลับไม่มีคนให้โทรหาเลย เมื่อก่อนฉันไม่คิดว่าชีวิตการเข้าสังคมเป็นเรื่องสำคัญ แต่ทุกวันนี้ฉันถึงเห็นความสำคัญของมันมากขึ้นทีละนิดค่ะ”

ฮโยยอนถามว่า “เธอได้ออกไปสังสรรค์กับคนอื่นบ้างไหม?” ฮายองตอบว่า “ฉันไม่ออกไปพบกับใครข้างนอกเลยค่ะ” ฮโยยอนได้ยินดังนั้นจึงกล่าวว่า “ฮายอง มันยังไม่สายไปหรอกนะ ฉันคิดว่ามันสำคัญจริงๆในการออกไปพบเจอผู้คนบ้างไม่ว่าพวกเขาจะเป็นเพื่อนใหม่หรือคนที่เธอรู้จักอยู่แล้ว เธอจำเป็นต้องพบกับคนเยอะๆเพื่อจะได้รู้ว่าใครเป็นคนดีบ้าง”

ในสัมภาษณ์เดี่ยวฮโยยอนกล่าวว่า “มีข้อจำกัดมากมายสำหรับเกิร์ลกรุ๊ปค่ะ พวกเรามักถูกห้ามไม่ให้ทำอะไร แม้ว่าคุณจะเป็นผู้ใหญ่แล้วคนอื่นก็อาจจะบอกเราว่า ‘อะไรนะ? คุณดื่มด้วยหรือ?’ เพราะแบบนี้ฉันว่าเธอเลยต้องเคร่งครัดกับตัวเองค่ะ เธอสามารถมีความสุขกับบางอย่างได้โดยไม่ล้ำเส้นอย่างเช่นการออกไปพบเจอผู้คนบ้างค่ะ”

ฮโยยอนกล่าวต่อพร้อมหัวเราะว่า “เธอจำเป็นต้องมีคนดีอยู่ข้างๆ แบบฉันเป็นต้นค่ะ”

แปลจาก soompi โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB
Happy Unni ร้านค้าแฟชั่น

ซึงรี BIGBANG เปิดใจกับฮวาซา MAMAMOO ที่เขาเป็นสมาชิกที่ไม่เป็นที่นิยมในอดีต!!

ซึงรี BIGBANG ได้เปิดใจคุยกับฮวาซา MAMAMOO ไอดอลรุ่นน้องในวงการ K-Pop ที่เขาเป็นสมาชิกที่ไม่เป็นที่นิยมในอดีต

วันที่ 20 สิงหาคม 2018 มีการออกอากาศรายการ Please Take Care of My Refrigerator ทางสถานี JTBC โดยในรายการซึงรีได้แสดงความยินดีกับฮวาซาที่วีดีโอของเธอได้รับความนิยมจนเป็นไวรัล อีกทั้งพูดคุยเปิดใจที่เขาเป็นสมาชิกที่เป็นที่นิยมน้อยที่สุดในวงดังอย่างบิ๊กแบง (BIGBANG)

การที่ฮวาซากำลังเป็นที่นิยมและได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในตอนนี้ ซึงรีกล่าวว่า “เริ่มแรกคุณควรจะเช็คสมาชิกของคุณ ตอนนี้สมาชิกวงคุณคงจะได้รับข้อความมากมายที่ถามว่า ‘ฮวาซาเป็นอย่างไร? เธอกินจุจริงๆหรือเปล่า?’ ย้อนไปเมื่อตอนนั้นฉันได้รับข้อความแนวๆนี้เกี่ยวกับพี่จีดราก้อนเหมือนกัน”

เมื่อสมาชิกรายการพากันหัวเราะ ซึงรีกล่าวว่า “แต่ในช่วงเวลาแบบนี้คุณควรดูแลเพื่อนสมาชิกให้มากขึ้น คำแนะนำที่ดีที่สุดที่จะบอกพวกเธอคือ ‘เธอต้องปูทางเพื่อตัวเอง'”

ผู้ที่ได้ฟังในรายการเริ่มเข้าใจถึงความโหดร้ายในวงการบันเทิงและซึงรียืนยันความจริงโดยกล่าวว่าเหล่าต้นสังกัดมักจะโฟกัสเอาใจใส่เฉพาะสมาชิกที่โด่งดัง และสมาชิกคนอื่นของวงนั้นไม่มีกระทั่งความช่วยเหลือจากทีมงานด้วยซ้ำ

ชมคลิปนี้ด้านล่างเลย

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB
Happy Unni ร้านค้าแฟชั่น

คังจียองเปิดใจสมาชิก KARA ยังคงติดต่อกันอยู่และสนิทกันดี

คังจียองเล่าว่ามิตรภาพของสมาชิก KARA ยังคงแข็งแรง

นับตั้งแต่ออกจากวง KARA คังจียองก็โฟกัสให้กับอาชีพนักแสดงในประเทศญี่ปุ่น และในระหว่างให้สัมภาษณ์ภาพยนตร์เรื่อง “Killer, Her” ที่งาน 22nd Bucheon International Fantastic Film Festival (BIFAN) จียองเผยว่าสมาชิก KARA ยังคงติดต่อกันอยู่โดยกล่าวว่า “เราทุกคนไปได้ดีและยังคงมีกรุีปแชทกันอยู่ มันนานมาแล้วตั้งแต่เราเจอกันครั้งสุดท้ายเพราะเราทุกคนต่างยุ่งแต่เราติดต่อกันสม่ำเสมอ”

เมื่อถามว่าสมาชิกคนอื่นๆรู้สึกอย่างไรเมื่อคังจียองเป็นนักแสดงในประเทศญี่ปุ่น เธอตอบว่า “พวกพี่ๆบอกเสมอว่าภูมิใจมากขนาดไหน พี่กยูริตั้งฉายาให้ฉันว่า ‘เบบี้’ และพี่เขาบอกว่า ‘เบบี้ เธอสุดยอดมาก’ มันรู้สึกดีมากที่ได้ยินแบบนั้นจากพี่เขา” จียองยังเล่าอีกว่าเธอมักจะเจอกับกูฮาราบ่อยๆในญี่ปุ่นและกล่าวเสริมว่า “พี่จะบอกฉันเสมอว่าพี่เขาพักโรงแรมไหนและฉันจะไปที่นั่นและไปเที่ยวกับเธอค่ะ”

แปลจาก soompi โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB
Happy Unni ร้านค้าแฟชั่น

อียอนฮีเปิดใจเคยท้อแท้จนอยากเลิกเป็นดารามาก่อน

ดาราสาวอียอนฮีเปิดใจว่าเธอเคยท้อแท้ในช่วงที่ตกต่ำอย่างรุนแรงจนอยากเลิกเป็นดารามาก่อน

วันที่ 2 กรกฎาคม 2018 มีการออกอากาศรายการวาไรตี้เกี่ยวกับการเดินทาง Island Trio 2 ทางสถานี tvN ซึ่งดาราสาวอียอนฮีได้เปิดใจเกี่ยวกับความลำบากของอาชีพนักแสดงที่เธอผ่านมา

ขณะเดินเล่นผ่านต้นไม้กับคังโฮดง อียอนฮีได้เปิดใจของเธอหลังคังโฮดงถามติดตลกว่าเธอรู้ตัวเมื่อไหร่ว่าตัวเองสวย ดาราสาวตอบว่า “ฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองสวยมาก่อนเลยจริงๆค่ะ ฉันเพิ่งมารู้ตัวว่าสามารถเป็นคนดังได้เมื่อไม่นานมานี้เอง”

อียอนฮีเล่าถึงตอนท้อแท้ว่า “ฉันคิดว่าฉันคงต้องเลิกทำงานเป็นดาราแล้วเพราะเชื่อว่าตัวเองไร้ความสามารถ ฉันผ่านช่วงเวลาที่ตกต่ำ แต่หลังจากทบทวนเรื่องนี้ มีคนมากมายยังคงเจาะจงเลือกฉันอยู่ ดังนั้นฉันจึงรู้ว่าฉันยังสามารถทำงานต่อไปได้ค่ะ”

ในที่สุดอียอนฮีจึงสามารถเอาชนะช่วงเวลาที่ตกต่ำของเธอจนสามารถมีอนาคตที่สดใสทางการแสดงได้อย่างทุกวันนี้

แปลจาก soompi โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB
Happy Unni ร้านค้าแฟชั่น

ทิฟฟานี่เปิดใจถึงการโปรโมทเดี่ยวโดยไม่มี SM + เผยความคิดต่อ BTS และ BLACKPINK

นักร้องสาวทิฟฟานี่วงโซนยอชิแด (SNSD, Girls Generation) ได้เปิดใจถึงการออกอัลบั้มเดี่ยวล่าสุดโดยไม่เกี่ยวข้องกับ SM Entertainment ไม่เพียงเท่านี้ยังเผยความคิดต่อวงรุ่นน้องดาวรุ่งอย่าง BTS และ BLACKPINK

ล่าสุดทิฟฟานี่ได้ให้สัมภาษณ์ต่อ Paper เพื่อโปรโมทงานเดี่ยวของเธอ Over My Skin และได้พูดคุยกันถึงเรื่องต่างๆของเธอ

Over My Skin เป็นงานเดี่ยวแรกของทิฟฟานี่หลังออกจากต้นสังกัด SM Entertainment นักร้องสาวถูกถามว่า “การทำงานโดยไม่มี SM Entertainment มันเป็นอย่างไรบ้าง?”

ทิฟฟานี่ตอบว่า “การอยู่ใน SM ฉันคิดว่าบางทีมันอาจจะเข้มข้นกว่า ยิ่งใหญ่กว่าและส่วนใหญ่มีเรื่องให้เรียนรู้ในสิ่งที่ทำค่ะ SM มีกลุ่มแฟนขนาดใหญ่ที่คอยติดตาม ฉันรัก SM ฉันรักเหล่าศิลปินในนั้น ฉันเป็นแฟนคลับตัวยงที่ทำให้ฉันอยากเข้าไปในต้นสังกัดนั้น การได้เป็นส่วนหนึ่งของมันและการที่สามารถมีส่วนร่วมเริ่มต้นในปี 2011 – เพียงแค่งานฝีมือทั้งหมดของมัน ฉันจะรักเวลาที่ผู้คนมองฉันและกล่าวว่า ‘ว้าวเธอมีความคิดสร้างสรรค์จริงๆ’ กับ ‘โซนยอชิแดได้รับการขัดเกลามากจนมันต้องใช้เวลาสำหรับใครที่ได้พิจารณาพวกเราจริงๆ อ่า…ตอนนี้พวกเราอยู่มา 1 ปีแล้ว และพวกเขาก็เหมือนกับว่า ‘โอเฮ้ย โซนยอชิแดทำมันสำเร็จ!’ ศิลปะมันพูดให้ตัวเอง ฉันเชื่ออย่างนั้นค่ะ”

จากนั้น Paper ได้พูดถึง BTS และ BLACKPINK และถามว่า SM คิดจะให้โซนยอชิแดบุกตลาดเพลงตะวันตกหรือไม่ ทิฟฟานี่ตอบว่า “มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมากค่ะ” จากนั้นกล่าวต่อ “อินเตอร์เน็ตมันไม่เหมือนกันกับตอนที่พวกเราเริ่มต้นค่ะ”

ทิฟฟานี่กล่าวต่อ “ศิลปินรุ่นพี่ใน SM ความจริงแล้วแทบจะปูทางให้ในสิ่งที่โซนยอชิแดเป็นเลยค่ะ มันมีเกิร์ลกรุ๊ปและบอยแบนด์รุ่นต่อรุ่น เมื่อเราทำงานจริงๆมันจะสร้างรูปแบบนี้ให้กับศิลปินรุ่นน้องได้ผลิบาน คุณดู BTS คุณดู BLACKPINK มันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตอนนี้พวกเขากำลังเตะตาเป็นอย่างมาก ในตอนนี้ผู้คนต่างเข้าใจแล้วถึงงานฝีมือของ K-Pop มันเป็นงานที่เยอะมากค่ะ”

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB
Happy Unni ร้านค้าแฟชั่น

ฮีชอล Super Junior เปิดใจเล่าถึงอดีตที่เคยทำงานโรงงานมาก่อน

ฮีชอลหนุ่มหน้าสวยแห่งวงซุปเปอร์จูเนียร์ (Super Junior, SJ) เปิดใจเล่าถึงอดีตตอนที่เขาเคยเป็นหนุ่มโรงงานทำงานในโรงงานมาก่อน

วันที่ 9 มิถุนายน 2018 มีการออกอากาศรายการ Knowing Brothers ทางสถานี JTBC ซึ่งในตอนนี้หนึ่งในแขกรับเชิญได้แก่ดาราสาวโกอารา เธอพูดถึงฮีชอลที่เพื่อนเป็นร่วมค่าย SM Entertainment กับเธอมาก่อนที่เธอจะย้ายต้นสังกัด

โกอารากล่าวว่า “ในตอนแรก พี่ฮีชอลต้องใช้คอนเซ็ปต์ชิคๆใน SM Entertainment ค่ะ”

ฮีชอลอธิบายว่า “ก่อนเข้า SM Entertainment ผมทำงานในโรงงาน ที่โรงงานผมไม่ได้ชิคอะไรเลย คุณมักจะมีที่อุดหูติดตัวไว้เสมอเพราะความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก ทุกอย่างที่คุณเห็นในทีวีเป็นสิ่งที่ผมสร้างขึ้นมาครับ”

ซอจางฮุนกล่าวว่า “หากนายยังทำงานโรงงานอยู่ นายคงเป็นหนุ่มโรงงานที่หล่อที่สุดในประเทศของเรา”

แปลจาก allkpop โดย Youzab หากนำออกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (ไม่อนุญาตให้ Hotlink ไฟล์ภาพ)

ตอนนี้แฟนๆสามารถติดตามเราได้อีกช่องทางสามารถตาม Follow เราได้เลยที่นี่ ==>> IG YOUZAB

Happy Unni ร้านค้าแฟชั่น

Page 4 of 12« First...«234567»10...Last »

Like แฟนเพจของเราเพื่อติดตามข่าวสารอัพเดทก่อนใครได้ที่นี่เลยจ้า