1. ซองแจ BTOB เขาเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะมักเน่ของวง และได้รับงานแสดงบ้างประปราย แต่ที่ทำให้ซองแจเปรี้ยงและได้รับความรักมากมายจากผู้ชมคือการรับหนึ่งในบทนำของละครเรื่อง School 2015 ร่วมกับนัมจูฮยอกและคิมโซฮยอน
ไม่เพียงเท่านั้นขณะนี้ซองแจยังมีผลงานวาไรตี้โชว์ในรายการ We Got Married โดยแต่งงานปลอมๆกับจอย Red Velvet ที่สร้างสีสันความสดใสให้กับรายการ และผลงานละครเรื่องล่าสุดของเขาคือ The Village: Achiara’s Secret
2. กวักซียาง เขาได้รับความรักมากมายในบทผู้ช่วยเชฟจากละครเรื่อง Oh My Ghost และโด่งดังต่อเนื่องกับการเข้าร่วมรายการ We Got Married โดยแต่งงานปลอมๆกับดาราสาวคิมโซยอนที่มีอายุมากกว่าเขา
3. นัมจูฮยอก เป็นนักแสดงหนุ่มจาก YG Entertainment ที่ได้รับความรักมากมายจากการรับบทนำในเรื่อง School 2015 ร่วมกับซองแจและคิมโซฮยอน นับเป็นก้าวแรกในฐานะนักแสดงนำที่สร้างความประทับใจและสร้างความจดจำให้กับผู้ชม รวมทั้งยังขโมยหัวใจสาวๆได้มากมาย
4. พัคโบกอม เขาเคยร่วมเป็นนักแสดงสมทบในเรื่อง Tomorrow’s Cantabile และ I Remember You แต่ผลงานที่ทำให้เขาได้รับความรักมากมายจากผู้ชมจนกลายเป็นดาราดาวรุ่งได้แก่การรับบทในเรื่อง Reply 1988 ในบทหนุ่มน้อยเซียนโกะ (พาดุก) ที่เหมือนปูทางอนาคตที่สดใสทางการแสดงของเขา นอกจากนี้ตอนนี้พัคโบกอมยังมีผลงานเป็นพิธีกรรายการ Music Bank อีกด้วย
5. อีวอนกึน เขามีผลงานแสดงในเรื่อง The Moon That Embrace The Sun ในบทวัยเด็กขององครักษ์ และมีผลงานในเรื่อง Hyde, Jekyll, and I และเขาได้รับบทนำเต็มตัวในละครวัยรุ่นเรื่อง Cheer Up ที่แม้เรตติ้งไม่ดี แต่เขาก็ได้รับความรักมากมายจากแฟนๆ และได้รับฉายาหนุ่มหน้าสวย (แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ยอมรับก็ตาม)
6. โกคยองโพ เขาเคยมีผลงานในฐานะนักแสดงสมทบในละครเรื่องFlower Boy Next Door และ Tomorrow’s Cantabile และผลงานที่ส่งให้เขากลายเป็นดาราดาวรุ่งของปี 2015 ได้แก่ละครเรื่อง Reply 1988 ที่เป็นละครช่องเคเบิ้ลที่ได้รับเรตติ้งสองหลัก และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
ฮันเกิงอดีตสมาชิกวง Super Junior กำลังได้รับความสนใจในเกาหลีอีกครั้งเพราะการสัมภาษณ์ล่าสุดของเขากับสำนักข่าวจีน เขาพูดถึงการออกจาก SM Entertainment, Super Junior และอดีตสมาชิกวง EXO
ในการสัมภาษณ์กับสื่อจีน Sina เขากล่าวว่า “ผมรู้สึกภูมิใจที่ได้จบสัญญากับ SM Entertainment เพราะหลังจากที่ผมออก มีกฎหมายสองข้อที่เปลี่ยนแปลงไปเกี่ยวกับสมาชิกต่างชาติที่ทำงานในเกาหลี ซึ่งได้ช่วยให้เป็นประโยชน์ในการเพิ่มจำนวนของชาวจีนที่ทำงานในวงการบันเทิงเกาหลี”
ซันนี่ได้เป็นดีเจใน “Sunny’s FM Date” ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2014 ในระหว่าง 18 เดือนที่เธอเป็นดีเจ เธอได้ใกล้ชิดกับผู้ฟังมากขึ้นและเป็นกำลังใจให้กับทุกคน
SM Entertainment ยืนยันแล้วว่าซันนี่จะออกจากรายการวิทยุเนื่องจากตารางงานของเธอที่กำลังเข้ามาในเดือนนี้ เธอจะออกอากาศครั้งสุดท้ายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2015
ในวันที่ 29 ตุลาคม 2015 แจจุงเข้าร่วมงาน “2015 Korea Public Cultural Awards” ในกรุงโซล ซึ่งจากภาพในงานมีหลายคนสังเกตเห็นว่าจุดที่เขาติดธงชาติเกาหลีที่ไหล่ขวาของเขามันคว่ำอยู่ ทำให้เกิดประเด็นวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเขา
A Tale of Two Sisters เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมากจากตำนานของชาวเกาหลี เป็นเรื่องราวการผจยภัยของสองสาวพี่น้องหลังจากที่ใช้เวลาในสถานฟื้นฟูจิตใจ ได้กลับไปยังบ้านของพ่อเธอที่อยู่กับแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย สองพี่น้องได้กลับมาเจอแม่เลี้ยงที่โหดร้ายกับพวกเธอมากขึ้นรวมทั้งการปรากฏตัวของวิญญานแม่ของพวกเธอ ซึ่งเพิ่มบรรยากาศให้น่าขนหัวลุกมากขึ้นรวมทั้งความหวาดกลัวจนแทบหายใจไม่ออก
2. White: The Melody of the Curse (2011)
White: The Melody of the Curse เป็นเรื่องราวของเกิร์ลกรุ๊ปวง Pink Dolls ที่มักจะถูกวงอื่นที่โด่งดังทำให้พวกเธอหลุดอันดับเสมอ เมื่อสาวๆปล่อยเพลงใหม่ชื่อว่า White เวอร์ชั่นรีเมคจากต้นฉบับที่ไม่มีที่มา จนในที่สุดวงของพวกเธอได้ไต่อันดับขึ้นสู้แนวหน้า พร้อมกับสมาชิกแต่ละคนที่กลายเป็นเหยื่ออุบัติเหตุที่น่ากลัว อึนจูจึงรู้ว่าเพลง White เป็นเพลงต้องคำสาป
3. Death Bell (2008)
Death Bell เป็นเรื่องราวของนักเรียนที่เตรียมตัวอย่างหนักสำหรับสอบเอนทรานซ์ แต่แล้วเรื่องราวสยองขวัญเกิดขึ้นเมื่อฆาตกรโหดได้ขังนักเรียนไว้ในโรงเรียนและบังคับให้ตอบคำถามจากข้อสอบเอนทรานซ์ให้ถูก และหากตอบผิดแต่ละข้อจะทำให้เพื่อนร่วมชั้นตายทีละคน
4. The Red Shoes (2005)
The Red Shoes เรื่องราวของหญิงสาวที่พบรองเท้าส้นสูงสีชมพูบนสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน และต่อมาจึงรู้ได้ว่าความอิจฉา ความโลภและความตายติดตามพวกเธอไปทุกแห่ง
Into the Mirror เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับการตายของผู้หญิงอย่างต่อเนื่องในห้างสรรพสินค้าซึ่งทั้งหมดต่างเกี่ยวข้องกับกระจก และเป็นปัญหาของนักสืบที่สืบเพื่อไขคดีปริศนานี้